“ผบช.สตม.” นำแถลง “กก.สส.บก.ตม.5-ตม.นครสวรรค์” รวบแก๊งขนต่างด้าว เหิม!ซิ่งชนรถตำรวจหวังหลบหนี แต่ไม่รอด โดนรวบพร้อม 18 เมียนมาหลบหนีเข้าเมือง
17 มิถุนายน 2564 สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 และ พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สว.ตม.จว.นครสวรรค์ ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการลอบขนคนต่างด้าว
เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวัชรพงศ์ สัญชาติไทย พร้อมของกลาง รถกระบะสีขาว ทะเบียน แพร่ (ป้ายแดง) ซึ่งใช้บรรทุกคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 18 คนส่งดำเนินคดี โดยกล่าวหานายวัชรพงศ์ว่า “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานฯ เสพ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย ทำให้เสียทรัพย์ และฝ่าฝืนเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในจังหวัดตากโดยไม่ได้รับอนุญาต” และกล่าวหาคนต่างด้าวว่า “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก และฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดตาก เรื่องมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019)” เหตุเกิดบริเวณริมถนนพหลโยธิน กม.538-539 หมู่ 1 ตำบลสมอโคน อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยใช้รถยนต์ในการขนคนต่างด้าวจากเขตติดต่อ อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ กับ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ไปยังพื้นที่กรุงเทพฯ ต่อมาเวลาประมาณ 01.30 น. พบรถกระบะต้องสงสัยขับมาตามถนนพหลโยธิน หมู่ 7 ตำบลเถินบุรี อำเภอเถินบุรี จังหวัดลำปาง มุ่งหน้าไปทาง จังหวัดตาก จึงได้ขับรถยนต์ติดตามและสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่องมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเปิดสัญญาณไฟวับวาบและเรียกให้จอดรถ เมื่อรถดังกล่าวจอดแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถยนต์ส่วนตัว จอดขวางบริเวณด้านหน้ารถและได้นำรถยนต์อีกคันจอดขนาบข้างด้านขวา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะลงจากรถเพื่อเข้าไปตรวจสอบ ปรากฏว่านายวัชรพงศ์ พยายามจะหลบหนีและได้ขับรถชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคันเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับขี่หลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ ผลการตรวจสอบพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 18 คน อยู่ภายในรถ จึงได้จับกุมตัวนายวัชรพงศ์ ซึ่งเป็นคนขับ พร้อมคนต่างด้าวส่งดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี