หัวอก‘ครู ผู้ปกครอง นักเรียน’ กับการเรียนออนไลน์

หัวอก‘ครู ผู้ปกครอง นักเรียน’ กับการเรียนออนไลน์

วันอาทิตย์ ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 08.38 น.

หัวอก‘ครู ผู้ปกครอง นักเรียน’ กับการเรียนออนไลน์

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของครู ผู้ปกครอง นักเรียนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,749 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 14-17 มิถุนายน 2564 หัวข้อ “หัวอกครู ผู้ปกครอง นักเรียน กับการเรียนออนไลน์” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา เป็นวันเปิดภาคเรียนทั่วประเทศ แต่เนื่องจากยังอยู่ในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้สถานศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำการเรียนการสอนแบบออนไซต์ได้ จึงต้องใช้วิธีการเรียนออนไลน์ ทำให้ทุกฝ่ายต้องปรับตัวให้พร้อมรับกับการเรียนแบบออนไลน์ สรุปผลได้ ดังนี้


1. จากที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้เปิดเรียนวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ประชาชนคิดว่า ณ วันนี้ มีความพร้อมหรือไม่

ไม่พร้อม 51.35%        

พร้อม 32.33%       

ไม่แน่ใจ 16.32% 

2. ประชาชนคิดว่าการศึกษาไทย ณ วันนี้ พร้อมที่จะเรียนออนไลน์หรือไม่

ไม่พร้อม 63.30%        

พร้อม 21.31%       

ไม่แน่ใจ 15.39%

3. สิ่งที่ “ครู ผู้ปกครอง นักเรียน และประชาชนทั่วไป” กังวลเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ คือ   

3.1)  ครู   

อุปกรณ์ไม่พร้อม อินเทอร์เน็ตช้า 77.18%  

ผู้ปกครองไปทำงาน ไม่มีใครดูแลผู้เรียนที่บ้าน 69.74%  

ผู้เรียนไม่เข้าใจ/เรียนไม่ทัน 67.31%       

3.2)  ผู้ปกครอง 

ไม่มีสมาธิ ขาดความกระตือรือร้น 66.16%   

ไม่เข้าใจเนื้อหาที่ครูสอน 64.64%    

ผู้เรียนได้ความรู้ไม่เต็มที่ 61.65%                                             

3.3)  นักเรียน  

เรียนไม่เข้าใจ เรียนไม่ทัน 74.25%   

ไม่ได้พบเพื่อน ไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน 63.47%     

ได้ความรู้ไม่เท่ากับเรียนในห้องเรียน 62.28%

3.4)  ประชาชนทั่วไป  

ไม่มีสมาธิในการเรียนเท่าที่ควร  65.80%   

ไม่เข้าใจเนื้อหา เรียนไม่ทัน 61.92%   

อุปกรณ์ไม่พร้อม เช่น แท็บเล็ต อินเทอร์เน็ต 60.26%                     

4. สิ่งที่อยากให้ภาครัฐ/สถานศึกษาช่วยเหลือเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ คือ

อันดับ 1 สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับเรียนออนไลน์ 62.22%

อันดับ 2 มีส่วนลด/ใช้อินเทอร์เน็ตฟรีสำหรับผู้เรียน   58.28%

อันดับ 3 มีส่วนลดค่าบำรุงการศึกษา 55.80%

อันดับ 4 จัดการเรียนการสอนโดยเข้าใจถึงความแตกต่างของผู้เรียน 50.30%

อันดับ 5 มีนโยบายและมาตรการส่งเสริมการเรียนออนไลน์ 49.57%

5. ประชาชนคิดว่าการเรียนออนไลน์จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาระดับชั้นใดมากที่สุด

ระดับปฐมวัย 35.57%    

ระดับประถมศึกษา 33.77%    

ระดับมัธยมศึกษา 23.51%     

ระดับอุดมศึกษา 7.15%

6. ประชาชนคิดว่าการเรียนออนไลน์จะทำให้คุณภาพการศึกษาไทยเป็นอย่างไร

แย่ลง 68.52%             

เหมือนเดิม 25.40%             

ดีขึ้น 6.08%             

* หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)

นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า เมื่อการเรียนออนไลน์ต้องมาเป็นทางเลือกหลัก แต่ยังมีสถานศึกษา ผู้ปกครอง และนักเรียนบางส่วนที่ยังไม่มีความพร้อม จึงทำให้การเรียนออนไลน์เพื่อป้องกันโควิด-19 ครั้งนี้ กลับกลายเป็นการเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางการศึกษามากขึ้น เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี ภาครัฐจึงควรสนับสนุนงบประมาณหรืออุปกรณ์ ช่วยเหลือทั้งกลุ่มครู ผู้ปกครอง และนักเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเด็กไทยหลุดจากระบบการศึกษาไป

ด้าน ดร.เอื้ออารี จันทร หัวหน้าฝ่ายพัฒนาระบบการเรียนรู้ สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การเรียนออนไลน์ในชีวิตวิถีใหม่นี้ ควรเป็นโอกาสและความท้าทายใม่ใช่อุปสรรคของการเรียนรู้ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต้องปรับ Digital Mindset ให้รู้คิด รู้ใช้ เข้าใจ เปิดใจ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเท่าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รัฐบาล-สถานศึกษา-ครู-ผู้ปกครอง ต้องร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ ทั้งระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ทั่วถึงและเท่าเทียม ครูต้องปรับและเปลี่ยนวิธีจัดการเรียนรู้บนพื้นฐานของความเข้าใจพัฒนาการและพฤติกรรมของผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย เลือกใช้รูปแบบการเรียนรู้ สื่อ และกิจกรรมที่เหมาะสมและหลากหลาย ปรับรูปแบบเนื้อหาบทเรียนให้สั้นกระชับ ปรับการบ้านหรืองานเป็นงานย่อยๆ (Micro Content) ให้เข้าใจและเข้าถึงบทเรียนได้ง่าย  สร้างแรงกระตุ้นด้วย Edutainment เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกบทเรียนได้ด้วยตัวเอง ในแบบ “At their own pace”  หากผู้เรียนยังเล็กอยู่ หรือมีสมาธิสั้นเกินกว่าจะเรียนออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง ผู้ปกครองควรให้การสนับสนุนและติดตามการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง          

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top