เปิดรายงานกทม.! 19วันพบ78คลัสเตอร์ กางผลตรวจ‘แคมป์คนงาน’-4ตลาดย่านบางกะปิปิดยาว
21 มิถุนายน 2564 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่า กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 10/2564 โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ในที่ประชุมสำนักอนามัยและสำนักการแพทย์ ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กทม. โดยในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งประเทศ จำนวน 3,175 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 624 ราย รวมจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสม 60,366 ราย มีการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) จากแคมป์ก่อสร้าง สถานประกอบการ ตลาด ชุมชน และอื่นๆ (เนอร์สซิ่งโฮม) รวมจำนวน 78 Cluster ระหว่างวันที่ 24 พ.ค. – 11 มิ.ย. 64 (รวมระยะเวลา 19 วัน)
กทม. ได้ตรวจแนะนำและกวดขันให้ผู้ประกอบการตลาดในพื้นที่ กทม. ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ด้านกายภาพ) แล้ว จำนวน 482 แห่ง จากจำนวนตลาดในพื้นที่ทั้งสิ้น จำนวน 486 แห่ง คงเหลือตลาดที่ยังไม่ได้ตรวจ 4 แห่ง ซึ่งเป็นตลาดในพื้นที่เขตบางกะปิ เนื่องจากมีคำสั่งปิดตลาดปิดตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 64 และยังไม่มีกำหนดเปิด ได้แก่ 1. ตลาดสดลาดพร้าว 2. ตลาดกลางเมืองบางกะปิ 3. ตลาดสดบางกะปิ และ 4. ตลาดนางสาวอาภาภรณ์ ภักดีจรัส ทุกตลาดได้รับการตรวจแนะนำผ่านเกณฑ์ประเมินด้านกายภาพทุกแห่ง
สำหรับตลาดที่ปิดการดำเนินงานและยังไม่ได้ตรวจแนะนำ สำนักอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตรวจประเมินทันทีเมื่อเปิดทำการ นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการตามแผนการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด-19 ในตลาดพื้นที่ กทม. โดยการเก็บน้ำลายกับผู้ค้าในพื้นที่ตลาด จำนวนตลาดละ 75 ราย ระหว่างวันที่ 9 - 29 มิ.ย. 64 รวม 21 วัน จากผลการสุ่มตรวจแบบกลุ่มในแต่ละชุดตรวจ (LQAS) ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย. 64 ตรวจแล้ว 100 แห่ง ไม่พบเชื้อ 71 แห่ง พบเชื้อ 1 คน 18 แห่ง พบเชื้อตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป 11 แห่ง โดยมีผู้เข้ารับการตรวจทั้งสิ้น 5,968 ราย พบเชื้อ 76 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.27
ผลดำเนินการการตรวจเฝ้าระวังโควิด-19 ชุมชนในเขตพื้นที่ ตั้งแต่ 27 พ.ค. – 10 มิ.ย. 64 ได้ดำเนินการสุ่มตรวจประชาชนแล้ว จำนวน 49 เขต 262 ชุมชน โดยมีผู้เข้ารับการตรวจคัดกรอง 12,222 คน พบผู้ติดเชื้อจำนวน 26 เขต ใน 38 ชุมชน จำนวน 194 คน (คิดเป็นร้อยละ 1.30)
ในส่วนของแคมป์คนงานก่อสร้าง จากข้อมูล ณ วันที่ 16 มิ.ย. 64 ในพื้นที่ กทม. มีไซต์ก่อสร้าง 615 แห่ง แคมป์ก่อสร้าง 575 แห่ง โดยมีคนงานที่พักในแคมป์เป็นคนไทย 34,148 คน เป็นคนต่างชาติ 46,915 คน รวม 81,063 คน ซึ่ งได้ดำเนินการตามแผนการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด-19 ในแคมป์คนงานก่อสร้างพื้นที่ กทม. โดยกำหนดมาตรการออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้
ระดับที่ 1 ผู้ประกอบการ โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ตรวจประเมินตนเอง ตามมาตรการ SOP-Bubble Protocol ในแคมป์ที่พักคนงาน ภายใน 7 วัน (ระหว่างวันที่ 16-22 มิ.ย. 64) และส่งผลการตรวจฯ ให้สำนักงานเขตรวบรวมเพื่อติดตามตรวจสอบ
ระดับที่ 2 สำนักงานเขต โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล และฝ่ายโยธา ลงตรวจติดตามการปฏิบัติตามมาตรการ SOP-Bubble Protocol ของแคมป์คนงาน (ระหว่างวันที่ 23-30 มิ.ย. 64) และส่งข้อมูลให้สำนักอนามัยเป็นประจำทุกวัน เพื่อรายงาน ศปก.ศบค.
ระดับที่ 3 ฝ่ายความมั่นคงร่วมกับสำนักการโยธา สำนักอนามัย กรมอนามัย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจกำกับการปฏิบัติตามมาตรการ SOP-Bubble Protocol ของแคมป์คนงาน
นอกจากนี้ ยังได้สุ่มตรวจ LQAS คนงานก่อสร้าง จำนวน 587 แคมป์ ตรวจแล้ว 25 แห่ง (คิดเป็นร้อยละ 4.26) ไม่พบเชื้อ 11 แห่ง พบเชื้อ 1 คน 2 แห่ง พบเชื้อมากกว่า 2 คนขึ้นไป ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคุมตามมาตรการ Bubble and Seal จำนวน 10 แห่ง และอยู่ระหว่างรอผล 2 แห่ง ทั้งนี้ กทม. ยังเตรียมดำเนินการตามแผนการเฝ้าระวังและควบคุมโรคโควิด-19 ในโรงงาน จำนวน 122 แห่ง ในโรงงาน จำนวน 3 ประเภท ดังนี้ 1. อาหาร/แปรรูป จำนวน 19 แห่ง 2. ยา จำนวน 12 แห่ง และ 3. ตัดเย็บเสื้อผ้า จำนวน 91 แห่ง ซึ่งจะเริ่มตรวจในวันที่ 15 ก.ค. 64 เป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี