“ผบช.สตม.” นำแถลง “บก.สส.สตม.” บุกป่าชายแดนจับกุมแรงงานกัมพูชาลักลอบเข้าเมือง อีกคดีจับขบวนการนำพาแรงงานเมียนมาส่งสมุทรสาคร
22 มิถุนายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว
สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.ปฏิญญา จีรชนาสิน ผกก.2 บก.สส.สตม. สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีแรงงานกัมพูชาใช้วิธีการเดินเท้าจากฝั่งกัมพูชา ลักลอบเข้าประเทศไทย และหลบซ่อนตามป่าแนวตะเข็บชายแดนบริเวณหมู่บ้านหนองมั่ง ต.หนองแวง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อรอการลำเลียงเข้าสู่เมืองชั้นใน จึงได้วางกำลังเพื่อจับกุม จนกระทั่งพบแรงงานกัมพูชาจำนวน 9 คน หลบซ่อนอยู่ในป่า จึงเข้าจับกุม โดยแรงงานต่างด้าว ให้การว่า มีนายหน้าชาวกัมพูชาเป็นคนนำทาง โดยเดินเท้าประมาณ 10 กม. มายังจุดหลบซ่อนเสียค่าใช้จ่ายคนละ 500 บาท เพื่อรอการเคลื่อนย้ายเข้าไปทำงานที่ จ.ระยอง ปทุมธานี และสมุทรปราการ หากไปถึงปลายทางในเมืองชั้นในได้ต้องจ่ายเพิ่มอีกคนละ 15,000-20,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา และนำส่ง สภ.โคกสูง ดำเนินคดี
อีกคดีเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สส.สตม. สืบทราบว่ามีขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าวเมียนมา โดยใช้รถยนต์บรรทุกแรงงานเมียนมาจากชายแดนฝั่งตรงข้าม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลักลอบเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยจะนำแรงงานต่างด้าวมาซุกซ่อนพักไว้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง จึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยกระจายกำลังตามเส้นทางที่รถบรรทุกแรงงานวิ่งผ่าน จนกระทั่งพบรถบรรทุกยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ วิ่งผ่านถนนเศรษฐกิจ สภาพมีผ้าตาข่ายสีเขียวคลุมกระบะมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้ขับรถไล่ตามอย่างกระขั้นชิด และหยุดรถต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ จากการตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวเมียนมา จำนวน 10 คน คนขับรถเป็นชาวเมียนมา อีก 1 คน
แรงงานเมียนมา ให้การว่า ลักลอบเข้าประเทศไทยบริเวณชายแดนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสียค่าใช้จ่ายให้นายหน้าชาวเมียนมา 5,000-20,000 แล้วแต่ระยะทาง
ส่วนคนขับรถคือนายจอ ให้การว่า ได้เงินค่านำพาแรงงานเข้ามาที่สมุทรสาครหัวละ 5,000 บาท โดยจะขับรถไปรับบริเวณสี่แยกไฟแดงจุดนัดพบโดยจะมีนายหน้าเมียนมาและนายหน้าชาวไทย นำพาแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมาส่งให้ที่สี่แยกไฟแดงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี