"รมว.ศึกษาธิการ"ออกนโยบายเข้มตั้งไตรภาคี เป็นทีมย่อยสแกนมาตรการความปลอดภัยทุกโรงเรียน หลังพบมีนักเรียนติดเชื้อ ย้ำถ้าพบเด็กติดเชื้อ หยุดสอนแบบ on-site ปิดโรงเรียนฆ่าเชื้อทันที
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในสถานกาณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่ วันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตนได้ติดตามการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาทั่วประเทศ และ พบว่าเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 การเปิดเรียนแบบ on-site เรียนที่โรงเรียน จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดเรื่องมาตรการความปลอดภัย การปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เช่น เคร่งครัดให้เด็กสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างในโรงเรียน ดังนั้น เพื่อเป็นการสกัดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานศึกษา ตนจึงมีนโยบายเร่งด่วนให้หน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัด ทั้งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เข้มข้นเรื่องการตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งของรัฐและเอกชน ว่าได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงศึกษาธิการ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ หากโรงเรียนใดไม่เป็นไปตามมาตรการให้เร่งปรับปรุงทันที และหากทำไม่ได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก็ต้องหยุดเรียนแบบ on-site แล้วเลือกใช้รูปแบบอื่นในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนแทน เพื่อปรับปรุงในส่วนของโรงเรียนให้ได้ตามมาตรฐานตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ เพื่อความความปลอดภัยสูงสุดของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนผู้ปกครอง และประชาชนทุกคน
"กระทรวงศึกษาธิการจะได้มอบหมายให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ทุกจังหวัดตั้งคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งกรรมการประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และผู้ปกครอง ขึ้นมาทำหน้าที่ตรวจสอบมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของสถานศึกษา จัดให้มีการนิเทศ ตรวจติดตามทุกโรงเรียนเป็นประจำ และจะมีการตั้งคณะกรรมการชุดย่อยจำนวนหลายคณะ ซึ่งเป็นตัวแทนของไตรภาคีในพื้นที่ ลงสแกนสถานศึกษาในพื้นที่ของตนเอง เพื่อตรวจสอบหาช่องโหว่ และปรับปรุงพัฒนาอุดรอยรั่วในส่วนนั้น รวมถึงเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความหย่อนยานเรื่องมาตรการความปลอดภัย และในกรณีที่มีนักเรียนในโรงเรียนนั้นๆ ติดเชื้อเพียงคนเดียว หรือ ในชุมชนที่เป็นเขตบริการมีชาวบ้านติดเชื้อ ก็ให้โรงเรียนขอความเห็นชอบกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปิดเรียนแบบ on-site เพื่อทำความสะอาดโรงเรียน แล้วเลือกใช้การจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นให้แก่นักเรียนในระหว่างที่ปิดโรงเรียน เช่น การเรียน On Line ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ การเรียน On Hand โดยจัดส่งหนังสือ แบบเรียน แบบฝึกหัด หรือ ใบงานให้นักเรียนทำที่บ้าน เป็นต้น ซึ่ง ดิฉันมั่นใจ ว่า การที่มีคณะกรรมการชุดย่อย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่จำนวนหลายชุด จะทำให้สามารถสแกนสถานศึกษาทุกแห่งแล้วเสร็จโดยเร็ว และได้ข้อมูลจริง สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้มั่นใจว่าโรงเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัยจากโควิด" รมว.ศธ.กล่าวและว่า ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และคณะผู้บริหาร ศธ.กำหนดรายละเอียดของโครงสร้าง องค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่พร้อมแนวปฏิบัติที่ชัดเจนของคณะกรรมการไตรภาคี เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี