วันอังคาร ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แกะรอยความรุนแรงในครอบครัวยุคโควิด พบเปราะบางรุนแรงเพิ่ม 20%

แกะรอยความรุนแรงในครอบครัวยุคโควิด พบเปราะบางรุนแรงเพิ่ม 20%

วันศุกร์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 15.27 น.
Tag : ครอบครัว ความรุนแรง เปราะบาง ยุคโควิด
  •  

วงเสวนา"แกะรอยความรุนแรงในครอบครัวยุคโควิด"พบครอบครัวเปราะบางเกิดเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 "หมอมหิดล"ผุดแอพฯ ประเมินความเสี่ยงนำร่อง 4 จว. ด้าน"ผกก.อัมพวา"เปิดเกมรุกปั้น"อัมพวาโมเดล"พื้นที่ไม่เฉยต่อความรุนแรง ขณะที่ผู้ผ่านพ้นความรุนแรงในครอบครัว เผยช่วงโควิดมีคนเข้ามาขอคำปรึกษาปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2564 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ มีการจัดเสวนาออนไลน์ "แกะรอยโควิด-19 กับความรุนแรงในครอบครัว" จัดโดยมูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และเครือข่ายอัมพวาโมเดล สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายในงานมีละครสะท้อนปัญหาความรุนแรงฯ โดยทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์


นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ผลสำรวจสุขภาพผู้หญิงและบุคคลในครอบครัว ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก ปี 2563 พบว่า ความรุนแรงในครอบครัวเกิดจาก 4 ปัจจัย ได้แก่ 1.คนในครอบครัวต้องอาศัยอยู่กับผู้กระทำความรุนแรงมากขึ้น 2.เกิดความเครียดสะสมจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ 3.การเว้นระยะห่างทางสังคมจาก ญาติ พี่น้อง เพื่อน คนรู้จัก ทำให้การช่วยเหลือกันยาก ผู้หญิงจึงถูกใช้ความรุนแรงมากขึ้น และ 4.ผู้ถูกกระทำความรุนแรงเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทย เมื่อปี 2563 มีประชาชนขอความช่วยเหลือเรื่องความรุนแรงกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เพิ่มขึ้น 20% มีทั้งปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อไปแจ้งความเอง หรือขอให้มูลนิธิฯ ช่วยพาไปแจ้งความ ขณะเดียวกันการที่ผู้เสียหายเข้าไม่ถึงความช่วยเหลือเพราะตอนนี้รัฐมุ่งเน้นแต่เรื่องแก้ปัญหาโควิดทำให้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

"จากข้อมูลนี้สะท้อนว่าการระบาดของโควิด-19 พบความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจ คนขาดรายได้ ไม่มีงานทำ และเกิดความเครียดสะสม รวมถึงการล็อคดาวน์ ปิดสถานที่ ที่ผู้ชายใช้พบปะเพื่อนฝูง ทำให้ต้องอยู่ในครอบครัวมากขึ้น ผู้ชายส่วนหนึ่งยังปรับตัวไม่ได้ ทำให้เกิดภาวะความตึงเครียดในครอบครัวมากขึ้น และเริ่มใช้ความรุนแรงทั้งวาจา และการใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ด้วยความรู้สึกว่ามีอำนาจเหนือกว่าภรรยา ลูก ดังนั้นต้องบังคับใช้กฎหมายการกระทำความรุนแรงในครอบครัวอย่างเคร่งครัด ไม่มองเป็นเรื่องส่วนตัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ต้องทำงานเชิงรุก โดยให้อาสาสมัครในชุมชนเฝ้าระวังในครอบครัวที่เกิดปัญหาความรุนแรงและหาทางช่วยเหลือได้ทันท่วงที การประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับช่องทางการขอความช่วยเหลือเช่น สายด่วน 1300" นายจะเด็จ กล่าว

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผอ.สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กฯ มีโครงการเฝ้าระวังเด็กปฐมวัยที่อยู่ในครอบครัวยากจน และมีความไม่มั่นคงในครอบครัว อาทิ ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่หย่าร้าง ใช้ความรุนแรง มีการใช้สารเสพติด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่ออาชญากรรม และครอบครัวที่มีสุขภาพจิตไม่สมบูรณ์ ซึ่งในสถานการณ์โควิด ทำให้ครอบครัวที่ไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจเกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น หย่าร้าง ก่ออาชญากรรมเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 20 - 30 ทั้งนี้ เมื่อดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงดูพบความไม่เหมาะสมทั้งทางกายภาพ และอารมณ์  ส่วนการคุกคามทำร้ายร่างกาย พบว่ามีปัญหาเพิ่มขึ้นชัดเจน

"ครอบครัวเหล่านี้มีความเปราะบางอยู่แล้ว หากเราให้การช่วยเหลือ เป็นการตัดปัญหาใหม่ไม่ให้เข้าไปซ้ำเติมก็จะพอช่วยสกัดปัญหาใหม่ได้ ซึ่งขณะนี้เราได้เริ่มพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำรวจความเสี่ยง ความยากจน และความไม่มั่นคงของครอบครัว เพื่อจะได้รับการช่วยเหลือเป็นอันดับแรกๆ เมื่อเกิดวิกฤต โดยนำร่องใน 4 จังหวัด จังหวัดละ 1 ตำบล คือ กทม. สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ขณะนี้กำลังจะขยายไปทำทั้งจังหวัดที่นครสวรรค์ แต่ตอนนี้โควิดระบาด ทำให้เราไม่สามารถลงพื้นที่วงกว้างได้" รศ.นพ.อดิศักดิ์  กล่าว

พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน ผกก.สภ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้คนตกงาน และครอบครัวใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานขึ้น ส่งผลต่อความเครียด ความสัมพันธ์ในครอบครัว ทำให้เกิดความรุนแรงมากขึ้นด้วย ซึ่งตนมองว่าการที่ตำรวจทำงานตั้งรับเมื่อเกิดเหตุอย่างเดียวนั้นเอาไม่อยู่ แต่ถ้าทำงานเชิงรุก เท่ากับเป็นผู้คุมเกม เบื้องต้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไประงับเหตุความรุนแรงในครอบครัว ก็ให้ทำให้มีข้อมูลเพื่อติดตามความเสี่ยงในอนาคตด้วย ปัจจุบันเราพัฒนาเป็นเครือข่ายอัมพวาโมเดล โดยการทำงานเป็นทีมร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พม. บ้านพักเด็ก ฝ่ายปกครอง รพ.สต. ผู้นำชุมชน ครู และเจ้าอาวาสวัดบางกระพ้อม และมูลนิธิเด็กเยาวชนและครอบครัว ไม่มีคำสั่งแต่งตั้งอะไรที่เป็นทางการ วางรูปแบบการทำงานเชิงรุกโดยลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวที่มีการใช้ความรุนแรง เริ่มจากเด็กพิเศษ เด็กทั่วไป เด็กที่มีแนวโน้มก่ออาชญากรรม และเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ไม่ค่อยสมานฉันท์ ตามลำดับมีช่องทางในการสื่อสารตรงมาที่ตำรวจให้เข้าช่วยเหลือโดยเร็ว

"จากการทำงานเชิงรุก ทำให้พบว่าในครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงนั้นจะมีปัญหาหลายด้าน ที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา เช่น นักจิตวิทยา จิตแพทย์ นักพัฒนาชุมชน หรือด้านต่างๆ ซึ่งพบแก้ปัญหาได้ดีกว่าการทำงานแบบต่างคนต่างทำ ดังนั้นขณะนี้จึงเริ่มขยับเข้ามาทำเรื่องการป้องกันในระดับชุมชน สร้างวัฒนธรรม "เผือก" หรือการไม่นิ่งเฉยเมื่อเกิดความรุนแรง การลุกขึ้นมาเอาธุระกับปัญหาสังคม ต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไประงับเหตุ" พ.ต.อ.เผด็จ กล่าว

ขณะที่ นางนันทิยา พุ่มสุวรรณ ผู้ผ่านพ้นจากความรุนแรงในครอบครัว กล่าวว่า ตนอยู่กินกับสามีเก่ามาซึ่งติดยาเสพติด และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานาน เกิดอาการหลอน จึงทำร้ายร่างกายอยู่เสมอ จนปี 2558 ตนกำลังตั้งครรภ์ได้ 2 เดือน ก็ถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ต้องเข้า รพ. จึงได้แจ้งความ แต่ยังมองว่านี่คือครอบครัว จึงให้อภัย พยายามคุยให้เขาปรับตัวใหม่ หากทำดีก็จะกลับไป จนกระทั่งเขาออกบวชได้ 3 เดือนก็ถูกจับสึกและติดคุกเพราะเสพยา  เมื่อถูกปล่อยตัว เขาก็ออกมาทำร้ายอีก ตนถูกลากขึ้นรถแท็กซี่ไป เมื่อถึงบ้านของเขาก็ถูกทุบตีอย่างหนัก ใช้มีดแทง และฟันมือจนเส้นเอ็นขาด ต้องหนีไปซ่อนตัวที่บ้านญาติ แต่เขาก็ตามไปทำร้ายอีก ทางญาติตามคนมาช่วยตนจึงรอดมาได้ หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาก็แจ้งความเอาผิดและได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และตนก็ไม่ไปเจอเขาอีกเลย ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนตัวเชื่อว่าหากผู้หญิงที่เจอสถานการณ์แบบตน อย่าทน เพราะผู้ชายที่เคยทำร้ายเราแล้วครั้งหนึ่งก็มีโอกาสที่เขาจะทำร้ายเราเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงโควิดนี้ตนก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ใช้ชีวิตยากลำบาก รายได้ลดลงไปมาก ตอนนี้ตนท้องได้เจ็ดเดือนกับสามีใหม่ ก็มีปากมีเสียงกันบ้างในช่วงโควิด แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมามาก ทำให้ครอบครัวของเรา รู้จักปรับตัวผ่อนหนักเป็นเบา มีกติกาชีวิตร่วมกันไม่ข้ามเส้นไปใช้ความรุนแรง และตอนนี้ก็มีเพื่อนๆที่เจอปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเข้ามาขอคำปรึกษาอยู่บ่อยๆ เข้าใจว่าภาวะความเครียดที่มากกว่าปกติในช่วงโควิดนี้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะเกิดความรุนแรงในครอบครัวได้

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘วราวุธ’ถวายโล่‘ผู้สูงอายุแห่งชาติ2568’แด่‘สมเด็จพระธีรญาณมุนี’ พร้อมเชิดชูเกียรติ‘องค์กร-บุคคล’ดีเด่น ‘วราวุธ’ถวายโล่‘ผู้สูงอายุแห่งชาติ2568’แด่‘สมเด็จพระธีรญาณมุนี’ พร้อมเชิดชูเกียรติ‘องค์กร-บุคคล’ดีเด่น
  • เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำปี’67 น่าห่วงชีวิตเปราะบาง‘รายได้ต่ำ-หนี้สูง-เข้าถึงโอกาสน้อย’ เปิดรายงานความเหลื่อมล้ำปี’67 น่าห่วงชีวิตเปราะบาง‘รายได้ต่ำ-หนี้สูง-เข้าถึงโอกาสน้อย’
  • \'เลขาธิการ สนง.ศาลยุติธรรม\'ออกประกาศ การยื่นร้องส่งคำคู่ความคดีคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงสวัสดิภาพเด็กและครอบครัวออนไลน์ 'เลขาธิการ สนง.ศาลยุติธรรม'ออกประกาศ การยื่นร้องส่งคำคู่ความคดีคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงสวัสดิภาพเด็กและครอบครัวออนไลน์
  • \'รมว.พม.\' ชี้ สถิติความรุนแรงเด็กเยาวชนพุ่งในช่วง 5 ปี เผย 6 สาเหตุหลัก 'รมว.พม.' ชี้ สถิติความรุนแรงเด็กเยาวชนพุ่งในช่วง 5 ปี เผย 6 สาเหตุหลัก
  •  

Breaking News

‘ยะลา’จัดพิธีสวนสนามและทบทวนคำปฏิญาณ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ

ลูกบ้านรวมกลุ่มโวย‘ผญบ.’ไม่โปร่งใส สารภาพนำเงินกองทุนฯไปใช้ทางอื่น

‘พลังประชารัฐ’ลงพื้นที่‘แม่เปา’ มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัย‘น้ำท่วมเชียงราย’

3 โรคยอดฮิตของเด็ก ในช่วงฤดูฝน ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved