ปปส.ล่าข้ามชาติ
หัวโจกคนสำคัญ
เครือข่ายยาไอซ์
หนีกบดานในลาว
ป.ป.ส.ลุยถก 3 ชาติ ไล่เช็คบิลผู้บงการเครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ หนีซุกในสปป.ลาว ทั้งโชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติดภายในประเทศเพียบ ส่วนกองกำลังผาเมืองยึดอีก 4 ล้านเม็ด เตรียมส่งลงภาคใต้
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.)กล่าวว่าตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ส. เร่งขยายผลสืบสวนถึงผู้สั่งการในการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศนั้น จากคดีเฮโรอีนน้ำหนัก 314 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในถังสีเตรียมส่งออกไปยังประเทศที่สาม ณ ท่าเรือแหลมฉบัง พบว่าผู้สั่งการ คือ นายเอก หรือ เก่ง อ่อนเอี่ยม อายุ 38 ปี(ซึ่งบุคคลตามหมายจับใน คดีส่งเฮโรอีน 75 กิโลกรัมไปไต้หวัน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ปัจจุบันได้รับแจ้งว่าหลบหนีไปอาศัยยัง สปป.ลาว)ให้ส่งยาเสพติดไปประเทศออสเตรเลีย
ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลทั้งหมดให้ อัครฑูตที่ปรึกษาด้านควบคุมยาเสพติด ประจำกรุงเวียงจันทน์ เพื่อสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดใน สปป.ลาว นอกจากนี้ได้นำข้อมูลของผู้รับปลายทางและข้อมูลเครือข่ายทั้งหมดให้กับตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australia Federal Police – AFP) เพื่อดำเนินการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ สำนัก งาน ป.ป.ส.จะเชิญเจ้าหน้าที่จาก สปป.ลาว เวียดนาม และออสเตรเลีย ประชุมทางไกลผ่านระบบ VDO conference ร่วมกันเพื่อขยายผลจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าวโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน หรือ Seaport Interdiction Task Force (SITF) ซึ่งประกอบด้วย ป.ป.ส.,บช.ปส. ,ศุลกากร,ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.)ได้ปฏิบัติการเข้าจับกุม นายกรวิก จิณะบุตร อายุ 27 ปี เมื่อวันที่15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พร้อมยึดของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท1(ไอซ์) น้ำหนัก 10 กิโลกรัม (กก.)ซุกซ่อนอยู่ในที่นอนภายในบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม.ระหว่างเตรียมการจัดส่งออกไปประเทศฮ่องกงทางเรือ
ต่อมาได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2ราย ได้แก่ น.ส. ณัชรี เพ็งหล่ำ อายุ 28 ปี และนายคริสเตียน ชิบูไอกี เอ็มมานูเอล (MR.Christian Chibuike Emmauel) อายุ 31 ปี สัญชาติไนจีเรีย ณ บ้านเช่าหลังหนึ่ง ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดแพ็คยาเสพติด พบที่นอนลักษณะเดียวกันที่ซุกซ่อนยาเสพติดและอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพ็ค จากการสอบปากคำผู้ต้องหาไนจีเรีย เบื้องต้นทราบว่า ยาเสพติดถูกส่งมาจาก สปป.ลาว
ด้าน ที่กองบังคับการควบคุมที่ 2 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 (ร้อย ม.4 ฉก.ม.5) เมื่อเช้าวันเดียวกัน พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง (กกล.ผาเมือง) พร้อมคณะ แถลงข่าวการยึดยาบ้า 3,930,000 เม็ด หลังเปิดยุทธการสกัดกั้นยาเสพติดของกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ทั้งนี้ จากการลาดตระเวนของ ร้อย ม.4 ฉก.ม.5 บริเวณเส้นทางธรรมชาติสวนลิ้นจี่ บ้านหนองเต่า ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ใกล้เคียงกับบ้านขอบด้งที่หน่วยพบยาบ้ากว่า 200,000 เม็ด ก่อนหน้านี้ และตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 20 คน พร้อมอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น และทำการยิงเตือน แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ จากนั้นหน่วยจึงเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ผลการปฏิบัติตรวจพบเป้สีเขียว จำนวน 25 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 2,870,000 เม็ด
นอกจากนี้ หน่วยได้จัดกำลังเพิ่มเติมเพื่อเข้าตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงพื้นที่ดังกล่าว พบเป้สีเขียวอีก จำนวน 8 เป้ ภายในบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 860,000 เม็ด รวมยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 35 เป้ รวมทั้งสิ้น จำนวน 3,930,000 เม็ด, หน่วยได้นำของกลางส่งมอบให้กับ สภ.ฝาง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบของประเทศเมียนมา และการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ทำให้ชนกลุ่มน้อยที่ค้ายาเสพติด ตามแนวชายแดนมีการผลิต และเตรียมลักลอบนำเข้าเขตไทยมากขึ้น โดยอาศัยความชำนาญจากชาวเขาในการรับจ้างขนรอบละ15,000บาทต่อครั้ง คาดว่ากลุ่มขบวนการครั้งนี้เป็นกลุ่มของนายจะดา จะก่อ ที่เตรียมขนลงทางใต้ของประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี