สธ.คาดหากไม่มี ‘ล็อกดาวน์’ ยอดผู้ติดเชื้อจะสูงสุดรายวันถึง 4 หมื่นคน เสียชีวิตรายวัน 500 คน ช่วงกลางก.ย. แต่หากล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพ 25% และนาน 2 เดือน ลดผู้ติดเชื้อเหลือ 2,000 คนต่อวัน
30 กรกฎาคม 2564 กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ ประเด็นคาดการณ์แนวโน้มการติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย โดย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากตัวเลขแผนภูมิกราฟผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันและผู้ติดเชื้อเสียชีวิตในสถานการณ์จริงเทียบกับโมเดลการคาดการณ์ โดยมีการนำมาเทียบเคียงกับช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เพื่อเปรียบเทียบวิเคราะห์สถานการณ์ ช่วง 3-4 เดือนข้างหน้า จะพบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันสูงสุด หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์และใช้มาตรการเข้มข้น อาจจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันสูงกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน และจุดสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณวันที่ 14 กันยายน นี้
อย่างไรก็ตาม หลังมีมาตรการล็อกดาวน์ โดยคาดการณ์ว่าได้รับความร่วมมือจากประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งมาตรการอยู่บ้านให้มากที่สุดและ work from home และหยุดกิจกรรมการรวมตัวชุมนุม รวมตัวกัน จะสามารถลดการติดเชื้อลงได้ 20% เป็นเวลานาน 1 เดือน และตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวันจากจำนวน 40,000 กว่าราย จะลดลงเหลือประมาณ 3 หมื่นกว่าราย โดยมีผู้ติดเชื้อสูงสุดประมาณต้นเดือนตุลาคมนี้
หากเราใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นระยะเวลานานกว่านี้ หรือมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ 20% ทุกคนอยู่บ้าน จะทำให้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ จะลดลงจาก 4,000 คน เหลือประมาณ 3,000 กว่าราย และหากล็อกดาวน์ มีประสิทธิภาพ 25 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มระยะเวลาจาก 1 เดือนเป็น 2 เดือน จะช่วยลดการติดเชื้อได้ลดลงเหลือ 2,000 ราย
ส่วนการคาดการณ์จำนวนผู้เสียชีวิตรายวัน สถานการณ์ที่ไม่ได้มีการ มาตรการล็อกดาวน์ หรือมีมาตรการใดนั้น แบบจำลองพบว่าจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนต่อวัน จะมีจุดสูงสุดวันที่ 28 กันยายน เมื่อเทียบกับสถานการณ์มีมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่เกิน 400 รายต่อวัน มีสูงสุดในวันที่ 26 ตุลาคม ทั้งนี้ หากมีมาตรการล็อกดาวน์เป็นระยะเวลานานขึ้น จํานวนผู้ติดเชื้อก็จะลดลง และจุดสูงสุดจะอยู่ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน
ทั้งนี้จากมาตรการต่างๆของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้มีการเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มเสี่ยงและหญิงตั้งครรภ์ ค้นหาผู้ป่วย ล็อกดาวน์ จะทำให้มีผู้ติดเชื้อประมาณวันละ 100 กว่าราย
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังคงมีผู้ติดเชื้ออย่างกว้างขวางโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและภาคกลาง งานความร่วมมือของประชาชน งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น พยายามอยู่บ้านให้มากที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือบ่อยๆ และการสแกนไทยชนะ จะช่วยทำให้มาตรการการป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลสู่ชุมชน ไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงการขอความร่วมมือให้นำกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโลก และผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี ไปรับการฉีดวัคซีนตามที่กำหนดไว้ในสถานที่ต่างๆ จะทำให้ลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตไม่มากอย่างที่จะเกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี