ขุดบ่อล่อปลา!แจ้งจับ 19 จิตอาสาเอี่ยวทุจริต ขายคิวศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ
1 สิงหาคม 2564 พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิดหนัง และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเอาผิดกลุ่มเรียกเก็บเงินลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีโควิดที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ผ่านระบบออนไลน์ ว่า เริ่มพบความผิดปกติของการใช้สิทธิ์จองคิวฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีการจองคิวล่วงหน้าเกินมาอย่างผิดปกติเฉลี่ยวันละ 2,000 คน ในช่วงระหว่างวันที่ 28-31 ก.ค.2564 รวมประมาณ 7,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคน กทม. แต่บางทีก็เป็นประชากรแฝงในกทม. ซึ่งมูลค่าความเสียหายตกคนละ 800-1,200 บาท หากเฉลี่ยคนละ 1,000 บาทความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 7 ล้านบาท จึงได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ ตำรวจรถไฟ และ เจ้าหน้าที่ของกรมแพทย์ วางแผนจับกุม ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า สาเหตุการทุจริตครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากการแฮกระบบ แต่เกิดจากการใช้สิทธิ์ที่เรามอบให้กับเจ้าหน้าที่จิตอาสา ซึ่งมีการนำไปใช้แบบมิชอบ โดยเดิมงานของศูนย์ฯไม่มีการวอล์กอิน แต่จะเป็นการจองคิวผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ 4 ค่าย ซึ่งจะส่งข้อมูลมาให้ทางศูนย์ฯ จากนั้นศูนย์ฯจะอัปโหลดข้อมูลล่วงหน้าวันต่อวัน เพื่อรีเซ็ตข้อมูลบุคคลว่า ถูกต้องหรือไม่ และไม่เคยฉีดวัคซีนมาหรือไม่ ซึ่งช่วงที่ไม่มีการวอล์กอิน บุคคลที่สามารถเข้ามาแก้ไขข้อมูลได้จะมีเพียงเจ้าหน้าที่ของสถาบันโรคผิวหนัง และเจ้าหน้าทีไอทีของกรมการแพทย์ประมาณ 10 คน ที่เหลือไม่สามารถเข้าระบบนี้ได้ แต่หลังจากเปิดวอล์กอิน ด้วยสภาพคนที่เข้ารับบริการมีจำนวนมาก และไม่มีข้อมูลในระบบ ทำให้จำเป็นต้องให้สิทธิ์แก่จิตอาสาที่ทางค่ายมือถือจ้างเข้ามาช่วยงาน สามารถแก้ไขข้อมูลได้อีกเกือบ 300 คน ตรงนี้จึงเป็นช่องโหว่สำคัญ ที่จิตอาสาบางคนอาจใส่ข้อมูลเข้าไป
“ที่ผ่านมามีจิตอาสาบางคนทำบ้าง แอบใส่ญาติตัวเอง แทนที่จะพาเข้ามา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทราบและไปตักเตือน แต่ยังไม่เคยพบขนาดใส่ข้อมูลเกิน 2 พันคนต่อวัน ซึ่งเมื่อเราตรวจสอบพบ ทำให้ทราบหมดว่า มีใคร และล็อกอินของเจ้าหน้าที่ หรือจิตอาสาคนไหนเข้ามาคีย์ข้อมูลตรงนี้ โดยพบความผิดปกติอยู่ 19 ล็อกอินหรือยูสเซอร์ มี 8 ล็อกอิน ที่เพิ่มข้อมูลเข้าไป 1-2 คนนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่นัด แต่ที่น่าสงสัย คือ 11 ล็อกอิน โดยในจำนวนนี้มี 4 ล็อกอิน ที่โหลดข้อมูลหนักๆวันละ 400-500 เคส โดยทั้ง 19 ล็อกอินเราได้แจ้งให้เป็นผู้สงสัย เนื่องจากอาจไม่ได้มีแค่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาจมีมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว
ทั้งนี้ ทางศูนย์ฯ มีการวางแผนจับกุมเพื่อสืบให้ได้ถึงผู้กระทำผิดรายใหญ่ทั้งหมดนี้ ในวันที่ 28 ก.ค. ซึ่งเป็นวันแรกที่มีคิวนัดล่วงหน้าเพิ่มมากกว่าปกติกว่า 2,000 คน ได้ดำเนินกลยุทธ์ขุดบ่อล่อปลาให้ผู้ที่ซื้อคิวโดยทุจริตเหล่านี้เดินทางมารับบริการที่ศูนย์ฯ เมื่อตรวจเช็คแล้วว่าเริ่มมีการลงทะเบียนไปประมาณ 600 คน จากจำนวน 2,000 กว่าคนนั้น ทางศูนย์ฯ จึงแจ้งยกเลิกคิวการฉีดของทั้งสองพันกว่าคนนั้นทั้งหมด เพื่อบีบให้คนเหล่านี้แสดงตัวขอความช่วยเหลือ/ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ โดยได้จัดสถานที่ไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อทำการสอบสวน โดยตนได้เข้าไปชี้แจงและขอความร่วมมือเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลของตัวการผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทุจริต พร้อมกับการสอบสวนอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าตำรวจอีกครั้ง สามารถรวบรวมผู้นัดคิวจองวัคซีนล่วงหน้าจากการทุจริตได้มากกว่า 300 คน ซึ่งได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ก็ได้ทำการลงทะเบียนฉีดวัคซีนให้กับ 300 คนนั้นด้วย
พญ.มิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ต้องออกมาชี้แจงเพราะเกิดความเสียหายกับค่ายมือถือ ทรู เพราะเป็นจิตอาสา ที่ทางค่ายทรู เอาท์ซอร์ซ มาช่วยงานเรา โดยจิตอาสาตรงนี้ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของทรู แต่เป็นจิตอาสา ที่ทางทรูจ้างมาช่วย ซึ่งจริงๆทุกค่ายจ้างมาช่วยเราหมด และความผิดปกติก็ไม่ได้เกิดจากการแฮกข้อมูลของทรู หรือของสถาบันโรคผิวหนัง แต่เป็นช่องโหว่ที่ทางจิตอาสา ไปอัปโหลดข้อมูลเอง ขอย้ำว่า จิตอาสาร้อยละ 98 ไม่มีปัญหา เป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ พร้อมช่วยเหลือและทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี และมีเพียงแค่ ร้อยละ 2 ที่เป็นแบบนี้ และไม่เกี่ยวข้องกับค่ายมือถือ เนื่องจากกลุ่มคนที่ทำพฤติกรรมนี้เป็นเพียงลูกจ้างของค่ายมือถือที่เข้ามาช่วยงาน
“ส่วนใหญ่ของคนที่เข้าสวมสิทธิ์ เป็นคนในพื้นที่ กทม. คาดว่าไม่นานตำรวจจะสามารถจับตัวผู้บงการได้ และสาวถึงกระบวนการ เพราะมีไอพีแอดเดรส และ 5 บัญชีที่เป็นการโอนเงิน สามารถสอบเส้นทางการเงินได้อย่างชัดเจน การป้องกันและปิดช่องโหว่ของข้อมูลได้ สั่งการให้ปิดระบบและคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ 18.00 น. ไม่เป็นระบบค้างไว้ข้ามคืน เพื่อป้องกันข้อมูล และผู้ที่เปลี่ยนแปลงข้อมูล จากนี้จะไม่ใช่จิตอาสาอีกต่อไป แต่เป็นเจ้าหน้าที่กรมฯ”
พญ.มิ่งขวัญ ระบุว่า ขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตลอดจนจิตอาสาทั้ง 19 คนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ขอความร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อสอบสวนหาหลักฐานเชิงลึกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนการทุจริตเรื่องวัคซีนจะมีเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์เกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่เบื้องต้นมีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประมาณ 19 คน อิงจากจำนวนยูสเซอร์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี