ตัวแทนคนเดือดร้อน กว่า100 ชีวิตเคสประกันโควิด-19 เจอ จ่าย แต่ไม่จบ ร้องสภาทนายช่วย คนตายกว่า 3 ปี ยังไม่ได้รับเงิน  หมออรรถพล ชี้ บริษัทยาทำสัญญาไม่เป็นธรรม ตั้งข้อสังเกตโรคไม่ได้ระบาดเองและไม่ใช่เชื้อธรรมชาติ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน ตัวแทนกลุ่มประชาชนกว่า 100 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ โควิด-19 และไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกัน ได้เดินทางมาขอคำปรึกษาและยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความ ฯ โดยมี ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความฯ ดร.วิเชียร รุจิธำรงกุล กรรมการมรรยาททนายความ และผู้บริหาร รับเรื่องร้องเรียน

โดยตัวแทนผู้เสียหายกล่าวว่า เนื่องจากมีบริษัทเอกชนขายประกันโควิด-19 "เจอจ่ายจบ" ในปี พ.ศ. 2564 มีประชาชนซื้อประกันเป็นจำนวนมากในปี พ.ศ.2565 หลังจากนั้นมีผู้ติดเชื้อฟโควิด -19 จำนวนมากทำให้มีการเคลมประกันจำนวนล้านกรมธรรม์ ทำให้บริษัทประกันต้องจ่ายค่าเครมประกัน นับ 10 เท่าตัว  จนไม่สามารถแบกรับภาระได้ทำให้บริษัทประกันล้มละลายและปิดกิจการไปรวม  4 บริษัท ได้แก่บริษัท อาคเนย์ประกันภัยจำกัด บริษัท เดอะวันประกันภัย จำกัด บริษัท เอเชียประกันภัย จำกัด  และบริษัท ไทยประกัน จำกัด

ส่วนบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด อยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการ ซึ่งทั้ง 4บริษัทปิดตัวตั้งแต่ พ.ศ.2565 ทำให้ภาระเงินที่จะต้องจ่ายเจ้าหนี้ประกันโควิด มาอยู่ที่ กองทุนประกันภัย วินาศภัย (กปว.) ซึ่งมีเงินอยู่ในกองทุนแค่พันกว่าล้านบาท จึงไม่พอที่จะจ่ายเงินประกันให้กับเจ้าหนี้ประกันโควิด-19 ทำให้ประชาชนรอเงินเคลมประกันมานานเป็นเวลา 2 ปีแล้ว และคาดการณ์ว่าจะรอเงินยาวนานถึง 80 ปี เนื่องจากกองทุนวินาศภัยอนุมัติจ่าย เงินแค่ 2 ครั้งต่อปี ต้องรอเงินสมทบจากบริษัทเอกชนถึงจะมีเงินจ่ายให้กับผู้เคลมประกัน ประกันเป็นประกันโควิด-19 เจอ-จ่าย-แต่จนถึงปัจจุบันประชาชนที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัย รอเงินนานกว่า 2 ปีแล้ว ที่เคลมไปแล้วยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนโควิด-19 คิดเป็นมูลหนี้ เกือบ 8 หมื่นล้านบาท

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ที่เป็นผู้ควบคุมบริษัท ยังไม่ล้มละลายแต่ไม่มีความชัดเจนให้กับประชาชน ที่ผ่านมาตัวแทนเจ้าหนี้เครมประกันโควิด-19 ได้อื่นหนังสือให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวช่วยแก้ไขดำเนินการแล้ว ได้แก่ กระทรวงการคลัง,ปลัดกระทรวงการคลัง,หน่วยงานกรรมมาธิการการปกครอง วันนี้จึงขอความอนุเคราะห์ นายกสภาทนายความช่วยเหลือดำเนินการทางกฎหมายให้กับพี่น้องประชาชนนำเรื่องให้ช่วยเร่งรัดช่วยเหลือประชาชนที่ซื้อ ประกันภัยโควิด-19 เคลมประกันภัยแล้วยังไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนโควิด-19 โดยเฉพาะกรณีผู้เสียชีวิต ที่ผ่านมา3ปีแล้ว ทางครอบครัวก็ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาแต่อย่างใด

นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง จากรพ.จุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า อย่างที่ทราบว่าตัววัคซีน เป็นวัคซีนเร่งด่วน ซึ่งมีการ พัฒนายังเร่งรีบ และเป็นกระบวนการอนุญาตฉุกเฉิน สิ่งที่อยากให้สภาทนายความช่วยเหลือคือ การอนุญาตให้นำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ ผู้ที่ลงนามในประกาศนี้ลงนามถูกต้องหรือเปล่ามีอำนาจหรือไม่ และขอให้สภาทนายความช่วยดูเรื่องสัญญา เพราะที่ทราบมาสัญญากับบริษัทผลิตยา นั้นไม่เป็นธรรม และไม่ให้เปิดเผยข้อมูล และไม่ให้เปิดเผยการชดเชยค่าเสียหาย แต่ขณะนี้มีหลายประเทศที่สามารถเปิดเผยเรื่องสัญญากับบริษัทผลิตยาวัคซีนแล้ว ทำให้ทางประเทศไทยสามารถอนุมานได้ว่าในสัญญาของไทยเอง น่าจะคล้ายคลึงกันในแนวเดียวกัน

"ตอนนี้หลายประเทศได้นำขึ้นมาสืบสวนสอบสวน ว่าเรื่องดังกล่าวอาจจะไม่ใช่การแพร่ระบาดตามปกติ และไม่ใช่เชื้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่ผ่านมารัฐบาลได้ ชดเชยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีน ไปแล้ว 2,000 ล้านบาท แต่ตอนที่เราไปซื้อเราจ่ายเงินภาษี และไปกู้เงินมาจากต่างประเทศ เพื่อนำมาซื้อวัคซีน แต่ปรากฏว่า เมื่อเกิดผลข้างเคียง รัฐบาลกับใช้ภาษี มาจ่ายเยียวยากับประชาชน แต่บริษัทผลิตยานั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรมอย่างมาก "นพ.อรรถพลกล่าว

ด้านดร.วิเชียร กล่าวว่า ในเบื้องต้นเนื่องจากเราเพิ่งได้รับเรื่อง จึงจะต้องสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และตั้งคณะทำงาน เพื่อทำการศึกษาแนวทาง ที่จะดำเนินการ การที่เราจะขอดูสัญญา ซึ่งเป็นความลับนั้นโดยหลักแล้ว หน่วยงานของรัฐคงไม่ให้เราดู แต่ ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ เราคงต้องดำเนินคดี และขออำนาจศาลในการเรียกสัญญาเหล่านั้นมาดู เบื้องต้นเท่าที่ฟังข้อมูลมานั้นจะมี 2 แนวทาง ประเด็นแรก การอนุญาตให้ผลิตภัณฑ์ยาในสถานการณ์ฉุกเฉิน คนที่มีอำนาจในการออกคำสั่งนั้นเป็นใคร ที่ผ่านมาใครเป็นคนอนุญาตให้มีการขายยาในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งในกฎหมายมีเขียนไว้อยู่ แต่เราต้องไปศึกษาว่า รายละเอียด ถ้าเห็นว่าคนที่ลงนามไม่มีอำนาจในการลงนาม เราต้องพิจารณาดูอีกว่าเข้าหลักผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นๆหรือไม่ ส่วนประการที่ 2 การนำวัคซีนเข้ามาและมาฉีดให้กับประชาชน จนมีพี่น้องประชาชนบางส่วนได้รับผลกระทบ วัคซีนเหล่านี้ ต้องดูว่าในสัญญาของทางรัฐที่ทำกับบริษัทยานั้น มีเงื่อนงำอะไรหรือเปล่า ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายที่ฉีดวัคซีนแล้ว ได้รับผลกระทบเป็นพิการ สมรรถนะร่างกายถดถอยต้องรักษาต่อเนื่อง มีจำนวนมาก ที่จะเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากสภาทนายความ เราต้องไปศึกษาว่า จะใช้ทางการแพทย์พิสูจน์ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นทางร่างกาย กับผู้ได้รับวัคซีน คิดว่าในเร็วๆนี้จะมีการจัดเสวนา เรื่องผลกระทบจากวัคซีน และจะจัดหา ผู้ที่รับผลกระทบมา ร่วมหารือ รวมทั้งคุณหมอและ นักวิชาการ จิตอาสาทุกท่านด้วย

"ตนพร้อมจะให้คำปรึกษาและรับเรื่องช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยต้องขอสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นอย่างละเอียดก่อนดำเนินการขั้นต่อไป.ดร.วิเชียร  กล่าวตอนท้าย.