สภาทนายความลงโทษคดีมรรยาท“ทนายตั้ม”คดีเเรก ตบทรัพย์ อดีต ผกก.โจ้ สั่งห้ามเป็นทนาย 3 ปี หลังโดนทนายดังเพื่อนรักร้อง ยังมีเรื่องอื่นรอคิวเป็น 10 เรื่องส่อถูกถอนใบอนุญาต  ส่วนคดีฉ้อโกงเจ๊อ้อย ศาลอาญานัดไต่สวนประกันตัวกับเมีย 3 กุมภาพันธ์นี้

วันนี้ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการสภาทนายความเห็นชอบตามที่คณะกรรมการมรรยาททนายความที่มีมติลงโทษคดีแรกของ นายษิทรา  เบี้ยบังเกิด  หรือทนายตั้ม โดยมีมติลงโทษห้าม นายษิทรา เป็นทนายความสูงสุด 3 ปี ซึ่งจะส่งผลให้ไม่อาจทำหน้าที่เป็นทนายความได้

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายษิทรายังมีคดีมรรยาท รอเร่งพิจารณาอีกนับ 10 เรื่องซึ่งแต่ละเรื่องล้วนแต่ข้อหาหนักและสามารถลบชื่อจากทะเบียนทนายความได้

สำหรับคดีที่นายษิทราทนายดังต้องรับโทษ เป็นคดีที่เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ซึ่งเป็นทนายคนดังเช่นกัน ได้ยื่นเรื่องต่อสภาทนายความ กล่าวหากันเอง กรณีกล่าวหาตบทรัพย์ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีต ผกก.โจ้ อดีตผู้ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์  กรณีใช้ถุงดำคลุมหัว ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ซึ่งแม้ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวจะกลับมาดีกัน แต่ทางสภาทนายความไม่อนุญาตให้ถอนคำกล่าวหา จึงได้ลงโทษห้ามนายษิทราเป็นทนายความนานสูงสุดคือ 3 ปี

สำหรับความผิดโทษผิดมรรยาททนายความมี 3 สถาน คือ 1.ภาคทัณฑ์ 2.ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกินสามปี หรือ 3.ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ทนายความของ นายษิทรา  เบี้ยบังเกิด เเละ นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด สามีภรรยา  จำเลยคดีร่วมกับพวกฉ้อโกง -ฟอกเงินเเละข้อหาอื่นเกี่ยวข้อง จากกรณีฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย เศรษฐีนีชื่อดังที่เคยถูกรางวัลกว่า 5,700 ล้าน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวต่อศาล  ภายหลังพนักงานอัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง นายษิทรา กับพวกรวม 7 คนต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา

ศาลอาญามีคำสั่งนัดไต่สวนคำร้องขอประกันตัววันที่ 3 กุมภาพันธ์ นี้เวลา 10.00 น.