อธิบดีราชทัณฑ์เผยผู้ต้อขังติดเชื้อโควิดรายใหม่ 187 คน และยังรักษาตัว 7,209 คน เร่งคัดกรอง วินิจฉัย และรักษาเร็ว เพื่อควบคุมโรค พร้อมเน้นย้ำมาตรการป้องกันเชื้อในทุกด้าน ทั้งจากเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องขังรับใหม่ และสิ่งของจากภายนอก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูลวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 16.00 น.) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 187 ราย โดยพบในเรือนจำสีแดง 165 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 22 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,209 ราย แยกเป็นกลุ่มสีเขียว 81.5 เปอร์เซนต์ สีเหลือง 18.1 เปอร์เซนต์ และสีแดง 0.4 เปอร์เซนต์ เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 651 ราย ปริมณฑล 2,017 ราย และต่างจังหวัด 4,541 ราย เสียชีวิต 2 ราย
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำจังหวัดสระบุรี และเรือนจำกลางขอนแก่น จากข้อมูลพบว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง มีโรคประจำตัว และอาการอื่นร่วม ทำให้มีความรุนแรงของโรคมากกว่าปกติ ซึ่งผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเต็มประ สิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ และส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลภาย นอก แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น จนกระทั่งได้เสียชีวิตลง กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไป มา ณ โอกาสนี้ ทั้งนี้ ได้ประสานญาติเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย
นายอายุตม์ กล่าวว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรักษาหายเพิ่ม 481 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,209 ราย ขณะนี้ไม่พบเรือนจำแพร่ระบาดเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยมีเรือนจำสีแดงคงที่ 29 แห่ง เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาด 106 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้วจำนวน 7 แห่ง มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 40,659 ราย หรือ 83.8 เปอร์เซนต์ของผู้ติดเชื้อสะสม 48,474 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 65 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1 เปอร์เซนต์ ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ภายนอกที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น กรมราชทัณฑ์ จึงต้องรักษามาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดใน 3 ช่องทางสำคัญ คือ จากเจ้าหน้าที่ จากผู้ต้องขังรับใหม่ และจากสิ่งของต่างๆที่จะต้องดูแลความสะอาดและฆ่าเชื้ออยู่เสมอ โดยเฉพาะอาหารที่ส่งมาจากภายนอกและการส่งต่อระหว่างแดน ที่ต้องป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนและปลอดเชื้อ ส่วนมาตรการควบคุมการระบาดยังคงยึดตามแนวทางสาธารณสุข คือ การคัดกรองรวดเร็ว (Early Detection) ตรวจวินิจฉัยรวดเร็ว (Early Diagnosis) รักษารวดเร็ว (Early Treatment) เพื่อช่วยให้ควบคุมโรคได้อย่างรวดเร็ว (Early Containment) ทั้งด้วยวิธี RT-PCR, Antigen Test Kit (ATK) การเอกซเรย์ปอด และการตรวจวัดค่าออกซิเจนปลายนิ้ว ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของการรักษา และควบคุมโรค ทำให้ผู้ติดเชื้อได้เข้าถึงยาได้อย่างทันท่วงที ลดความรุนแรงของโรค และลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ในท้ายที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี