ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการให้ประชาชนสามารถซื้อชุดตรวจวิค-19 มาตรวจเองได้แล้วนั้น ทำให้จำนวนผู้ตรวจพบเชื้อเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาขณะนี้คือเมื่อตรวจเสร็จแล้ว ผู้ป่วยก็ต้องกลับไปเข้าระบบ Home isolation กักตัวที่บ้าน แต่ส่วนใหญ่บ้านไม่ได้เหมาะสำหรับการกักตัว มีโอกาสแพร่เชื้อให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนบ้าน ดังนั้น จึงควรมีพื้นที่รองรับเป็นศูนย์พักคอยชุมชน พรรคกล้าจึงได้ร่วมมือกับชุมชนต่างๆ เปิด “ศูนย์กล้าดูแล” เพื่อตัดวงจรการแพร่เชื้อในชุมชน ทางพรรคจึงอยากรณรงค์ให้ทุกชุมชนจัดตั้งศูนย์พักคอยลักษณะเดียวกันนี้ โดยพรรคกล้าพร้อมสนับสนุน

โดยพรรคกล้าได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย เพื่อเปิด “ศูนย์กล้าดูแล” ให้จังหวัดหนองคาย 4 ศูนย์ ซึ่งเป็นศูนย์กล้าดูแลแห่งที่ 7-10 ณ จังหวัดหนองคาย

นำโดย ผศ.ดร.เอราวัณ ทับพลี ผู้อำนวยการพรรคกล้า , นายกิตติพงษ์ ถิ่นศรี ผู้กล้าหนองคาย พร้อมด้วยทีมงานผู้กล้าจังหวัดหนองคาย พร้อมใจกันมาร่วมเปิด "ศูนย์กล้าดูแล" แห่งที่ 7 หมู่บ้านสมสะอาด ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ,  "ศูนย์กล้าดูแล" แห่งที่ 8 หมู่บ้านสวยหลง ต.โพนสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย , "ศูนย์กล้าดูแล" แห่งที่ 9 หมู่บ้านดาวเรือง ต.โพนสว่าง  อ.เมือง จ.หนองคาย  และ "ศูนย์กล้าดูแล" แห่งที่ 10  อบต.นาข่า  อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย 

ทั้งนี้เพื่อให้"ศูนย์กล้าดูแล" ทั้ง 4 แห่งของจังหวัดหนองคาย เป็นศูนย์พักคอยแยกกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระดับสีเขียว ตัดวงจรระบาดในครอบครัวและชุมชน นอกจากนี้ทางพรรคกล้ายังมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับทุกศูนย์เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนที่มาใช้พื้นที่"ศูนย์กล้าดูแล"เพื่อการพักคอยการรักษา

โดยหากชุมชนใดทั่วประเทศสนใจ อยากจัดตั้ง"ศูนย์กล้าดูแล" เพื่อเป็นศูนย์พักคอยเพื่อคนในชุมชน สามารถติดต่อทีมงานพรรคกล้าทั่วประเทศได้ ทุกทีมพร้อมสนับสนุนเต็มที่