ปปส.ค้น3เป้าหมาย
ยึดทรัพย์ค้ายานรก
ซื้อทีมบอลไทยลีก2
อายัดเฉียด100ล้านบ.
ป.ป.ส.จับมือ ดีเอสไอ-ตร.ภูธรภาค 5บุกตรวจค้นเป้าหมาย 3 จุด ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ยึดอายัดทรัพย์เครือข่าย“ยานรก-พนันออนไลน์” พบฟอกเงินซื้อสโมสรฟุตบอลไทยลีก 2/ซื้อหวยรางวัลที่ 1 ฟอกเงินถูกกฎหมายตบตา ตำรวจ 191 จับ 2 โจ๋ อ้างตกงานหันค้ายา ยึดยาบ้ากว่า 2 ล้านเม็ด
เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจภูธรภาค 5 ได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายเพื่อยึดทรัพย์ขบวนการค้ายาเสพติด ใน จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีทั้งหมู่บ้านหรู สำนักงาน และสถานที่รับเล่นพนันออนไลน์ โดยยึดอายัดบ้าน โฉนดที่ดินจำนวนมาก รถสปอร์ตหรู มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ดี สำหรับผู้กระทำผิดไหวตัวทันหลบหนีไปได้ 1 ราย ส่วนหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกยึดอายัดทรัพย์นั้น เป็นประธานสโมสรฟุตบอลในจังหวัดทางภาคเหนือ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2
การตรวจค้นครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดก่อนหน้านี้ โดยสามารถยึดของกลางจำนวนมาก ทั้งยาบ้า ไอซ์ยาเค และเฮโรอีน ภายหลังสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จึงขยายผลจนทราบข้อมูลผู้บงการและผู้ประสานงานในการลักลอบกระทำผิด จึงนำไปสู่การตรวจค้นและยึดอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำผิดดังกล่าวนอกจากนี้ยังพบพฤติการณ์ฟอกเงิน โดยนำเงินจากการค้ายาไปเซ้ง เช่า หรือเข้าหุ้นสถานบันเทิงต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ รวมทั้งซื้อสโมสรฟุตบอล เปิดเล่นพนันออนไลน์ และยังซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 แล้วนำมาอ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาอย่างถูกกฎหมาย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ นำกำลัง พร้อมด้วยแพทย์ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุวิสามัญผู้ค้ายาเสพติดที่ทุ่งนา ริมถนนแสลงโทน-ตะโกรี หมู่ 3 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย พบศพ นายทวีชัย สองสี อายุ 24 ปี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ถูกยิงที่ลำตัว ส่วนที่กระเป๋ากางเกงด้านขวา พบกระสุนปืนลูกซอง 2 นัด ใกล้กันพบปืนลูกซองสั้น ขณะที่อีกฝั่งถนน พบรถยนต์ 2 คัน ถูกจอดไว้ ตรวจค้นภายในรถ พบปืนลูกซองสั้น
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดที่มากับผู้เสียชีวิต โดยเป็นชายอายุระหว่าง 20-25 ปี 2 คน และเยาวชนหญิง อายุ 17 ปี อีก 1 คน แต่มีเยาวชนชายอีก 2 คน วิ่งหลบหนีไปได้ โดยทั้งหมดมาเก็บยาบ้าที่มีการติดต่อสั่งซื้อไว้ แล้วถูกนำมาวางที่บริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าซุกซ่อนอยู่ในถุงปุ๋ยสีขาว 4 มัด รวม 8,000 เม็ด และไอซ์ 1 ก้อน น้ำหนักประมาณ 2 ขีด จึงควบคุมตัวทั้งหมดไว้สอบสวนดำเนินคดี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัตินายทวีชัย พบว่ามีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาหลายครั้ง มีพฤติการณ์ชอบพกพาอาวุธปืน ก่อนจะเปิดฉากยิงต่อสู้ จึงถูกวิสามัญดังกล่าว
ด้านพ.ต.อ.รินณวัฒน์ภูวัฒนติกานต์ ผกก.ตชด.22 นำกำลังเข้าจับกุม นายสมัย (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อดีตนักการภารโรงของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลาง ยาบ้า 200 เม็ด ในระหว่างนั่งรอส่งยาดังกล่าวให้ลูกค้า ภายในกระท่อมพื้นที่บ้านโนนตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี สอบสวนเบื้องต้นนายสมัย อ้างว่าตกงาน ไม่มีงานทำ จึงหันมาค้ายา เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ส่วนยาบ้าดังกล่าวไปซื้อกับเพื่อนจากชายชาวลาว ที่เกาะกลางแม่น้ำโขง ในราคาเม็ดละ 15 บาท นำมาขายต่อในราคา 50-100 บาท
ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.หรือตำรวจ 191พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ แถลงจับกุม นายอัมรินทร์ เรืองศิริ อายุ 21 ปี และ น.ส.ปาริฉัตร สุนา อายุ 20 ปี ยึดยาบ้า 2,220,250 เม็ดไอซ์7.58 กิโลกรัม และรถยนต์ยี่ห้อซูซูกิ เซียส ทะเบียน 4 กท 9603 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 182 ซอยลาดปลาเค้า 48 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.เนื่องจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ย่านคลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนขยายผลพบว่านายอัมรินทร์ และ น.ส.ปาริฉัตร ได้ร่วมกระทำผิด ลอบส่งยาให้ลูกค้าโดยอาศัยช่วงเวลาเช้าตรู่ หลบเลี่ยงช่วงเวลาเคอร์ฟิว แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบ จึงได้เฝ้าติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
สอบสวนนายอัมรินทร์ รับสารภาพว่า เคยทำงานโรงงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา กระทั่งเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องออกจากงานจึงผันตัวมาค้ายาเสพติดหาเลี้ยงครอบครัวโดยเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่บ้านพัก ก่อนจะนำออกจำหน่ายลูกค้าในย่านลาดปลาเค้า ทำมาแล้วประมาณ 1 ปีทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า , ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี