วันพฤหัสบดี ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
อว. เตรียมตั้ง ‘Academy of Science’ พร้อมปั้นช้างเผือกในป่าลึกให้เป็นอีลิทใหม่ในสังคม

อว. เตรียมตั้ง ‘Academy of Science’ พร้อมปั้นช้างเผือกในป่าลึกให้เป็นอีลิทใหม่ในสังคม

วันพุธ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 17.25 น.
Tag : ปั้นช้างเผือกในป่าลึก อว. Academy of Science
  •  

อว.ตั้งธงเตรียมจัดตั้งวิทยสถานทางวิทยาศาสตร์ (Academy of Science) ดำเนินงานในลักษณะแซนด์บ๊อกซ์ มุ่งยกระดับการผลิตนักวิจัยในศาสตร์ต่างๆ โดยที่อยากเห็นมากที่สุดคือ BCG ซึ่งเป็นโมเดลสากล และให้มองการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเป็นโอกาสใหม่ที่จะทำให้ลดช่องว่างและเข้าสู่ยุค 4.0 ได้ รวมทั้งแนะปั้นช้างเผือกในป่าลึกให้เป็นอีลิทใหม่ในสังคมไทยที่สามารถขยับฐานะทางสังคมให้ดีขึ้น

ศ.พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมหารือแผน กรอบงบประมาณ ผลสัมฤทธิ์ และระบบบริหารจัดการทุน ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566-2670 ณ ห้องประชุม อว. โดยมี รศ. ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำคณะผู้บริหารและหน่วยบริหารและจัดการทุน (PMU) ต่าง ๆ ร่วมหารือ


รมว.อว. กล่าวว่า PMU มีความสำคัญมากเพราะเป็นผู้เลือกงานวิจัยที่จะให้ทุนและสนับสนุนการวิจัย หลายสิบปีที่ตนอยู่ในอุดมศึกษาและเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นการทำงานจากระดับล่างขึ้นบนระยะแรกที่พัฒนา ววน.ต้องสร้างความพร้อมและความลุ่มลึกแก่นักวิจัยในแต่ละศาสตร์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปมีความพร้อมเกือบทุกศาสตร์แล้วจึงต้องนำงานวิจัยและนวัตกรรมในศาสตร์ต่าง ๆ ไปพัฒนาบ้านเมืองตามทิศทางที่ต้องการ หัวใจคือ ในปี 2580 ไทยต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้ ดังนั้นแต่ละ PMU ต้องรับไปคิดต่อว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย นอกจากนี้ อว.ยังได้ทำแผนอุดมศึกษา และแผน ววน. ซึ่งผ่านสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปแล้ว ตอกย้ำว่าภายในปี 2570 อว.จะต้องเป็นกลไกสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศเข้าสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วให้ได้ เรามีเวลาเหลืออีกเพียง 6 ปีจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยเริ่มขยับ

ทั้งนี้ อว.ตื่นตัวกันมากขึ้นที่จะนำงานวิจัยไปสู่การปฏิบัติ ไม่ขึ้นหิ้งหรือเป็นเพียงการงานวิชาชีพ การที่จะได้งบประมาณเพิ่มขึ้นต้องขึ้นอยู่กับความสุจริตในการทำงาน และการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยอย่างระมัดระวัง ซึ่งจะต้องหารือกับ PMU เป็นระยะ และปรับธงให้สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาล เช่น ประเทศพัฒนาแล้ว BCG อุตสาหกรรม 4.0 และ EEC ส่วน รอว.นั้นตั้งธงจะทำวิทยสถานทางวิทยาศาสตร์ (Academy of Science) ซึ่งเราจะต้องมีเวทีนำเสนอผลงานวิจัยสู่การปฏิบัติและเรียนรู้ไปด้วยกัน การรวมสถาบันที่เกี่ยวข้องกับ ววน. ทำให้ชุมชนทางวิทยาศาสตร์ของเราไม่ได้หมายความถึง PMU หน่วยงานวิจัย หรือศูนย์ความเป็นเลิศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย

“วิทยสถานทางวิทยาศาสตร์อาจจะเปิดสอนระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เรียนทฤษฎีแบบไม่เป็นทางการ และสามารถกำหนดศาสตร์ที่ไม่ได้เปิดสอนในมหาวิทยาลัยมากนัก เช่น เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น โดยจะดำเนินการในรูปแบบแซนด์บ๊อกซ์และให้ปริญญาบัตรได้ ภายใต้ความร่วมมือกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) หรือสถาบันวิจัยต่าง ๆ ศาสตร์ที่อยากเห็นมากที่สุด คือ วิชา BCG จากประสบการณ์ในการทำงานและยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งเป็นโมเดลสากลด้วย หรือวิชาเกี่ยวกับมรดกวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ที่ถอดบทเรียนจากความสำเร็จออกมาเป็นทฤษฎี ไม่จำเป็นต้องเลียนแบบทฤษฎีต่างประเทศ แต่จะต้องยกระดับเรื่องต่าง ๆ ของไทยที่เราเก่ง ส่วนสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ให้ธัชชาเป็นผู้คิดว่าจะวิจัยเรื่องใดบ้าง เราพร้อมที่จะทำ Metaverse หรือเทคโนโลยีควอนตัมได้หรือยัง การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเป็นโอกาสใหม่ที่จะทำให้เราสามารถลดช่องว่างและเข้าสู่ยุค 4.0 ได้”

ทั้งนี้ รมว.อว. ได้ฝากข้อคิดไว้ว่าอารยประเทศส่วนใหญ่ลึกซึ้งถึงแก่นเดิมและภูมิใจความเป็นมาในอดีตของชาติตน นอกจากการทำปัจจุบันให้ดีและมีอนาคต ขณะที่ประเทศด้อยพัฒนาแต่ร่ำรวยอาจไม่รู้อดีตอย่างลึกซึ้ง จึงอยากให้ทุกคนนำกลับไปคิดว่าจะดำเนินการในส่วนนี้อย่างไร รวมถึงการสร้างช้างเผือกในป่าลึกให้เป็นอีลิทใหม่ ขยับฐานะทางสังคมให้ดีขึ้น หาตัวอย่างคนที่ประสบความสำเร็จให้เกิดแรงบันดาลใจและสร้างผลกระทบทางสังคมได้สูง “ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ภาษาใด อยูในเมืองไทยก็ขึ้นมาได้หมด เช่นเดียวกับเรื่องเศรษฐกิจฐานราก เราคิดแต่เรื่องเกษตร แต่จริง ๆ เราเก่งเรื่องศิลปะและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ชาวบ้านมีดีเอ็นเออยู่แล้ว ควรสร้างศิลปินท้องถิ่นหรือช่างท้องถิ่นขึ้นมา”

ในโอกาสนี้ ผู้อำนวยการ สกสว. ได้นำเสนอภาพรวมของระบบ ววน. ที่ประกอบด้วยหน่วยนโยบาย หน่วยขับเคลื่อนนโยบาย หน่วยบริหารและจัดการทุน และหน่วยปฏิบัติการ โดยมีกองทุน ววน.เป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณางบประมาณของ ววน. ก่อนเสนอไปที่สำนักงบประมาณเพื่อเสนอ ครม. และรัฐสภาต่อไป แต่ปัญหาสำคัญคือจะทำอย่างไรให้งบประมาณจำนวนมากไม่ถูกตัด ดังนั้นจึงต้องมีความชัดเจนในการทำแผน ววน. ข้อต่อสำคัญคือการให้ทุนแบบต่อเนื่อง (multi-year) ซึ่งยังทำได้ไม่ดีนัก จึงต้องเสริมพลังให้ ววน. แข็งแกร่งขึ้นและนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพและเกิดผลกระทบต่อสังคม ทั้งนี้การจัดทำแผน ววน. จะดูแนวโน้มของโลก ศึกษาความต้องการของภาคส่วนต่างๆ และความต้องการของพื้นที่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเราวางกรอบ เป้าหมาย และทิศทางจากระดับบนลงมา โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนแบบก้าวกระโดด มีธงที่บอกทิศทางชัดเจน ร่วมเป็นเจ้าของและร่วมรับผิดชอบ ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลิกโฉมให้ประเทศมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่า และยกระดับคุณพรภาพชีวิต ก้าวสู่ประเทศพัฒนาแล้วในปี 2670 และพร้อมสำหรับโลกอนาคตด้วย ววน.ไทย โดยการสานพลังหน่วยงานในระบบ ววน. รวมทั้งสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานภาครํฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม”

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • นายกฯมอบ อว. นำ AI พลิกโฉมเกษตร พร้อมดัน Joint Lab ไทย-จีน นายกฯมอบ อว. นำ AI พลิกโฉมเกษตร พร้อมดัน Joint Lab ไทย-จีน
  • นักเรียนทุนฟังทางนี้! สามารถนำงานวิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจได้ นักเรียนทุนฟังทางนี้! สามารถนำงานวิจัยมาต่อยอดทางธุรกิจได้
  • เริ่มปี 68! อว.จัดสรรนักเรียนทุนใหม่ พร้อมปรับระเบียบเปิดช่องทำงานใช้ทุนต้นสังกัด เริ่มปี 68! อว.จัดสรรนักเรียนทุนใหม่ พร้อมปรับระเบียบเปิดช่องทำงานใช้ทุนต้นสังกัด
  • เปิด 6 กฎเหล็กคุมเข้ม‘หลักสูตรระยะสั้น’นักศึกษาต่างชาติ สกัดสวมวีซ่า เปิด 6 กฎเหล็กคุมเข้ม‘หลักสูตรระยะสั้น’นักศึกษาต่างชาติ สกัดสวมวีซ่า
  • อว.แจ้ง‘3 สถาบัน’ทุนจีนถือหุ้นรายงานข้อมูล นศ. 23เม.ย.คุย ตม.เข้มวีซ่านักศึกษาลอบทำงาน อว.แจ้ง‘3 สถาบัน’ทุนจีนถือหุ้นรายงานข้อมูล นศ. 23เม.ย.คุย ตม.เข้มวีซ่านักศึกษาลอบทำงาน
  • ‘ศุภมาส’ขู่ฟัน‘ม.สยาม’หากไม่ดำเนินคดี‘ผู้บริหารชาวจีน’จัดอบรม‘อาสาตำรวจจีน’ ‘ศุภมาส’ขู่ฟัน‘ม.สยาม’หากไม่ดำเนินคดี‘ผู้บริหารชาวจีน’จัดอบรม‘อาสาตำรวจจีน’
  •  

Breaking News

เตือนคุณแม่ตั้งครรภ์ระวัง 'โรคติดเชื้อไวรัสซิกา' เสี่ยงติดสู่ทารกในครรภ์!

‘ชัยธวัช’เดือดไม่นิรโทษกรรม112 แค่ฉันทามติกลุ่มคนมีอำนาจด้วยเสื้อคลุมจงรักภักดี

รัฐบาลเปิดบริการ 'รถรับ-ส่งฟรี' ผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง เข้าถึงการรักษาเทคโนโลยีสูงทั่วประเทศ

โกง ทุจริต ฟอกเงิน มั่วสีกา! ‘พงศ์พรหม’ชี้ถ้าไม่แก้ หวั่นอีก 25 ปีไทยเป็น next กัมพูชา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved