เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 18 พ.ย.64 นายสมาน พิมพิลา กำนันตำบลปรังผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยนายธวัชชัย อิ่มสุข ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านจงอั่ว ต.ปรังเผล นายสมชาย เกสร สารวัตรกำนัน, นายธนัญชัย คนบุญ, นายธนดล จันดาหัวดง ผู้ช่วยฝ่ายรักษาความสงบ, นายสมพงษ์ อุตลูม, นายสุภี ราชอินตา ชุดรักษาความสงบประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ร่วมกันจับกุมนายโกอู้ ไม่มีนามสกุล อายุ 36 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 17 คน เป็นชาย 16 ราย หญิง 1 ราย และรถยนต์กระบะที่ใช้เป็นพาหนะในการขนแรงงาน ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน บว 8451 สระบุรี จำนวน 1 คัน
ทั้งนี้ นายสมาน พิมพิลา กำนันตำบลปรังเผล เปิดเผยว่า นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และนายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี มีนโยบายสั่งการให้ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ให้เฝ้าระวังป้องกันและปราบรามการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา อย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่มาแพร่ระบาดในพื้นที่ของประเทศไทย
โดยที่ผ่านมาพบว่ามีการขนแรงงานผ่านพื้นที่ อ.สังขละบุรี มากขึ้น ตนและผู้ใหญ่บ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน พร้อมผู้ช่วยและ ชรบ.ก็ได้ติดตามเฝ้าระวังและลงพื้นที่หาข่าวจนพบว่าบ้านทิโคร่งและบ้านดงขนุน ซึ่งเป็นกลุ่มบ้านที่ขึ้นกับบ้านจงอั่ว หมู่ 4 ต.ปรังเผล เป็นพื้นที่ที่มีการพักแรงงานและมีชาวบ้านบางคนอยู่ในขบวนการขนแรงงานต่างด้าว จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด
จนกระทั่งทราบว่าจะมีการขนแรงงานในพื้นที่บ้านทิโคร่ง จึงได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านทั้ง 4 หมู่บ้าน นัดหมายกันมาซุ่มอยู่หน้าหมู่บ้าน บริเวณริมถนนสาย323 ตั้งแต่เวลา 21.30 ของวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา จนกระทั้งเวลาประมาณ 23.30 น.พบรถยนต์ของนายโกอู้ หรือนายเพชร ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ได้รับแจ้ง วิ่งผ่านมาบริเวณจุดที่ซุ่มโป่ง ตนและทีมงานจึงได้ขับรถยนต์ 2 คัน ติดตามไป แต่นายโกอู้ ไหวตัวทัน จึงพยายามเร่งเครื่องเพื่อหลบหนี
จนกระทั่งมาถึงบริเวณบ้านลิเจีย นายโกอู้ ได้ขับรถยนต์หนีเข้าไปในพื้นที่วัด ตนและทีมงานจึงได้ขับรถยนต์ตามเข้าไป 1 คัน ส่วนรถยนต์อีก 1 คัน ได้จอดปิดทางเข้าออกวัดเอาไว้ สุดท้ายก็สามารถจับกุมตัวนายโกอู้ เอาไว้ ส่วนภายในรถยนต์และกระบะท้ายพบแรงงานชาวเมียนมานั่งและนอนแออัดมาเต็มคันรถ นับได้ จำนวน 17 ราย
จากการสอบถามเบื้องต้นนายโกอู้ ผู้ต้องหาที่เป็นผู้นำพา ให้การว่า ตนเองและเพื่อนบ้านอีกคน ในหมู่บ้านทิโคร่ง ขับรถยนต์มารับแรงงานทั้งหมดบริเวณโค้งศาลเจ้าเล็ก ที่อยู่เลยด่านตรวจสะพานรันตี มาประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีคนนำมาส่งให้อีกทอดหนึ่ง จากนั้นตนจะนำแรงงานทั้งหมด ไปส่งที่บริเวณคอกวัวแห่งหนึ่งที่อยู่ก่อนถึงด่านตรวจจงอั่ว เมื่อไปถึงจะมีคนมารับเพื่อนำพาแรงงานเดินเท้าเข้าป่าเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจจงอั่ว ไปรอคนมารับที่ริมถนนหน้าแขวงการทางสังขละบุรี ที่อยู่ห่างจากด่านจงอั่วไปประมาณ 700 เมตร โดยตนได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท และเคยทำในลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3-4 ครั้ง
ส่วนสาเหตุเป็นเพราะต้องการหาเงินไปส่งค่างวดรถ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ปักใจเชื่อเพราะเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่านายโกอู้ ทำมานานมากแล้ว หลังจากนายโกอู้ให้การแล้วเสร็จ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.134 มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์ ผกก.(สอบสวน)ภ.จว.กาญจนบุรี รักษาการ ผกก.สภ.สังขละบุรี กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งหากพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะขออำนาจศาลจังหวัดทองผาภูมิเพื่อพิจารณาออกหมายจับ ทุกคน โดยจะดำเนินคดีกับทุกคนให้ถึงที่สุด เพราะเรื่องแรงงานต่างด้าวเป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน
อีก 1 คดี เมื่อเวลา 01.00 น.ภายใต้การอำนวยการ ของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี, พ.ต.ท.เสนีย์ เวชพัฒ รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.ศุภกิจ มหาโชคธรณี สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้ ร.ต.ต.สำราญ เที่ยงตรง รอง สว(จร.) สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจห้วยน้ำขาว ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตม.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตชด.13 เจ้าหน้าที่ กก.บก.ทท.3 เจ้าหน้าที่ ส.ทท.1 กก.1 บก.ทท.3 รวมทั้งเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 1404
ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ หมายเลขทะเบียน 6 กม.8741 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คันที่ใช้ขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาเต็มคันรถ จำนวน 15 คน เป็นชาย 7 คน หญิง 8 คน เหตุเกิดที่บริเวณฝายน้ำล้น หมู่ 12 บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จากการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK เบื้องต้นผลเป็นลบ
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายวานนท์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา "ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายให้พ้นการจับกุม" ส่วนแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 15 ราย ถูกกล่าวหาว่า "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี