ศธ.เปิดเวที "ทิศทางการศึกษาไทยกับการพัฒนากำลังคนในศตวรรษที่ 21 รองรับการเปลี่ยนแปลงการทำงานในโลกที่ผันผวน"
วันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกานประชุมเครือข่ายการศึกษาและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ เรื่อง "ทิศทางการศึกษาไทยกับการพัฒนากำลังคนในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสำหรับการทำงานในโลกที่ผันผวน" และมอบนโยบายทิศทางการศึกษาไทยในปัจจุบัน โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาศธ. นายอรรถพล สังขวาสี เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ผู้แทนทูตต่างประเทศ ประจำประเทศไทย ผู้แทนสภาหอการค้าต่างประเทศ 6 ประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วมการประชุม
นายวิษณุ กล่าวภายหลังการมอบนโยบายและทิศทางการศึกษาไทยในปัจจุบัน ว่า การปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาจะต้องทำหลายอย่าง และไม่ใช่ทำครั้งเดียวแล้วจะเห็นผลทันที ซึ่งขณะนี้กำลังทำร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... ฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างผลักดันในรัฐสภาวาระ 2 แล้ว เพราะ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติเป็นหัวใจของประเทศและเป็นเข็มทิศนำทางการปฏิรูป ส่วนการปฏิรูปการศึกษาด้านอื่น ๆ ศธ.อยู่ระหว่างจัดทำด้วยเช่นกัน และสิ่งที่สำคัญอย่างมากคือการพัฒนาทรัพยากรศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ตามยุทธศาสตร์ชาติ ว่าด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ ในจำนวน 6 ด้าน ซึ่งด้านที่สำคัญคือการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือการเทรนคนทฝึกคนให้เป็นคนไทยที่มีคุณภาพ ซึ่งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นั้นทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะต้องร่วมกันพัฒนา และ ศธ. มีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นต้นทาง เป็นต้นน้ำในการผลิตคน
ดังนั้น ประเทศต้องการเห็นคนเป็นอย่างไรจะต้องนำการศึกษาเข้าไปผลิตคนให้ไปทางนั้น เพราะฉะนั้น การประชุมครั้งนี้จะนำการศึกษามาต่อยอดในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีคุณภาพ จึงได้เชิญทูตต่างประเทศ ประจำประเทศไทย หอการค้าต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์เป็นผู้ใช้แรงงานว่ามีความต้องการกำลังคนอย่างไร ซึ่งจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากความคิดของภาครัฐ เพราะสิ่งที่ ศธ.กำลังผลักดันอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานก็ได้ ดังนั้น การประชุมร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นการรับฟังข้อมูล และกลั่นกรองว่ามีอะไรดีที่ควรจะปรับมาใช้ ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้มาทำแผนพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงาน
"ที่ผ่านมารัฐบาลเคยเปิดเวทีรับฟังการปฏิรูปกฎหมายของไทย โดยเชิญสถานทูตและหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย มาให้ความเห็นถึงกฎหมายไทย โดยเฉพาะกฎหมายด้านธุรกิจต่างๆของไทย จากนั้นรัฐบาลก็นำความคิดเห็นเหล่านี้มาปรับใช้ ซึ่งก็ได้ผลสัมฤทธิ์ที่ดี วันนี้เราจึงเปิดเวทีรับฟังความเห็นเรื่องการศึกษา ในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเราหวังว่าจะเกิดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น ก็ขอขอบคุณ สกศ.ที่ตื่นขึ้นมาจัดเวทีนี้ ไม่อย่างนั้นภาครัฐก็จะคิดเอง พูดเอง เออเองคนเดียว การคิดแบบรัฐต่างจากเอกชนคิด หากวันนี้เรารับฟังความคิดเห็นจากผู้แทนภาครัฐและเอกชนต่างประเทศจะทำให้เราสามารถวางแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพในอนาคตต่อไปได้" นายวิษณุ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้โลกกำลังเข้าสู่ VUCA World ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผันผวนตลอดเวลา ตนจึงอยากให้คนไทยรู้จักคำว่า VUCA ให้มาก ๆ ซึ่ง VUCA World ประกอบด้วย Volatility ความผันผวน Uncertainty ความไม่แน่นอน Complexity ความสลับซับซ้อน Ambiguity ความคลุมเครือ ขณะเดียวกันเราเจอกับดิสรัปชั่นทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือโควิด-19 ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมานั่งคิดกันว่าทำอย่างไรจึงปรับสภาพสังคมไทยให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้ เริ่มต้นจะต้องให้คนไทยรู้จักปัญหาก่อน แล้วค่อยมาหาทางแก้ไข ซึ่งการศึกษาจะเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะช่วยได้ ขณะนี้การจัดการเรียนการสอนของไทยยังล้าสมัย เพราะยังไม่สามารถทำให้เด็กเราคิดเองได้ ที่มีเด็กออกมาเคลื่อนไหวตนจึงโทษการจัดการเรียนการสอนที่ไม่ตอบสนองความต้องการของเด็ก ดังนั้น ในวันนี้เราจึงต้องมาคิดร่วมกัน ต่อไปจะต้องปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน และการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ต้องนำตัวอย่างที่ดีจากประเทศต่าง ๆมาดัดแปลงพัฒนาการศึกษาไทย
ด้าน นส.ตรีนุช กล่าวรายงาน ว่า สืบเนื่องมาจากยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต และนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนไทยในทุกช่วงวัย เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการรองรับการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนกอปรกับปฏิญญาอาเซียน ว่าด้วยการพัฒนากำลังคนสำหรับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของงาน (the ASEAN Declaration on Human Resources Development for the Changing World of Work ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติ ในการพัฒนากำลังคน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
1) การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงวัย 2) การศึกษาและการจ้างงานอย่างบูรณาการ 3) การสนับสนุนทักษะฝีมือแรงงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน 4) การเข้าถึงโอกาสการจ้างงานที่ดีขึ้น และ 5) การกำหนดนโยบายด้านการพัฒนากำลังคนและการเงิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การพัฒนากำลังคนเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนควรให้ความสำคัญ ประกอบกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกเข้าสู่ยุค "VUCA World" ซึ่งเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติทั้งเทคโนโลยีและการแข่งขันทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับทั้งการศึกษาและการทำงาน
รมว.ศธ. กล่าว่อว่า ทิศทางและรูปแบบการศึกษาทุกระดับและประเภทจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถพัฒนากำลังคนให้มีความยืดหยุ่นเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์ของโลกที่ผันผวน สามารถเข้าถึงโอกาสในการทำงาน และรองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาลภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งจะส่งผลถึงการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้ ทั้งนี้ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการจัดการศึกษาว่า "คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21" ซึ่งการจัดการศึกษาให้บรรลุวิสัยทัศน์ดังกล่าวและการพัฒนากำลังคนให้สามารถดำรงชีวิตในโลกที่ผันผวนได้นั้น ต้องนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับ อีกทั้งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ที่มีความสำคัญในการกำหนดความต้องการทักษะที่จำเป็นในโลกของการทำงาน
“สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาในฐานะหน่วยงานระดับนโยบายที่มีภารกิจในการจัดทำแผนและนโยบายการศึกษาของประเทศ จึงกำหนดจัดประชุมเครือข่ายการศึกษาและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ เรื่อง "ทิศทางการศึกษาไทยกับการพัฒนากำลังคนในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสำหรับการทำงานในโลกที่ผันผวน (The Direction of Education and Hurnan Resources Development of Thailand in the 21st Century for the Changing inthe VUCA World of Work)" เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้กระทรวงศึกษาธิการ หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และหุ้นส่วนทางการศึกษา ได้ร่วมกันกำหนดทิศทางการศึกษาไทยกับการเตรียมกำลังคนสู่ปี 2025 เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสำหรับการทำงานในโลกที่ผันผวน โดยหลังจากนี้กระทรวงศึกษาธิการจะได้มีการหารือและสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจในการพัฒนากำลังคนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาโมเดลการจัดการศึกษาของประเทศในทุกระดับต่อไป” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี