‘บิ๊กโจ๊ก’ นำทีมแถลงทลายองค์กร ‘ค้ามนุษย์’ ข้ามชาติ เงินหมุนเวียนทั้งใน-นอกประเทศนับพันล้านบาท ผู้ต้องหาเพียบ เปิดเส้นทางโยงใยลอบขน ‘โรฮิงญา’ เข้าไทย ซุกหลายจังหวัด กักขัง ขู่เข็ญ ขูดรีดเงินจากเหยื่อ และญาติ
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร (บก.ภ.จว.ชุมพร) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และรองผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองผอ.ศพดส.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) , พล.ต.ต.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงิน รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้นในขณะนี้ 24 คนส่งดำเนินคดี
ทั้งนี้ เครือข่ายค้ามนุษย์ดังกล่าวมีการจัดหาคนจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเข้ามาในประเทศไทยทาง อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วมีกลุ่มคนรับตัวเดินทางมาพักตามจุดต่างๆ เช่น ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส จนถึงประเทศเพื่อนบ้านติดชายแดนทางภาคใต้ มีการกักขังขู่เข็ญ ขูดรีด เพื่อเรียกเงินจากเหยื่อ และญาติ โดยพบว่าขบวนการดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร ร่วมกันจับกุมตัวนายเขมทัต อายุ 36 ปี พร้อมด้วยคนต่างด้าวสัญชาติ เมียนมา โรฮิงญา 5 คน โดยสารมากับรถตู้ เพื่อหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และต่อมาเวลา 16.30 น.ของวันเดียวกัน ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมตัวนายชัยชาญ อายุ 41 ปี และ น.ส.จุลลา อายุ 26 ปี พร้อมด้วยคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา โรฮิงญา 6 คน โดยสารมากับรถตู้ที่นายชัยชาญขับมา เพื่อหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.30 น. ตำรวจ สภ.เขานิพันธ์ ร่วมกันจับกุมตัวนายฮู เซ็น อายุ 48 ปี สัญชาติเมียนมา และชู อาลิน อายุ 18 ปี สัญชาติเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ให้พักอาศัย ซ่อนเร้นคนต่างด้าวผิดกฎหมาย พร้อมกับได้ทำการตรวจค้นบ้านในพื้นที่หมู่ 5 ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา โรฮิงญา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 3 คนในบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นลักษณะกักขังตัวไว้
ทั้งนี้ 3 คดีดังกล่าวตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ได้ทำการคัดแยกเหยื่อผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์ และมีความเห็นว่าคดีดังกล่าวทั้ง 3 เรื่องนั้น เข้าข่ายกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
ต่อมาตำรวจภูธรภาค 8 โดย พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนขยายผลความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน และจากการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงทราบว่าทั้ง 3 คดีมีความเกี่ยวข้องกัน มีผู้ร่วมกระทำผิดเป็นกระบวนการ มีความสัมพันธ์กันเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และฟอกเงิน มีการกระทำผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ
เริ่มจากจัดหาคนจากประเทศเมียนมาส่งเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ ที่บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วมีกลุ่มคนที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว รับตัวเดินทางมาพักตามจุดต่างๆในประเทศไทย ที่กลุ่มผู้กระทำผิดได้เตรียมไว้ เช่น จ.ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส จนถึงประเทศมาเลเซีย มีการกักขังขู่เข็ญ ขูดรีด เพื่อเรียกเงินจากเหยื่อ และญาติ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย จึงได้ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 คดี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 จากการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน คณะพนักงานสอบสวนได้ทำการขออนุมัติศาลให้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้นรวม 4 คดี 14 คน 24 หมายจับ
ต่อมาวันที่ 6 ธันวาคม 2564 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 หัวหน้าฝ่ายสืบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศพดส.ตร. และ ศพดส.ภ.8 ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ อ.แม่สอด จ.ตาก , อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส , อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี , อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และพื้นที่อื่นๆ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน และยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุม 3 คน จะได้ติดตามจับกุมตัวต่อไป
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในประเทศกว่า 600 ล้านบาท และถ้ารวมในต่างประเทศด้วยจะถึงราว 1,000 ล้านบาท ทรัพย์สินดังกล่าวถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด หรือได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายจากความผิดมูลฐาน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสาน สำนักงานป้องกันปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี