ตร.ไล่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดคดีคนร้ายลอบยิงรถหาเสียงผู้สมัครส.ส.พรรคกล้าที่ชุมพร ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ขณะที่ภาพรวมการเลือกตั้งการข่าวยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดความรุนแรงจากแต่ละพรรค

8 ม.ค.65 ความคืบหน้ากรณีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถหาเสียงของพ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือ ผู้กำกับหนุ่ย ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 1 ชุมพร เบอร์ 5 บนถนนเส้นชุมพร-ระนอง ซึ่งมีการก่อเหตุลักษณะแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วนั้น

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทราบว่า ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ หรือบริเวณในจุดใกล้เคียง เพื่อหาเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายและระบุตัวบุคคลให้ได้

ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ 3 ประเด็นคือ ประเด็นการเลือกตั้งซ่อมที่เกิดขึ้นจากแข่งขันในพื้นที่ของพรรคต่างๆ, ความขัดแย้งส่วนตัวของผู้รับลงสมัครเอง, และประเด็นสุดท้ายเป็นการก่อเหตุเชื่อมโยงไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่งที่ไปช่วยหาเสียงในวันเดียวกัน ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง หากทราบว่าบุคคลที่ก่อเหตุดังกล่าวเป็นใครหรือเกี่ยวข้องกับประเด็นใดก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ทั้งนี้หากผู้สมัครประสงค์จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปช่วยคุ้มครองความปลอดภัยในพื้นที่ก็พร้อมดำเนินการให้ทันที

ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ขณะนี้หลังจากที่มีผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้วจำนวน 7 คน พบว่าการหาเสียงของแต่ละพรรคยังไม่มีเหตุการณ์ใดผิดปกติ หรือที่ส่อว่าจะผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือมีการร้องเรียนมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทาง กกต. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทุกจุดได้เข้าไปอำนวยความสะดวก ทั้งเรื่องการจราจรและการดูแลความสงบเรียบร้อยในการลงหาเสียงของแต่ละพรรคอย่างเท่าเทียมกัน

สำหรับการข่าวของชุดสืบสวนในแต่ละพื้นที่ สน.รับผิดชอบของเขตเลือกตั้งพบว่า ขณะนี้ยังไม่มีเหตุใดที่น่าเป็นห่วง หรือจะมีการก่อเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ช่วยหาข่าวอีกทางหนึ่ง และจะมีการระดมกวาดล้างอาวุธในพื้นที่เลือกตั้งซ่อมในสัปดาห์นี้ เพื่อป้องกันเหตุเกิดเหตุความรุนแรงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น