วันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
กทม.เปิดศูนย์พักคอยฯ 41 แห่ง พร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 ขอปชช.ช่วยคนละมือ

กทม.เปิดศูนย์พักคอยฯ 41 แห่ง พร้อมรับผู้ป่วยโควิด-19 ขอปชช.ช่วยคนละมือ

วันเสาร์ ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2565, 18.03 น.
Tag : กทม. โควิดวันนี้ ศูนย์พักคอยฯ โควิด19 ผู้ป่วยโควิด-19
  •  

วันที่ 8 มกราคม 2565  นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมการเปิดศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) เกียกกาย เขตดุสิต เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รองรับกรณีมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้าสู่ระบบการรักษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์การติดเขื้อผู้ป่วย-19 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยมี นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายธานินทร์ เนียมหอม ผู้อำนวยการเขตดุสิต และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่

ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ได้มีนโยบายกำชับให้เตรียมความพร้อมศูนย์พักคอย (Community Isolation : CI) จำนวน 41แห่ง รวม 5,158 เตียง ทั้งทางด้านบุคลากร วัสดุอุปกรณ์ ให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดดำเนินการภายใน 7 มกราคม 2565 โดยขณะนี้ CI ทั้ง 13 แห่งแรกนี้ มีจำนวนเตียงพร้อมรองรับแล้วรวมทั้งหมด 1,826 เตียง และเตรียมพร้อมอีก 28 แห่ง ให้สามารถเปิดได้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2565 เป็นต้นไปอีก 3,332 เตียง ปัจจุบันมีผู้ครองเตียง 137 ราย (ณ 8 ม.ค. 65) คงเหลือ 5,021 เตียง


สำหรับศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (CI) เฉพาะสำหรับเด็กและครอบครัว ที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยเกียกกายแห่งนี้เป็น 1 ใน 13 แห่งแรกที่เปิดให้บริการได้ก่อน สามารถรับผู้ป่วยเด็กอายุ 5-12 ปี แบ่งเป็นได้ ชาย 26 คน และหญิง 26 คน เดิมได้ปรับเป็นสแตนด์บายโหมดอยู่แล้ว หากมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นเด็กอายุ 5-12 ปี ก็สามารถรับผู้ติดเชื้อมาดูแลได้ทันที 

ส่วนศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อประจำกลุ่มเขตที่พร้อมเปิดให้บริการอีก 12 ศูนย์ฯ  ได้แก่ 1. บริษัท RBS Logistic จำกัด เขตลาดพร้าว 175 เตียง 2. โรงเรียนการไปรษณีย์ เขตหลักสี่ 118 เตียง 3. ประปาแม้นศรี เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 100 เตียง 4. ศูนย์ตันปัน เขตห้วยขวาง 145 เตียง 5. วัดสะพาน เขตคลองเตย 500 เตียง 6. นาซ่า แบงค์คอก เขตสวนหลวง 92 เตียง 7. ศูนย์พักคอย กทม. เขตคันนายาว 127 เตียง 8. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตบางกะปิ 133 เตียง 9. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตทวีวัฒนา 114 เตียง 10. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย (สตรี) เขตบางกอกใหญ่ 50 เตียง 11. วัดกำแพง เขตภาษีเจริญ 100 เตียง 12. ศูนย์สร้างสุขทุกวัย เขตบางขุนเทียน 120 เตียง 

นอกจากการเปิดบริการศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ (Community Isolation : CI) ผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 13 แห่งแล้ว กรุงเทพมหานครยังได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม จำนวน 4 แห่ง และโรงพยาบาลสนามประจำกลุ่มเขตทั้ง 6 กลุ่มเขต (District Field Hospital/CI Plus) จำนวน 7 แห่ง โดยดำเนินการร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดภาครัฐและเอกชน จำนวนเตียงรวมทั้งสิ้น 4,974 เตียง รวมถึงเตรียมความพร้อมทั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์พักคอยเพิ่มเติมอีก 25,345 เตียง แบ่งออกเป็น โรงพยาบาลหลัก 2,922 เตียง โรงพยาบาลสนาม 2,898 เตียง และ Hospitel 19,525 เตียง 

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมพร้อมทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อดูแลผู้ป่วยประจำศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หากเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาตัวที่บ้านแบบ Home Isolation (HI) ซึ่งอาจจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และเตรียมความพร้อมศูนย์เอราวัณเพื่อรับส่งผู้ป่วย เข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการความรุนแรงของโรค ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในสังกัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงานเขต 50 เขต สำนักเทศกิจ โรงพยาบาลสังกัด กทม. และศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในการวางแผนตรวจคัดกรองโรคให้ประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมทั้งฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อลดอัตราการแพร่เชื้อ การเจ็บป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิต อีกทั้งมีการบริหารจัดการศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ และ Hospitel ตามแนวทางของหน่วยงานเครือข่าย ตลอดจนลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) หากมีผลเป็นบวกจะตรวจซ้ำด้วยวิธี RT-PCR หากพบผลติดเชื้อจะประสานศูนย์เอราวัณ เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นอีกครั้ง ก่อนนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามอาการความรุนแรงของโรค

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีประชาชนติดเชื้อโควิด-19 สามารถแจ้งเข้าสู่ระบบการรักษาได้ทางสายด่วน โทร. 1330 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประเมินอาการและนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาโดยเร็วที่สุด แต่หากมีกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อผ่านศูนย์เอราวัณ โทร. 1669 ได้อีก 1 ช่องทาง เจ้าหน้าที่จะช่วยประสานข้อมูลเข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการต่อไป นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต กลับมาดำเนินการให้บริการรับแจ้งเหตุผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาทางสายด่วนโควิด-19 ของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต อย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุด เพื่อให้การนำส่งผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว และช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในวงกว้าง 

พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือประชาชนป้องกันตนเองด้วยการหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่เสี่ยงต่างๆ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หรือว่าไปในที่มีคนจำนวนมาก ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยๆ หรือเมื่อสัมผัสสิ่งเสี่ยงติดเชื้อ หากเป็นไปได้ให้พกแอลกอฮอล์ล้างมือติดตัวเพื่อความสะดวกเวลาไปสถานที่ต่างๆ และให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลหากต้องไปในสถานที่ที่มีการรวมคนจำนวนมาก นอกจากนี้ขอความร่วมมือประชาชนหากช่วงเวลากลางคืนไม่มีความจำเป็นต้องออกไปไหนให้งดเว้นหรือลดการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้อีกทาง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อุตุฯเตือนฝนหนัก  เหนือ-อีสาน-กลาง  กทม.ตกร้อยละ70 อุตุฯเตือนฝนหนัก เหนือ-อีสาน-กลาง กทม.ตกร้อยละ70
  • สภาผู้บริโภคดันรัฐ ปรับนโยบายผังเมือง-อาคารสูง กระทบประชาชน สภาผู้บริโภคดันรัฐ ปรับนโยบายผังเมือง-อาคารสูง กระทบประชาชน
  • กทม.ปิดศูนย์ฯ รื้อซากตึกสตง. ตร.จ่อหมายจับ 17 รายทำพังถล่ม กทม.ปิดศูนย์ฯ รื้อซากตึกสตง. ตร.จ่อหมายจับ 17 รายทำพังถล่ม
  • กทม.ทำบุญใหญ่! สวดบำเพ็ญส่วนกุศล แด่ผู้สูญหาย‘ตึก สตง.ถล่ม’ (ประมวลภาพ) กทม.ทำบุญใหญ่! สวดบำเพ็ญส่วนกุศล แด่ผู้สูญหาย‘ตึก สตง.ถล่ม’ (ประมวลภาพ)
  • เยียวยา38ล้าน  ช่วยญาติตึกสตง.พังถล่ม  เคลียร์ซากตึกใกล้ถึงชั้น1 เยียวยา38ล้าน ช่วยญาติตึกสตง.พังถล่ม เคลียร์ซากตึกใกล้ถึงชั้น1
  • \'สภาผู้บริโภค-เครือข่ายผู้บริโภค\' เรียกร้อง\'ผู้ว่าฯ กทม.\' ตรวจอาคารสูง 50 เขต ใน 30 วัน 'สภาผู้บริโภค-เครือข่ายผู้บริโภค' เรียกร้อง'ผู้ว่าฯ กทม.' ตรวจอาคารสูง 50 เขต ใน 30 วัน
  •  

Breaking News

ลุงพลาดท่าถูกหลานชายป่วยทางจิตกระทืบดับ หลังทะเลาะกันในวงเหล้า

รวบสาว Sex Creator สร้างคอนเทนต์ลามกอนาจาร

เหตุเกิดที่‘เกาหลีใต้’! โชเฟอร์แท็กซี่หื่นขอมีอะไรกับนทท.สาวไทย แต่เอาผิดไม่ได้เพราะใช้แค่คำพูด

'ชวน'ทดลองนั่งรถบัส 1 ใน 15 เส้นทางห้ามบัส 2 ชั้นวิ่ง พร้อมต่อสายตรงหาทางแก้ให้ผู้ประกอบการ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved