ร้านอาหารฝ่าฝืนคำสั่งฯ ลอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปล่อยลูกค้านั่งในร้าน แถบตบตาเทใส่เหยือกแทน ตร.ลุยตรวจที่ขอนแก่น 1 ร้าน ส่วนร้อยเอ็ด 3 ร้าน ขณะที่พัทยา จ.ชลบุรี ดำเนินคดี 12 ร้าน
เมื่อวันที่ 13 มกราคมพล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สั่งการให้ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ณัฏฐ์ โหม่งพุฒ ผกก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น นำกำลังออกตรวจสอบสถานประกอบการที่ลักลอบจำหน่ายสุราและเปิดบริการเกินเวลา ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเข้าตรวจสอบร้านอาหารชื่อ ‘ป.มีนา’ตั้งอยู่เลขที่ 67/35 หมู่ 7 ถนนศรีจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น พบตัวนายภัทรพล ชัยมงคลลาภ อายุ 42 ปี และนายกิตภัท ดวงสานันท์ อายุ 42ปี ทั้งสองแสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้านดังกล่าว โดยพบว่าเปิดให้บริการภายหลังเวลา 24.00 น.และมีลูกค้าเข้ามาเที่ยวดื่มกินภายในร้านอย่างต่อเนื่อง มีพนักงานคอยให้บริการอาหารและเครื่องดื่มตลอดเวลา จึงตรวจยึดภาชนะบรรจุแอลกอฮอล์แก้วกระดาษที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใบเสร็จรายการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ลูกค้า
พล.ต.ต.นพเก้า กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทางจังหวัดขอนแก่น มีประกาศห้ามนั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร แต่ยังพบร้านอาหารฝ่าฝืนฯ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ร้านแห่งนี้ ก็พบผู้ทำหน้าที่ดูแลร้าน รวมถึงนักเที่ยวซึ่งเข้ามานั่งดื่มภายในร้าน จึงต้องดำเนินคดี นอกจากนี้ยังพบว่ามีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีด้วย ซึ่งมีการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่ไว้ในเหยือกพลาสติกแทน จึงยึดไว้เป็นของกลาง และได้คุมตัวนักเที่ยวชายและหญิง รวม 24 คน รวมทั้งพนักงานของร้าน 8 คน ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดี
ที่ จ.ร้อยเอ็ด ช่วงคืนวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ไพโรจน์ มังคลา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิริสัณห์ เยื้อนสงวนชัย รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร ผกก.สส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นำกำลังตรวจสอบสถานบริการใน อ.เมือง และ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งลักลอบเปิดบริการเกินเวลา 23.00 น.ฝ่าฝืนประกาศจังหวัด เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (ฉบับที่ 47) และละเมิดข้อห้ามการจำหน่ายสุราให้ลูกค้านั่งดื่มภายในร้าน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบร้านอาหารต่างๆ ใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด หลายแห่ง พบว่ามี 1 ร้าน ที่ฝ่าฝืนฯ ส่วนที่ ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ พบว่ามี 2 ร้านอาหาร ที่กระทำผิด จึงควบคุมตัวเจ้าของร้านส่งพนักงานสอบสวนรับไว้ดำเนินคดี อย่างไรก็ดี เจ้าของร้านทั้งหมด ได้ยื่นหลักทรัพย์รายละ 10,000 บาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นสอบสวน หรือขอปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนจะนัดส่งฟ้องคดีต่อศาลต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ที่ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19จ.ชลบุรี ได้ออกคำสั่งให้ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เกินเวลา 21.00น.เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ต่อมาเมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ทางด้าน พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรีพ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยาได้นำกำลัง ร่วมกับฝ่ายสืบสวนภ.จว.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกกวาดล้างอาชญากรรม และตรวจสอบสถานบริการที่ลักลอบเปิดบริการฝ่าฝืนคำสั่งฯ ที่อาจจะเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่เมืองพัทยา
จากการตรวจสอบพบว่าหลายร้านให้ความร่วมมือปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 21.00 น. แต่ยังมีสถานบริการอีกหลายแห่ง ฝ่าฝืนโดยเปิดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยให้มีลูกค้านั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน ซึ่งบางร้านแอบเปิดให้บริการด้วยการปิดประตูด้านหน้าร้าน มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นั่งดื่มกันอยากสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เปิดประตู ก่อนแสดงตัวเข้าจับกุม
นอกจากนี้ในบางร้านพบว่ามีการใช้ผ้าใบปิดด้านหน้าร้านไว้ แล้วเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใส่ในเหยือกเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไปได้รวมถึงยังมีอีกหลายร้านที่ฝ่าฝืนคำสั่งฯ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันเข้าตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด เบื้องต้นได้ควบคุมตัวเจ้าของร้านที่ฝ่าฝืนฯ ทั้งหมด 12ร้าน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี