นายกฯกำชับเร่งคุมระบาดอหิวาต์ในสุกร สั่งตั้งวอร์รูมแก้หมูแพง “อธิบดีกรมปศุสัตว์ชี้ใช้เวลา 8-12 เดือน แก้ปัญหาทั้งระบบ ปัดปกปิดโรค ASF “เฉลิมชัย” มั่นใจราคาเนื้อหมูที่ปรับสูงขึ้น จะเข้าสู่ภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่สั่งกรมปศุสัตว์เร่งเดินหน้าทุกมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว “จุรินทร์” นำทีมตรวจติดตามราคาสินค้า! ดูแลประชาชน อยู่ได้ทุกฝ่าย ให้เกิดความสมดุล-ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เตรียมชง ครม.ของบกลาง 1,400 ล้านบาทช่วยลด ค่าครองชีพ
เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 14 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ และนายสัตวแพทย์กิจจา อุไรวงค์ อาจารย์ประจำคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประมาณ 20 นาที โดยทั้งคู่ได้สวมกอดกัน ในลักษณะให้กำลังใจซึ่งกันและกัน หลังลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า
เผยนายกฯติดตามแก้ปัญหาASF
จากนั้น นายสัตวแพทย์ สรวิศ ให้สัมภาษณ์ว่า นายกฯ เอาใจใส่ ติดตามการแก้ปัญหาโรคหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ของกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายกฯ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าไปด้วยกัน โดยสั่งการว่า 1.ให้ดำเนินการควบคุมโรคให้เร็วที่สุด และมีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากที่สุด 2.จะต้องฟื้นฟูให้เกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย และดูว่ารัฐสามารถช่วยเหลือในเรื่องใดได้บ้าง 3.การพัฒนาวัคซีน ASF เพื่อป้องกันโรคระบาด เพราะโรคนี้เกิดขึ้นมา 100 ปี แต่ก็ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน และ 4.แนวทางการสำรวจสุกรที่ติดเชื้อ เนื่องจากขณะนี้มีการระบุว่าสุกรที่สูญหายไปจากระบบกว่า 50 % นั้นเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้นายกฯ ได้สั่งการว่า จะต้องให้ทุกหน่วยงานเช่นกระทรวงมหาดไทย ให้ความร่วมมือและช่วยเหลือ เพราะกรมปศุสัตว์มีเจ้าหน้าที่น้อย นอกจากนี้ นายกฯ ยังให้ประชาชนผู้บริโภคเดือดร้อนน้อยที่สุด ทั้งนี้ เรื่องราคาหมูแพงต้องพูดคุยกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ว่า สามารถตรึงราคาได้แค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบมาตลอดว่ากรมปศุสัตว์ร่วมกับมหาวิทยาลัยภาคีเครือข่ายได้ทำอะไรมาบ้าง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ยืนยันไม่เคยปกปิดข้อมูล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสว่ากรมปศุสัตว์ปกปิดข้อมูลเรื่องการระบาดโรค ASF นายกฯได้สอบถามเรื่องนี้หรือไม่ นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า นายกฯ เข้าใจเพราะได้รายงานการทำงานให้นายกฯ ตลอด โดยตั้งแต่ปี 2561 ได้เกิดโรคระบาดในจีน และเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 รัฐบาลได้ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ หากเราปกปิด จะไม่สามารถส่งหมูไปต่างประเทศได้ เช่น เวียดนามหรือกัมพูชา เพราะเขาก็ต้องตรวจโรคเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นคำตอบที่สำคัญ ส่วนเงินที่ขอจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ต้องทำความเข้าใจว่า เป็นเงินที่ใช้ในการฟื้นฟูเกษตรกรรายย่อย จากการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคระบาด ซึ่งเป็นไปตามหลักการระบาดวิทยาทางสัตวแพทย์
ใช้เวลาดำเนินการแก้ไข8-12เดือน
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขีดเส้นการแก้ไขปัญหาไว้หรือไม่ นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้ขีดเส้น แต่บอกว่าให้ช่วยเหลือกันในการขับเคลื่อน เพราะโรค ASF ไม่ได้เกิดแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่เกิดใน 34 ประเทศทั่วโลก โดยในเอเชียรอบบ้านเรามีการระบาดกว่า 14 ประเทศ นายกฯ ได้เน้นย้ำแค่ในเรื่องการควบคุมโรคให้ดี และสงบโดยเร็ว รวมถึงสามารถทำให้เกษตรกรเดินหน้าต่อไปได้ โดยเป็นการร่วมมือกันกับภาครัฐ เอกชนและอาจารย์มหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม แม้นายกฯ จะไม่ได้ขีดเส้น แต่ได้ถามถึงราคาสุกรและการเข้ามาของสุกรในระบบ ว่าใช้เวลาการดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อใด ซึ่งตนก็ตอบไปว่าประมาณ 8-12 เดือน
ยันบริโภคได้ ไม่ติดโรค
เมื่อถามถึงกรณีที่เกษตรกรที่นำหมูที่ล้มตายออกไปขาย นายสัตวแพทย์ กิจจา กล่าวว่า โรค ASF ไม่ก่อโรคในคนละสัตว์ชนิดอื่น ยังสามารถบริโภคได้ แต่ต้องเน้นในเรื่องของสุขอนามัย
ถามว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในจ.นครปฐม บอกว่ามีการระบาดของโรคมา 2 ปีแล้ว นายสัตวแพทย์กิจจา กล่าวว่า ประเด็นสำคัญหากพบการระบาดของโรคแล้วมาตรการต่อไปที่จะดำเนินการคือการฟื้นฟูอุตสาหกรรมเลี้ยงสุกรให้เข้มแข็งขึ้นเหมือนเดิม แต่จะเสียหายเท่าไหร่ต้องดูการประเมินก่อน
เยียวยาเฉพาะรายย่อยเท่านั้น
เมื่อถามว่า วงเงิน 574 ล้านบาท ที่จะเยียวยาจะไปที่กลุ่มไหนบ้าง นายสัตวแพทย์ สรวิศ กล่าวว่า รายย่อยเท่านั้น ขอทำความเข้าใจว่าการเยียวยาดังกล่าวคือ การดำเนินการลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เนื่องจากตั้งแต่ 3 ส.ค. 61 ที่เกิดโรคในจีน ภายใน 6 เดือนจีนฆ่าสุกรไป 500 ล้านตัว ในประเทศไทยมีการประชุมตั้งแต่ต้นว่าจะป้องกันอย่างไร ภาคเอกชนมีการลงขันช่วยเหลือรายย่อย ดำเนินการลดความเสี่ยง 100 ล้านบาท เมื่อเขาระดมทุนมาแล้ว เขาจึงขอภาครัฐ ซึ่งตั้งแต่ตนรับราชการมานี่เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลช่วยเหลือหมูในการให้งบประมาณรวมทั้งสิ้นกว่า 1.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่ดำเนินการลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ไม่ใช่เกิดโรคแล้ว ขอย้ำตรงนี้ และโรคในสุกรหากดูภายนอกเราไม่รู้ การควบคุมโรคที่ชัดเจนคือการขจัดความเสี่ยง เพื่อให้ทันกับโรค ส่วนงบประมาณที่จะให้รายกลาง รายใหญ่ เราไม่มีให้ เพราะรัฐบาลสนับสนุนเฉพาะรายย่อย
“บิ๊กตู่”บอก“โอเค”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามสื่อมวลชนหลังเรียกนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์เข้าพบ เพื่อติดตามการแก้ปัญหาโรคระบาดในสุกร หลังจากที่ไทยมีการประกาศพบเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในประเทศไทย โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยแล้วเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ก็โอเค”
สั่งตั้งวอร์รูมแก้หมูแพง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งตรวจสอบการขึ้นทะเบียนเกษตรเจ้าของฟาร์มหมูให้ครอบคลุมทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ประสานความร่วมมือไปที่กระทรวงมหาดไทย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่และให้กรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบคุณภาพการเลี้ยงหมู ทั้งโรงฆ่าสัตว์ และเขียงหมูโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังให้ปศุสัตว์จังหวัดติดตามพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เพื่อสอบสวนสาเหตุ เร่งสำรวจปริมาณความต้องการบริโภคและใช้เนื้อหมูในประเทศ ขณะเดียวกันให้ศึกษาความจำเป็นในการนำเข้าเนื้อหมูชั่วคราว และการจัดหาพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ผลิตลูกหมูเพิ่มเติมในระบบ และให้กรมปศุสัตว์จัดตั้งวอร์รูม (War Room) สื่อสาร ชี้แจงการทำงานเพื่อแก้ปัญหาหมูแพงและโรคระบาดทุกวัน เพื่อประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายด้วย
รมว.เกษตรฯ สั่งเร่งแก้ปัญหา
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์เร่งดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาราคาเนื้อหมูแพงตามที่วางไว้ ทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้นและระยาว ทั้งนี้ปัญหาราคาเนื้อสุกรแพงนั้น มาจากหลายปัจจัย โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาเนื้อหมูปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณหมูมีชีวิตที่ถูกแปรสภาพเป็นเนื้อสุกรลดลง ประกอบกับภาวะต้นทุนการผลิตสุกรขุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการจัดทำระบบป้องกันภัยทางชีวภาพของฟาร์มและต้นทุนด้านการขนส่งที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น
มั่นใจกลับสู่ภาวะปกติได้แน่นอน
ทั้งนี้ มาตรการระยะเร่งด่วนนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้ประกาศห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตไปนอกราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 เดือน ช่วยเหลือราคาอาหารสัตว์ จัดสินเชื่อพิเศษ เพื่อให้เกษตรกรได้กลับมาเลี้ยงใหม่ ตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมสอดคล้องต้นทุนที่เกิดขึ้น และเร่งสำรวจภาพรวมการผลิตสุกรเพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการ พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน มาตรการระยะสั้น ส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อทดแทนการนำเข้า ขยายกำลังการผลิตแม่สุกร เร่งศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด
มาตรการระยะยาวคือ การผลักดันยกระดับมาตรฐานฟาร์มเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มมีระบบการป้องกันโรคและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค และจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. โครงการสานฝันสร้างอาชีพ ซึ่งราคาเนื้อหมูจะกลับสู่ภาวะปกติแน่นอน แต่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
จุรินทร์นำทีมตรวจราคาสินค้า
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตรวจติดตามราคาสินค้าที่โลตัส รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วย นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ , นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และ นายอภิชัย อร่ามศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี โดยมี น.ส.สลิลดา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืนและกฎหมายโลตัส ร่วมด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนได้ให้เป็นนโยบายและการดำเนินการใดให้ถือหลักทุกฝ่ายสามารถอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ให้เกิดความสมดุล ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย
ใช้สารพัดวิธีแก้ปัญหาหมูแพง
สำหรับเรื่องหมู สาเหตุที่ราคาหมูสูงขึ้นเพราะปริมาณหมูในระบบขาดหายไป การแก้ปัญหา คือทำอย่างไรให้ปริมาณเพิ่มขึ้น ราคาปรับลดลงในระดับที่ผู้บริโภคสามารถรับได้ ซึ่งต้องใช้ยาหลายขนาน ที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น 1.เพิ่มปริมาณหมูในตลาด โดยห้ามส่งออกหมู จะช่วยเพิ่มปริมาณหมูได้ปีละประมาณ 1,000,000 ตัว โดยประมาณและต้องมียาขนาดอื่นเพิ่มด้วยเช่น 2.เร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมูป้อนเข้าระบบ เป็นหน้าที่โดยตรงของกรมปศุสัตว์ ได้รับแจ้งจากกรมปศุสัตว์ว่า กำลังเร่งผลิตลูกหมูป้อนเข้าระบบสัปดาห์ละ 300,000 ตัวโดยประมาณ 3.เร่งส่งเสริมการเลี้ยงหมู โดยรัฐบาลจัดให้มีโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำผ่าน ธ.ก.ส.ให้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยสามารถกู้เงิน 4.ส่งเสริมการเลี้ยงหมูรายใหม่โดยเฉพาะรายย่อย มุ่งเน้นฟาร์มระบบมาตรฐานเพื่อป้องกันการติดโรค หากพบว่ามีการติดเชื้อปศุสัตว์จะต้องเร่งรัดดำเนินการแก้ปัญหา แต่ต้องเร่งจ่ายเงินชดเชย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์นอกจากห้ามการส่งออก ได้มีการเช็คสต๊อกหมูทั้งระบบ และเพิ่มจุดขายหมูเนื้อแดงราคาถูกกิโลกรัมละไม่เกิน 150 บาท 667 จุดทั่วทั้งประเทศ เพื่อชี้นำและแทรกแซงราคาในช่วงจำเป็นเพื่อแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งและมีหลายฝ่ายออกมาช่วยรณรงค์ให้บริโภคโปรตีนทางเลือกอื่น เช่น ไก่-ไข่ กระทรวงพาณิชย์ต้องไปช่วยดู เพื่อไม่ให้หนีจากหมูราคาสูงมาเจอไก่ราคาแพง ถ้ามีการฝ่าฝืนจะเร่งดำเนินการตามกฏหมายโดยเฉพาะการค้ากำไรเกินควร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นกลไกหลักนำทีมแก้ปัญหาเรื่องนี้ในแต่ละจังหวัด
เดินหน้าแก้ปัญหาไข่-ไก่แพง
เรื่องไข่ มีมติร่วมกันทั้งสมาคมผู้เลี้ยงไข่ทั่วทั้งประเทศ คนกลาง ห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมผู้ส่งออกตกลงกันตรึงราคาหน้าฟาร์มฟองละไม่เกิน 2.90 บาท จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ซึ่งจะมีผลให้การขายปลีกราคาปรับลดลงอยู่ที่ 3 บาทกว่าต่อฟอง ขึ้นอยู่กับขนาด และต้นทุนอื่นเช่น ค่าแผงบรรจุ เป็นต้น
เรื่องไก่ มีการเจรจาเบื้องต้นและมีข้อสรุปแล้ว แม้ยังมีบางฝ่ายที่ยังติดขัด ตนได้สั่งการให้ กรมการค้าภายในเรียกประชุมอีกครั้ง วันจันทร์ที่จะถึงนี้(17 ม.ค.65)มาตรการที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมการไว้ คือ 1.ด้านปริมาณได้ รับการยืนยันจากเกษตรกรและผู้ผลิตรายต่างๆว่าจนถึงขณะนี้ไก่มีปริมาณอย่างเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคชิ้นส่วนสำคัญ 3 ตัว คือ 1) ไก่สดทั้งตัว 2) น่องติดสะโพก และ 3) เนื้อหน้าอก ที่จะเป็นราคานำไปสู่ชิ้นส่วนอื่นๆ ให้กำหนดข้อตกลงร่วมกันว่าจะ ตรึงราคาแต่ละชิ้นส่วนที่ราคาเท่าไหร่ และ 2.แทรกแซงราคาชี้นำตลาดในราคาพิเศษ เพื่อป้องกันการดึงราคาสูงจนเกินไปเพื่อเป็นทางเลือก โดยจะจัดจุดจำหน่ายไก่ราคาถูก 3,050 จุด โดยต้องของบกลาง มาช่วยบริหารจัดการ และดูแลให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่เหมาะสม
กลางที่จะขอในวันอังคารหน้า (18 ม.ค.65) ประมาณ 1,400 ล้านบาท เพื่อมาจัดทำโครงการพาณิชย์ลดราคา! ลดค่าของชีพประชาชนเพิ่มทางเลือก เพื่อสร้างความสมดุลด้านราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในตลาดและการบริโภคภาคครัวเรือนในสถานการณ์นี้ ซึ่งจะเป็นโครงการระยะ 90 วัน หรือ 3 เดือน
ฉวยโอกาสขึ้นราคาเจอโทษหนัก
โดย อธิบดีกรมการค้าภายใน ยืนยันว่ายังไม่มีการอนุญาตให้สินค้ารายการใดขึ้นราคา ใครฉวยโอกาสขึ้นราคาต้องดำเนินคดีต่อไปตามมาตรา 29 จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้ดำเนินการโดยเคร่งครัด และตนสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งโครงการคนละครึ่งมาดำเนินการเร็วขึ้น เพราะชาวบ้านตอนนี้ต้องยอมรับว่าเดือดร้อนมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี