สธ.พร้อมหนุนส่งต่องานวิจัยและเทคโนโลยีสู่ผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงโดยเร็ว หวังดันผลิตภัณฑ์ไปต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2565 โดยมี ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในการประชุมนั้น ได้รับความสนใจจากผู้เกี่ยวข้องถึง 252 คน
ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวได้รับความสนใจมาก โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องกัญชายังเป็นยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขนั้น หนุนการปลดพืชกัญชาออกจากรายการยาเสพติด เหลือไว้เพียงสาร THC หรือเตตราไฮโดรแคนาบินอยด์ ที่อาจเกิดอันตรายหากใช้ไม่เหมาะสม และที่ผ่านมาก็เตรียมการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้ประชาชนเข้าถึงการใช้ประโยชน์ของกัญชาอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ ทางผู้ประกอบการภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมผู้ผลิตผลิตภัณฑ์กัญชง และยาสมุนไพร ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้มีการนำเข้าของกัญชาและกัญชง เพราะผู้ประกอบการในประเทศยังเป็นเจ้าเล็กๆที่กำลังพัฒนา หากปล่อยให้มีผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงกว่า ราคาถูกกว่าเข้ามาได้ ผู้ประกอบการในประเทศคงได้รับผลกระทบอย่างมาก
นอกจากนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้มานำเสนอเรื่องการวิเคราะห์เทอร์ปีนในผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง รวมถึงองค์การเภสัชกรรมก็ได้มานำเสนอผลการวิจัยการใช้สารสกัดกัญชา ในโรคมะเร็งระยะท้าย ลมชักและปลอกประสาทอักเสบ ซึ่งพบว่าได้ผลดี สิ่งนี้ทางคณะกรรมการขับเคลื่อนก็คุยกันว่าจะนำสิ่งนี้ไปให้เอกชนดำเนินการได้อย่างไร ซึ่งทางกระทรวงโดยสำนักงานคณะกรรมกานอาหารและยา (อย.) จะจัดการประชุมเชิงปฏิบัติร่วมกับภาคเอกชนในการวางยุทธศาสตร์ให้มีผลิตภัณฑ์กัญชากัญชงของผู้ประกอบการให้ขึ้นทะเบียนได้โดยเร็ว และมุ่งหวังดันผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี