“เลขาธิการ กพฐ.” ยืนยันศธ.ไม่มีนโยบายให้ตรวจ ATKนักเรียนทุกอาทิตย์-ทุกคน และไม่มีกรอบยุบโรงเรียนขนาดเล็ก คาดสื่อสารผิดพลาด
วันที่ 18 มกราคม 2565 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนขนาดเล็ก จ.ราชบุรี คัดค้านการยุบโรงเรียนเล็ก ว่า เหตุที่เกิดขึ้นใน จ.ราชบุรี เป็นขบวนการในการที่จะนำนักเรียนจากโรงเรียนหนึ่งไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง ซึ่ง นโยบาย ศธ.ไม่มีเจตนาไปยุบโรงเรียน แต่วันนี้ ศธ.มีข้อจำกัดของทรัพยากรครู ผู้บริหารสถานศึกษา ที่โรงเรียนมีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน หากครู ผู้บริหารเกษียณอายุราชการแล้วทางคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) จะไม่คืนอัตราเกณียณกลับมาให้ ดังนั้น วิธีการบริหารจัดหารที่จะทำให้นักเรียนมีคุณภาพเท่าเทียมกัน จึงต้องอาศัยปัจจัย 3 ส่วน คือ ต้องมีครูเพียงพอในการจัดการเรียนการสอน มีวิธีการจัดการเรียนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เช่น มีสื่อเทคโนโลยี อุปกรณ์ต่างๆ มีการวัดประเมินผล รวมถึงมีการส่งเสริมกิจกรรมอื่นที่ดี แต่ปัจจุบันเราไม่สามารถทำตรงนั้นได้เนื่องจากมีข้อจำกัดของโรงเรียนขนาดเล็ก
“ขบวนการของ ศธ.จะไม่มีการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก แต่เราจะสร้างโรงเรียนคุณภาพที่อยู่ใกล้แล้วให้โรงเรียนขนาดเล็กมาใช้ทรัพยากรในการจัดการเรียนการสอนร่วมกัน แต่โรงเรียนเล็กยังคงสภาพอยู่ และสอนในวิชาที่ทำได้ดีก็จัดการเรียนการสอนต่อไป แต่วิชาไหนทำไม่ได้ก็ให้เด็กไปเรียนรวมในโรงเรียนคุณภาพ เหมือนให้เด็กไปทัศนศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ แต่ถ้าหากผู้ปกครองประสงค์ไม่ให้ยุบโรงเรียน ศธ.ก็ไม่มีเจตนาไปยุบอยู่แล้ว เว้นแต่ผู้ปกครอวเห็นว่าไปเรียนรวมแล้วชอบก็ไปเรียนที่ใหม่เลย และอยากให้ผู้ปกครองประเมินว่าถ้าลูกหลานเรียนในโรงเรียนเล็กแล้วไม่มีคุณภาพ แต่พอไปเรียนที่โรงเรียนคุณภาพแล้วผลการเรียนของลูกหลานมีคุณภาพดีกว่าเดิม ก็ควรจะส่งเสริม ผมเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นลูกหลานเจริญก้าวหน้า แต่ถ้าไม่ดีก็กลับมาเรียนที่เดิม ซึ่งเหตุที่มีการคัดค้านเกิดขึ้นน่าจะเกิดจากการสื่อสาร การทำความเข้าใจระหว่างผู้ดำเนินการ ซึ่ง สพฐ.จะลงไปสร้างความเข้าใจอีกครั้งหนึ่ง” นายอัมพร กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวถึงกรณีผู้ปกครองคัดค้านการตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ให้กับเด็กนักเรียนเพราะทำให้ผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และยังทำให้ลูกหลานเจ็บตัวไม่อยากไปโรงเรียน นั้น ว่า โดยกรอบนโยบายของ ศธ. ไม่ได้กำหนดว่านักเรียนที่ไปโรงเรียนทุกวันจะต้องตรวจ ATK แต่มีหลักการว่า ภายใน 2 สัปดาห์ หากเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จะต้องมีการสุ่มตรวจประมาณ 10% ของนักเรียนที่เข้ามาเรียนในโรงเรียน กลับกลุ่มที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงจึงจำเป็นต้องมีการตรวจ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องจรวจทุกวันทุกคน ซึ่งการที่โรงเรียนไปปฏิบัติเช่นนั้น อาจจะไม่ได้สื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษา เพื่อสอบถามความเห็นทุกคนก่อนว่ามีความจำเป็นต้องตรวจอย่างไร และก่อนนั้นก็มีการตีความกันว่า ถ้าเด็กไม่ได้ฉีดวัคซีนก็จะไม่ให้มาเรียนที่โรงเรียน ซึ่ง สพฐ.บอกเพียงว่าในพื้นที่สีแดงเข้มต้องฉีดวัคซีน 85% แต่ถ้าพื้นที่สีอื่นก็ไม่ได้บังคับว่าจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้กี่เปอร์เซ็น ซึ่งปัจจุบันเด็กไม่ได้ฉีดวัคซีนก็มาเรียนออนไซต์ได้ หรือที่ฉีดวัคซีนแล้วผู้ปกครองยังไม่ประสงค์จะให้ลูกมาเรียนออนไซต์ ก็ให้เรียนออนไลน์ หรือเรียนวิธีอื่นได้ เพราะวันนี้ภาวะการจัดการศึกษา และภาวะอีกหลายอย่างอยู่ในภาวะไม่ปกติ ดังนั้น การสร้างความเข้าใจและการรับรู้ร่วมกันระหว่าง ผู้ปกครอง นักเรียน ครู จะต้องทำให้มากขึ้น ถ้าทุกคนเข้าใจกันความขัดแย้งทางความคิดก็จะไม่เกิด การจัดงานร่วมกันก็จะเกิดขึ้น
“เมื่อวานนี้(17 ม.ค) ผมและปลัด ศธ. ปลัด สธ.ปลัด มท. ได้หารือถึงแนวทางร่วมกัน ว่ามีแนวทางอะไรที่ส่วนกลางมีนโยบายลงไปแล้วเกิดความขัดแย้งในทางปฏิบัติ หรือเกิดความไม่เข้าใจตรงกัน ก็จะมีการปรับเพื่อนำเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่จะมีการประชุมในวันที่ 19 ม.ค.)นี้ ก็หวังว่าหลังจากนี้ทิศทางจะดีขึ้น” นายอัมพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี