ผกก.ทองผาภูมิ นำกำลังตำรวจสนธิกำลังทหารบุกเข้าจับแรงงานเถื่อนชาวพม่าแอบซุกถ้ำบนภูเขาบ้านท่าแพ อำเภอทองผาภูมิ รวม 83 ราย คนส่งน้ำส่งอาหารอีก 1 ราย
เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ (20 ม.ค.65) พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.ป.ฯ, พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน สวป., พ.ต.ต.ภาวัต ธรรมวิเศษ สว.สส.ฯ, ร.ต.อ.วีระชัย เกษเกษร และ ร.ต.อ.นิติพัฒน์ น้ำเงินดี รอง สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ จับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาขณะหลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำที่อยู่บนภูเขาท้องที่บ้านท้าแพ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
หลังจากจับกุมตัวได้เจ้าหน้าที่ต้องนำพาเดินเท้าลงมาด้านล่างอย่างทุลักทุเลและต้องใช้รถยนต์กระบะร่วม 10 คันไปนำแรงงานทั้งหมดมาที่ สภ.ทองผาภูมิเพื่อสอบปากคำ สำหรับแรงงานที่ถูกจับกุมได้มีจำนวน 84 คนอยู่ระหว่างการแยกเพศ
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ ได้ทำการจับกุมนายอัศนัย หรือยอม พรายแก้ว ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีส้ม หมายเลขทะเบียน กย 5104 ราชบุรี เข้ามาที่บริเวณถนนภายในสวนยางพารา จากการสอบสวนนายอัศนัย ให้การในเบื้องต้นว่าตนมีหน้าที่ส่งน้ำส่งข้าวให้กับกลุ่มแรงงานที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำ
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จึงคุมตัวนายอัศนัย เดินขึ้นเขาเพื่อมุ่งหน้าไปที่ถ้ำเมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ถึงกับตกตะลึงเนื่องจากพบแรงงานทั้งชายและหญิงเป็นจำนวนมากนั่งแออัดกันอยู่ภายในถ้ำ และกว่าจะพูดคุยกันรู้เรื่องต้องใช้เวลานานพอสมควร จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวแรงงานทั้งหมดออกมาจากถ้ำโดยต้องใช้รถยนต์กระบะมาขนร่วม 10 คันเพื่อนำมาสอบปากคำที่ สภ.ทองผาภูมิ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี