วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
อดีตพนง.แฉทุกขด‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ คายหมดเปลือกทุกขั้นตอนตุ๋น

อดีตพนง.แฉทุกขด‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ คายหมดเปลือกทุกขั้นตอนตุ๋น

วันอังคาร ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2565, 15.48 น.
Tag : ตุ๋น ปอยเปต แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกโอนเงิน
  •  

‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ เปิดใจถูกจ้าง 4 หมื่นข้ามแดนไปปอยเปต หลอกเหยื่อโอนเงิน พบมีชาวฟิลิปปินส์-อินโด-มาเลย์ ร่วมแก๊ง เฉพาะไทยกว่า 100 ชีวิต แบ่งแผนกตุ๋นเหยื่อคดียาเสพติด-ฟอกเงิน-ปล่อยกู้ หลอกได้สูง 3 ล้านบาท/วัน 

25 มกราคม 2565 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นำนายสุรศักดิ์ (นามสมมุติ) พร้อมมารดา เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม หลังหลบหนีออกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้พื้นที่ในจังหวัดปอยเปต ประเทศกัมพูชา เป็นสำนักงาน และถูกมาเฟียจีนตามข่มขู่คุกคาม แม้จะหนีกลับมาอยู่ฝั่งไทยแล้ว โดยมีว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องดังกล่าว


นายสุรศักดิ์(นามสมมติ) อายุ 18 ปี กล่าวว่า ช่วงต้นปี 64 ตนตกงาน จึงได้เล่นโซเชียลพบเพจหางานในปอยเปต โฆษณารับสมัครงาน โดยจะได้ค่าตอบแทน 4 หมื่นบาท ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงตัดสินใจไปทำงานเมื่อเดือน ก.ย.64 เมื่อไปถึง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มีผู้ชายชาวไทยเดินมารับเพื่อลักลอบพาข้ามแดนผ่านทางช่องทางธรรมชาติด้านจังหวัดปอยเปต จากนั้นจึงนำไปส่งไว้ที่อาคารแห่งหนึ่งใกล้ชายแดนกัมพูชา โดยในอาคารดังกล่าวพบว่ามีคนไทยถูกหลอกมาทำงานคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 100 ราย นอกจากนี้ยังมีชาวฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียอีกเป็นจำนวนมาก

“จะมีการจัดที่พักอาศัยให้อยู่รวมห้อง 5 คน มีอาหารให้รับประทาน 3 มื้อ มีห้องทำงานของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ จะแบ่งหน้าที่กันทำ แต่ละคนจะได้รับสมุดที่มีการบันทึกข้อมูลส่วนตัวของบุคคลที่มีรายชื่อเป็นคนไทยจำนวน 200 รายชื่อ”

ขณะที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะมีผู้ทำหน้าที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ ดีเอสไอ และแบ่งแผนกชัดเจน เช่น คดียาเสพติด แผนกคดีฟอกเงิน ใช้โทรศัพท์หาเหยื่อหลอกแจ้งหมายเลขคดี หมายจับ และชื่อบุคคลที่กระทำผิด จากนั้นจะหลอกล่อเหยื่อ การสอบข้อมูล โยงว่าเกี่ยวข้องกับผู้ที่กระทำผิด โดยสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในสถานีตำรวจ หรือสำนักงานรัฐ เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อว่ากำลังคุยกับตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐจริงๆ

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ในแต่ละวันจะมีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้วันละ 2-3 ล้านบาท เมื่อเหยื่อโอนเงินมาแล้วจะให้ผู้ถือบัตรเอทีเอ็มข้ามมากดเงินที่ อ.อรัญประเทศ ส่วนคนที่ถูกหลอกมาทำงานหากใครไม่ยอมจะถูกผู้คุมซ้อมทำร้ายร่างกาย โดยผู้ชายจะถูกขู่ส่งไปลงเรือประมงชายทะเลสีหนุ ส่วนผู้หญิงจะถูกส่งไปค้าประเวณี และหากหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจกัมพูชาจะถูกจับส่งตัวกลับไปที่เดิม แต่หากทำงานครบ 1 เดือน โดยไม่หลบหนีจะถือว่าผ่านการทดลองงาน และได้รับอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่ เพื่อซื้อของใช้จำเป็นเดือนละ 1 ครั้ง

“ผมอยู่ครบกำหนด เขาอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่ จึงลักลอบแอบนำโทรศัพท์ออกมาโทรหาแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ แม่จึงติดต่อไปที่เพจสายไหมต้องรอด จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ของเพจสายไหมฯ มารับตัวกลับ”

นายสุรศักดิ์ ระบุว่า เคยมีครั้งหนึ่งมีคนไทยกู้เงินผ่านแอพของแก๊งคอลเซนเตอร์ แต่คนจีนที่เป็น “บิ๊กบอส” คุมอยู่ บอกว่าให้ผู้ชายคนนี้โอนเงินมาก่อนจึงจะให้กู้เงินตามจำนวนที่ต้องการ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินประกันมาให้ แต่ถูกหลอก จึงวีดีโอคอลกลับมาถามแก๊งนี้ พร้อมทั้งขอเงินคืน แต่ถูกหัวหน้าแก๊งด่าว่าโง่ พร้อมหัวเราะใส่ ชายคนนั้นจึงเอาปืนยิงศีรษะผ่านวีดีโอคอล สร้างความสะเทือนใจกับคนที่ทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มาก หลังจากเสร็จคดี ตนจะไม่ไปกัมพูชาอีกแล้ว และจะไปบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ชายคนนี้ด้วย

ส่วนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ทางเพจต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยเหลือผู้ที่เหลือ ซึ่งเพจหางานในปอยเปยยังเปิดอยู่ กลัวว่าจะมีคนหลงไปเป็นเหยื่ออีก หลังจากนี้นายสุรศักดิ์ จะไปร้อง บก.ปคม. และจะนำเข้าสู่กระบวนคุ้มครองพยาน เนื่องจากถูกข่มขู่หลังออกมาแล้ว

ด้านว่าที่ร้อยตรีธนกฤต กล่าวว่า เหยื่อถูกหลอกลวงเพราะหลงเชื่อว่าจะได้ค่าตอบแทนถึงเดือนละ 4 หมื่นบาท ซึ่งเป็นการข้ามไปทำงานแบบผิดกฎหมายด้วยเพราะไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ก็ผ่านขั้นตอนทั้งหมดตามเส้นทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าชาวไทยเป็นคนติดต่อก่อนส่งให้แก๊งค้ามนุษย์มาเฟียชาวจีนที่ประเทศกัมพูชา และถูกพาไปกักตัวไว้ในอาคารมีรั้วไฟฟ้าป้องกันมิดชิด หากใครไม่ทำจะถูกซ้อมทรมานจนถึงแก่ความตาย

“คดีดังกล่าวเป็นคดีที่เริ่มต้นจากไทยต่อเนื่องไปยังต่างประเทศ และยังมีคนที่หลงเชื่อถูกหลอกอีก กว่า 100 คน จากการสอบถามพบว่ามีเงินได้จากการหลอกลวงนี้ไหลเข้าบริษัทดังกล่าววันละ 2-3 ล้านบาท โดยมีนายหน้าและตัวบงการเป็นชาวจีนอยู่เบื้องหลัง จึงประสานไปยังปคม. เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เพื่อดำเนินคดีกับแก๊งค้ามนุษย์ ส่วนกระทรวงยุติธรรมจะทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป”ว่าที่ร้อยตรีธนกฤติ กล่าว

-005

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • แก๊งคอลฯเหิม!!! ลวงแม่\'อัยการดาว\'โอนเงินกว่า 7.6 แสน แก๊งคอลฯเหิม!!! ลวงแม่'อัยการดาว'โอนเงินกว่า 7.6 แสน
  • ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์ ‘ภาค 1’ลุยยึดซิมบ็อกซ์ โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอยจนท.ไฟฟ้า ตุ๋นคืนค่ามิเตอร์
  • เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา\'เตือนภัยออนไลน์\'เพื่อประชาชนและสังคม เชิญชวนผู้สนใจ! ร่วมเสวนา'เตือนภัยออนไลน์'เพื่อประชาชนและสังคม
  • เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เชือด‘ไทยเทา’! ฟันข้อหาหนัก 119 คนขายชาติ ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • บุกคอนโดฯจีนเทา ยึด‘ซิมบ็อกซ์’เอี่ยวแก๊งคอลฯ หลอกเหยื่อข้ามจังหวัด บุกคอนโดฯจีนเทา ยึด‘ซิมบ็อกซ์’เอี่ยวแก๊งคอลฯ หลอกเหยื่อข้ามจังหวัด
  • สาวโร่เข้าแจ้งความ! หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสูญกว่า6แสนบาท สาวโร่เข้าแจ้งความ! หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินสูญกว่า6แสนบาท
  •  

Breaking News

'ใหม่ - ดาวิกา โฮร์เน่'Gucci Brand Ambassador จากประเทศไทยเข้าร่วมชมแฟชั่นโชว์ Gucci Cruise 2026

นายกฯสั่งปลดล็อคส่งออก‘ข้าวไทย’ช่วย‘คนตัวเล็ก’ส่งออกด้วยตนเองได้

'เบสท์ ชนิดภา'เปิดโปงกลลวงมิจฉาชีพ ปั่นหัวหลอกโอนเงิน 1.2 ล้าน บูลลี่สวยแต่ไม่ฉลาด

รัฐบาล‘จุดพลุ 12 แคมเปญ’ท่องเที่ยวฤดูฝน ตั้งเป้าปีนี้รายได้ 1.17 ล้านล้านบาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved