พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เวียงหนองหล่ม จ.เชียงราย เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้สั่งการและมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการพัฒนาเวียงหนองหล่มให้สามารถเก็บกักน้ำได้เต็มศักยภาพในฤดูฝนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)พิจารณาเร่งจัดทำและดำเนินการศึกษาแผนหลักพัฒนาอนุรักษ์และฟื้นฟูเวียงหนองหล่มให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงสั่งการให้กรมชลประทาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งประสานขออนุญาตการใช้พื้นที่ของโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ตาช้าง อ่างเก็บน้ำฯแม่คำ และอ่างเก็บน้ำแม่แสลบเพื่อแก้ไขปัญหาด้านแหล่งน้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงราย อีกด้วย
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าการพัฒนาเวียงหนองหล่มว่า ในด้านการบริหารจัดการน้ำมีโครงการอยู่ที่ระหว่างดำเนินการ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำหนองมโนราห์ เมื่อแล้วเสร็จสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ไม่น้อยกว่า 400,000 ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่กว่า 5,400 ครัวเรือน มีน้ำใช้เพื่ออุปโภค-บริโภค และพื้นที่การเกษตรอีก 500 ไร่ อย่างพอเพียงและโครงการอนุรักษ์และพัฒนาศักยภาพแหล่งมรดกในพื้นที่เวียงหนองหล่ม
นอกจากนี้ยังมีแผนงานในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำเวียงหนองหล่มดำเนินการโดยกรมชลประทาน และมีแผนงานที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2566 ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอีก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำเวียงหนองหล่ม โครงการขุดลอกแม่น้ำลัว โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูเวียงหนองหล่มพร้อมระบบกระจายน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์และโครงการจัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี