ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำให้แก่ภาคประชาชนใน 3 ภาค ได้แก่ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคพาณิชยกรรม ว่าปัจจุบันมีองค์กรผู้ใช้น้ำยื่นคำขอจดทะเบียนทั้งสิ้น 3,271 องค์กร พิจารณาอนุมัติแล้ว 3,238 องค์กร ส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตรกรรม สำหรับกรรมการลุ่มน้ำทั้ง 22 ลุ่มน้ำ อยู่ระหว่างแต่งตั้ง ซึ่งคณะกรรมการฯ จะไปกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดเก็บค่าน้ำ ซึ่งแตกต่างกันตามประเภทและพื้นที่ โดยความเป็นมาของกรรมการประจำลุ่มน้ำ เกิดขึ้นตามพ.ร.บ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 ให้ทั้งหมดได้มีส่วนร่วมและดำเนินการพร้อมกันทั้งประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับ 22 ลุ่มน้ำภายใต้การบริหารจัดการต้องร่วมกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรผู้ใช้น้ำของคณะกรรมการลุ่มน้ำที่จัดตั้งขึ้น ได้แก่ 1.ลุ่มน้ำสาละวิน 2.ลุ่มน้ำโขงเหนือ 3.ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ 4.ลุ่มน้ำชี 5.ลุ่มน้ำมูล 6.ลุ่มน้ำปิง 7.ลุ่มน้ำยม 8.ลุ่มน้ำวัง 9.ลุ่มน้ำน่าน 10.ลุ่มน้ำเจ้าพระยา 11.ลุ่มน้ำสะแกกรัง 12.ลุ่มน้ำป่าสัก 13.ลุ่มน้ำท่าจีน 14.ลุ่มน้ำแม่กลอง 15.ลุ่มน้ำบางปะกง 16.ลุ่มน้ำโตนเลสาบ 17.ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก 18.ลุ่มน้ำเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ 19.ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบน 20.ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 21.ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง และ 22.ลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันตก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี