เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้เดินทางมาเพื่อให้การในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนในคดี"แตงโม นิดา"ตกเรือเสียชีวิต
โดยนายษิทรา ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาให้การในฐานะพยาน ก็จะมี 2 เรื่องใหญ่ๆ คือเรื่องวันที่ ปอ กับ เบิร์ต ไปพบกับตน และเรื่องที่ 2 คือเรื่องที่เมื่อวาน( 3 มี.ค.) ได้มีการแจ้งเบาะแสไปต้องการให้ตำรวจทำเพิ่มเติม คืออยากให้ตำรวจทดลองเกี่ยวกับเรื่องใบพัด ที่ตนได้เปิดเรื่องนี้ไว้ โดยอยากจะให้ทดลองในน้ำจริงๆ แล้วดูลอยตัด โดยอาจจะใช้เนื้อหมูแทน ต้องดูว่าตำรวจจะทดลองหรือไม่
"นายปอ และโรเบิร์ต มาปรึกษาผมเองที่ร้านอาหารหลังวันเกิดเหตุ ส่วน กระติก ตามมาทีหลัง ได้เจอกันไม่นาน โดย ปอ-โรเบิร์ต รู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และผู้อยู่ในเหตุการณ์มีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว โดยผมเจอปอกับเบิร์ตไม่ถึง 15 นาที ส่วนใหญ่เป็นการเล่าเหตุการณ์และปรึกษาเพื่อเตรียมตัว ส่วนกระติกแค่ทักทายกัน ผมพูดมาตลอดในเรื่องที่เขาเล่าให้ผมฟัง แล้วก็ไม่มีการขอให้ผมเป็นทนาย ทั้งนี้กุญแจสำคัญของคดีนี้อยู่ที่ “แซน” ซึ่งเป็นคนบอกว่า แตงโม เดินมาปัสสาวะที่ท้ายเรือ ส่วนประเด็นการเจอเส้นผมที่ใบพัดเรือ ยังไม่มีใครยืนยันข้อเท็จจริงส่วนนี้ได้"ทนายษิทรา กล่าว
ส่วนกรณีที่คุณแม่ของแตงโมพูดเรื่องเงิน 30 ล้านบาทนั้น ตนได้ดูแล้ว ก็ค่อนข้างจะตกใจไม่รู้จะพูดยังไร คือตนก็มีลูก หากเป็นลูกผม ไม่สามารถประเมินค่าลูกได้อยู่แล้ว ไม่รู้จะตอบยังไงกับแม่ของน้องแตงโม
"ก็ขอให้แม่ของน้องแตงโมก็ขอให้เฮงๆปังๆ"แล้วกันครับ คดีนี้เป็นอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความได้อยู่แล้ว แต่น้ำหนักเวลาขึ้นศาล ถ้าผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้ว ศาลก็อาจจะลงโทษสถานเบาก็อาจจะรอลงอาญา คือทุกคดีมันจะเป็นแพลตฟอร์มแบบนี้คือก็จ่ายเงิน ยินยอมรับมาแล้วก็ขอโทษขอโพย คุณแม่เดี๋ยวก็คงไปแถลงศาลให้ว่าไม่ติดใจเอาความอีก ถ้าแบบนี้ศาลท่านก็อาจจะเมตตาลงโทษสถานเบา หรือรอลงอาญาให้ได้"
นายษิทรา กล่าวอีกว่า ส่วนที่"โบ TK "ให้สัมภาษณ์ฟังได้ว่ากระติกพูดไม่จริง คือโบเขาไม่ใช่ประจักษ์พยานโดยตรง แต่เป็นพยานแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับเหตุการณ์ คือหลังจากที่เขาลงเรือกัน และได้มีการโทรคุยกัน เกิดความน่าเชื่อว่ากระติกที่เล่าให้โบฟังจะเป็นความจริง หรือถ้าหากกระติกมาให้การไปแล้ว หรือไปให้สัมภาษณ์แล้วไม่ตรงกับความจริงตามที่โบพูด อาจจะโดนข้อหาให้การเท็จได้ ต้องดูว่าสิ่งที่ให้การเป็นสาระสำคัญในคดีหรือไม่ ถ้าเป็นสาระสำคัญก็จะโดนดำเนินคดีได้ แต่เข้าใจว่ากระติกมาให้การในฐานะพยานเท่านั้น ต้องบอกในที่นี้เลยว่า ผู้ต้องหาให้การยังไงก็ได้ไม่มีความผิดฐานให้การเท็จ แต่พยานถ้าให้การแล้วพิสูจน์ได้ว่าให้การเท็จก็จะถูกดำเนินคดีได้
สำหรับเรื่องเงินประกันชีวิต มันเป็นความประสงค์ของแตงโมที่จะให้ลูกกระติก ตั้งแต่ตอนทำแล้วว่าหากเป็นอะไรไปจะยกเงินก้อนนี้ให้ลูกของกระติก คนที่จะเปลี่ยนแปลงได้คือแตงโม และต้องก่อนที่ลูกของกระติกจะมารับหรือเอาสิทธินี้ด้วย เพราะฉะนั้นแม่จะไม่สามารถไปยกเลิกได้ การที่จะเอาเงินของผู้เยาว์มาต้องขอคำสั่งศาล ซึ่งทนายหลายคนให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าไม่สามารถทำได้
"ผมอยากให้พี่ๆสื่อมวลชน และประชาชนสนใจติดตามข่าวนี้ต่อไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นแรงกดดันหนึ่งที่ให้ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา สุดท้ายอยากฝากถึงคุณแม่ประโยคเดิม คือขอให้เฮงๆปังๆ แล้วก็มีความสุขมากๆ "นายษิทรา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนนายษิทรา ได้กล่าวว่า "แล้วผมต้องขออนุญาตใครไหมต้องขออนุญาตคุณแม่ไหม และกล่าวว่า ขออนุญาตคุณแม่ครับวันนี้ขอเสือกเรื่องนี้หน่อย ขอเป็นพยานหน่อยนะครับ"
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี