เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด (บก.ทท.) ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) จัดตั้งศูนย์ประสานงานสายด่วน ศปม.สนับสนุน สปสช.1330 เพื่อรับข้อมูลจากประชาชนที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และบันทึกลงในระบบของ สปสช.ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศบค.) ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
โดย ศปม.ได้จัดกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่สายด่วน 1330 จำนวน 200 คู่สาย ประกอบด้วย กองบัญชาการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (บก.ศปม.) จำนวน 40 คู่สาย , ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพบก (ศปม.ทบ.) จำนวน 80 คู่สาย , ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพเรือ (ศปม.ทร.) จำนวน 40 คู่สาย และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงกองทัพอากาศ (ศปม.ทอ.) จำนวน 40 คู่สาย
ทั้งนี้ ศปม.ได้พิจารณาคุณสมบัติของกำลังพลที่เข้ามาปฏิบัติงานในครั้งนี้ โดยคำนึงถึงความมีจิตสาธารณะ มีทัศนคติในการแก้ไขปัญหาเชิงบวก ตลอดจนเป็นผู้ที่มีความตระหนักรู้ และมุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชน เพื่ออำนวยการความสะดวกและให้บริการกับประชาชนที่ติดเชื้อได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี