วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ศูนย์จีโนมเตือน  รับมือโควิด‘โอมิครอนJN.1’  ขึ้นเป็นสายพันธุ์หลักของไทย

ศูนย์จีโนมเตือน รับมือโควิด‘โอมิครอนJN.1’ ขึ้นเป็นสายพันธุ์หลักของไทย

วันอังคาร ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : โควิด โอมิครอนJN.1
  •  

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ แนะเตรียมรับมือโควิด โอมิครอน JN.1 ที่กลายพันธุ์เพิ่มเป็น 2 ตำแหน่ง คาดเข้ามาระบาดแทนที่ EG.5.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของไทยขณะนี้ ด้าน“หมอธีระวัฒน์”ระบุผลกระทบจากการติดเชื้อโควิดและการฉีดวัคซีนในระยะยาว

เมื่อวันที่ 15 มกราคม ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กCenter for Medical Genomics ให้เตรียมพร้อมกับเชื้อโควิด-19 โอมิครอน JN.1 ที่คาดว่าจะระบาดเข้ามาแทนที่ EG.5.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทยในขณะนี้ ระบุว่า เตรียมพร้อมเผชิญกับโอมิครอน JN.1 ที่กลายพันธุ์บริเวณหนามเพิ่มเติมจาก 1 ตำแหน่ง กลายเป็น 2 ตำแหน่ง ในรูปแบบ “SLip (L455S+F456L)”


ทั้งนี้ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากข้อมูลการถอดรหัสพันธุกรรมโควิด-19 ทั้งจีโนมที่แชร์บนฐานข้อมูลโควิด-19 โลก “จีเสด (GISAID)” โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และเครือข่ายสถาบันการแพทย์ต่างๆพบว่า การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์ EG.5.1* ประมาณ 244 ราย และ JN* ประมาณ 15 ราย คาดว่า JN จะระบาดเข้ามาแทนที่ EG.5.1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักของไทยขณะนี้

ศูนย์จีโนมฯระบุด้วยว่า โอมิครอนในสายของ EG.5.1 กลายพันธุ์บริเวณหนาม 2 ตำแหน่งติดกันคือ “L455F” และ “F456L” มักเรียกการกลายพันธุ์แบบนี้ว่า “FLip” ส่งผลต่อความสามารถของไวรัสในการจับกับตัวรับบนผิวเซลล์ได้ดีขึ้น พร้อมหลบเลี่ยงการเข้าจับและทำลายจากแอนติบอดีที่ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จากการรับการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อตามธรรมชาติ

สำหรับการกลายพันธุ์บริเวณหนามของ L455F หมายถึง มีการแทนที่กรดอะมิโนลิวซีน (L) ด้วยฟีนิลอะลานีน (F) ที่ตำแหน่ง 455 ขณะที่การกลายพันธุ์ของ F456L เกี่ยวข้องกับการแทนที่ของฟีนิลอะลานีน (F) ด้วยลิวซีน (L) ที่ตำแหน่ง 456

โอมิครอนในสายของ JN* เดิมกลายพันธุ์บริเวณหนาม เพียงตำแหน่งเดียวคือ L455S แต่ก็ส่งผลให้ระบาดไปทั่วโลกและเข้ามาแทนที่ EG.5.1 ซึ่งเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานของ XBB ในสหรัฐอเมริกา JN.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลัก ร้อยละ 61.6 ของสายพันธุ์ทั้งหมดที่ระบาด ข้อมูลจนถึงวันที่ 6 มกราคม 2567 จากนั้นในเดือนมกราคม 2567 เช่นเดียวกันพบ JN (JN.1, JN.1.1, JN.1.1.1) กลายพันธุ์เพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่งรวมเป็น 2 ตำแหน่งคือ L455S และ F456L พบผู้ติดเชื้อรายแรกในฝรั่งเศส ขณะนี้พบแล้วทั่วโลก 41 ราย เรียกการกลายพันธุ์แบบนี้ว่า “SLip” ยังไม่แน่ชัดว่าสายพันธุ์ JN ที่พบการกลายพันธุ์แบบ SLip mutation จะส่งผลให้เกิดระบาดรวดเร็วและเจ็บป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้นไปจาก JN.1 สายพันธุ์เดิมที่ส่วนหนามมีการกลายพันธุ์เพียงตำแหน่งเดียว (L455S) หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ศูนย์จีโนมฯร่วมมือกับห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา โรงพยาบาล (รพ.) รามาธิบดีเฝ้าติดตามสายพันธุ์ JN ที่พบการกลายพันธุ์แบบ SLip mutation ในบรรดาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย

ด้านศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “โควิดและวัคซีนผลกระทบแบบยาว”ระบุ โควิดมีแบบสั้นคือ ติดเชื้อแบบไม่มีอาการแพร่ไปให้คนอื่นเสร็จแล้วเชื้อก็หายไปจากตัวหรือติดเชื้อและเกิดอาการเบา กลาง หนักถึงเสียชีวิต หรือแบบต่อเป็นซีรีส์สั้น คือหายจากอาการทางปอด และอวัยวะอื่น ตามต่อด้วยเส้นประสาทอักเสบแขนขาอ่อนแรงอัมพาตหายใจไม่ได้หรือมีสมองอักเสบ ซีรีส์สั้นแบบนี้ อยู่ในระยะเวลาสามเดือน ไม่จำกัดอยู่แต่อาการครั้งแรกต้องหนักมากเสมอไป แม้แต่กลุ่มอาการน้อย ซีรีส์ยาวก็มีความผิดปกติยาวออกไปอีก และตั้งชื่อว่าเป็นหนังยาวของโควิด หรือ ลองโควิด (long Covid)

ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าวต่อว่า รูปแบบลักษณะดังกล่าวนี้ทับซ้อนกับปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Myalgic Encephalomyelitis (ME)/Chronic fatigue syndrome (CFS) โดยลักษณะประกอบไปด้วยอาการปวดกล้ามเนื้อที่เกี่ยวโยงกับกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง รวมทั้งมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ มีอาการเหนื่อยล้ามหาศาล ทำงานไม่ได้ขาดสมาธิ มีความผิดปกติทางระบบประสาทอัตโนมัติและไม่สามารถออกกำลังได้เลย

ส่วนโควิดแบบยาว อาจมีได้สูงถึง 30-50% ของผู้ที่หายจากโควิดฉบับสั้นไปแล้ว และอาการที่เกิดขึ้นมีได้เป็น 100 อย่างและครอบคลุมแทบทุกอวัยวะของร่างกาย โดยมีตัวร่วมโดยเฉพาะความแปรปรวนทางสมอง จิตและอารมณ์ ทั้งนี้ โควิดเก่งกว่ารุ่นแรกตั้งแต่ปี 1934 เพราะกระทบในคนมากกว่า อาการดูเหมือนจะรุนแรงมากกว่าที่เคยปรากฏในรุ่นแรก

ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าวด้วยว่า จากหลักฐานของ ME/CFS ที่ได้จากรุ่นแรก ซึ่งอาจนำมาใช้อธิบายในโควิด เป็นไปได้ว่าการอักเสบที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ เกิดขึ้นนอกสมองและระบบประสาทแต่สมองรับรู้โดยตอบโต้กับโมเลกุล ชิ้นส่วนเล็กของอนุภาคการอักเสบเหล่านี้ในเลือด และอาจเป็นไปได้ที่มีการส่งผ่านโมเลกุลเหล่านี้ผ่านผนังเส้นเลือดเข้าไปในสมอง ทั้งจากการนำพาเข้าไปหรือซึมผ่านเข้าสมองโดยตรงในบริเวณที่ผนังกั้นไม่แข็งแรง นอกจากนั้น โมเลกุลของการอักเสบเหล่านี้ยังพบในเส้นประสาทเวกัส หรือเส้นประสาทสมองเบอร์ 10 ที่ทอดยาวลงมายังลำไส้ และส่งผ่านการอักเสบเหล่านี้ขึ้นไปจนถึงก้านสมองในวงจรของ NTS (nucleus tractussolitarius) ที่ควบคุมการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติรวมทั้งเส้นเลือดและหัวใจ น่าจะมีผลตามติดต่อเนื่องไปถึงกระบวนการควบคุมการทำงานของฮอร์โมน ที่ควบคุมจากสมองตั้งแต่ในส่วนของ ไฮโปธาลามัส (hypothalamus) ต่อมใต้สมอง (pituitary) และต่อเนื่องมาถึงระบบควบคุมฮอร์โมนในร่างกายถึงต่อมหมวกไต

“ปรากฏการณ์โควิดฉบับยาวจะกลายเป็นภาระสำคัญของระบบสาธารณสุขของทุกประเทศที่มีการระบาดของโควิด เนื่องจากคนที่ถูกกระทบจะมีได้ทุกอายุ ไม่จำกัดเพศ และเกิดจากการติดเชื้อโควิดแบบรุนแรงและไม่รุนแรง ด้วยอาการที่เกิดขึ้นจะบั่นทอนคุณภาพชีวิต ประสิทธิภาพการทำงานกระบวนการความคิดแม้กระทั่งสมาธิ สติปัญญา ความจำถดถอย และรุนแรงถึงขนาดที่ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ทุกแขนง รวมถึงจิตแพทย์ เพราะรู้สึกหดหู่ ปฏิเสธสิ่งรอบข้างจนกลายเป็นก้าวร้าวหรือมีปัญหาทางสังคมแบบในปรากฏการณ์หลังมีภาวะเครียดอย่างรุนแรง ยิ่งกว่านั้นยังมีปรากฏการณ์ผลกระทบของวัคซีนโควิด ซึ่งที่ผ่านมาหลังฉีดไปแล้วเกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิตรูปแบบเช่นเดียวกับโควิดแทบทุกประการ ในแบบซีรี่ย์สั้นหรือแบบยาวทอดเวลาเป็นปี ต้องเตรียมตัวไปพร้อมกัน”ศ.นพ.ธีระวัฒน์ระบุ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'หมอธีระ\'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย 'หมอธีระ'เผยแค่อาทิตย์เดียว ป่วยโควิดเข้า รพ.กว่า 8,446 ราย
  • กรมวิทยาศาสตร์ฯเผยสายพันธุ์โควิด ที่พบมากสุดในไทย ยันไม่มี\'เดลตาครอน\'ระบาด กรมวิทยาศาสตร์ฯเผยสายพันธุ์โควิด ที่พบมากสุดในไทย ยันไม่มี'เดลตาครอน'ระบาด
  • ‘กสม.’แนะรัฐออกแนวทางเยียวยาสาธารณภัยอย่างทั่วถึง ยกเคสโควิดกลุ่ม‘พนักงานบริการ’ตกหล่น ‘กสม.’แนะรัฐออกแนวทางเยียวยาสาธารณภัยอย่างทั่วถึง ยกเคสโควิดกลุ่ม‘พนักงานบริการ’ตกหล่น
  • ‘หมอยง’เลคเชอร์‘โควิด’เปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่‘ไวรัส’ยังอยู่ต่อไป ‘หมอยง’เลคเชอร์‘โควิด’เปลี่ยนตามกาลเวลา ปีนี้ยุติแล้ว แต่‘ไวรัส’ยังอยู่ต่อไป
  • ย้อนดู 5 ปี‘โควิด’! หมอยงหวนระลึก 2 ปีแรกของการระบาด ย้อนดู 5 ปี‘โควิด’! หมอยงหวนระลึก 2 ปีแรกของการระบาด
  • ‘โควิด’กลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ชี้อย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้ ‘โควิด’กลับมาระบาดใหม่ ‘หมอมนูญ’ชี้อย่าตื่นตระหนก รักษาตามอาการหายได้
  •  

Breaking News

'สรวงศ์'ขออย่าโยงการเมือง กับการลงโทษ 3 หมอปม 'ทักษิณ' ย้ำไม่เกี่ยว'รัฐบาลอิ๊งค์'

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ศรีสะเกษดัน 'ส้มโอบ้านตาด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน จัดงานใหญ่ 14-16 พ.ค.

ทั่วโลกจับตา! 'สหรัฐฯ'วางแผนเจรจาการค้า'จีน'สัปดาห์นี้ ลั่นกำแพงภาษีไม่เพิ่มกว่านี้แล้ว

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved