นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวภายหลังประชุมหารือแนวทางสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสินค้าเกษตร ร่วมกับนายหวาง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ว่าต้องขอบคุณอัครราชทูตฯ ซึ่งมี 3 เรื่อง ที่สภาเกษตรกรฯต้องดำเนินการ คือเรื่องบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและจีน ซึ่งจะขอนัดหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เพื่อเร่งรัดให้เกิดบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันโดยเร็ว การพูดคุยกับเกษตรกรเพื่อให้ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เหมาะสมสำหรับการส่งออกและการประสานความร่วมมือระหว่างเกษตรกรไทยและจีน
ขณะที่ นายหวาง ลี่ผิง กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและจีนว่ามีความร่วมมือกันในระดับรัฐบาล และระดับองค์กร ซึ่งในปี 2564 การค้าขายสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับจีน มีมูลค่า 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปจีน มีมูลค่าถึง 12,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ตลาดจีนมีความต้องการสินค้าเกษตรจากประเทศไทยอย่างมาก ในปี 2564 การส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปจีน เติบโตถึง 52% แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสินค้าเกษตรไทย หากเพิ่มเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักก็จะทำให้สินค้าเกษตรของไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน
นายหวาง ลี่ผิง กล่าวถึงแนวทางเพื่อให้เกษตรกรไทยได้ผลิตผลผลิต ผลิตภัณฑ์ ได้ตรงตามความต้องการตลาดของประเทศจีน ได้แก่ 1.ทั้งสองฝ่ายควรดำเนินความร่วมมือกันตลอดกระบวนการผลิต เริ่มตั้งแต่การปลูก แปรรูป บรรจุหีบห่อ และจัดจำหน่าย 2.สภาเกษตรกรฯ ควรเข้ามามีบทบาทสำคัญด้านการประสานความร่วมมือให้กับเกษตรกรและผู้ส่งออกของไทยเพื่อจัดแสดงสินค้าเกษตรไทยในเมืองใหญ่ๆ ของจีน และ 3.การจับมือกับบริษัทจากจีน ประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าเกษตรไทยด้วยระบบออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี