“บอร์ด ก.ค.ศ.” เห็นชอบปรับเกณฑ์วิธีการบริหารบุคลากร ครูโรงเรียนคุณภาพ สร้างแรงจูงใจเชื่อมั่น
วันที่ 24 มีนาคม 2565 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 3/2565 ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับโรงเรียนพัฒนาคุณภาพ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่ง สพฐ.ได้ขอให้ ก.ค.ศ. พิจารณาวิธีการและเงื่อนไขการบริหารงานบุคคลสำหรับโรงเรียนคุณภาพ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะพัฒนาโรงเรียนคุณภาพให้เป็นโรงเรียนต้นแบบในการแก้ปัญหาด้านการศึกษาและความปลอดภัยของโรงเรียน รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำในโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในสังคมเมืองและชนบทให้กับนักเรียน สร้างความพร้อมให้กับครูและผู้บริหารโรงเรียนในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ตามบริบทของโรงเรียนและพัฒนาผู้เรียนให้เป็นพลเมืองโลกที่มีคุณภาพ ก.ค.ศ. จึงพิจารณาให้จัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการสำหรับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับโรงเรียนพัฒนาคุณภาพ สังกัด สพฐ.
สำหรับ “โรงเรียนคุณภาพ” หมายความว่า โรงเรียนระดับประถมศึกษาหรือโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่เป็นโรงเรียนหลักในการจัดการศึกษาร่วมกับโรงเรียนเครือข่ายเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตามประกาศของ สพฐ. สำหรับ “โรงเรียนเครือข่าย” หมายความว่า โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน มีการจัดการศึกษาร่วมกับโรงเรียนหลักและนักเรียนทุกชั้นเรียนได้ไปเรียนรวมกับโรงเรียนหลักด้วยแล้วและเมื่อนักเรียนในโรงเรียนเครือข่าย ไปเรียนกับโรงเรียนหลัก และ สพฐ. ประกาศ “โรงเรียนคุณภาพ” แล้วให้คำนวณอัตรากำลังใหม่ตามเกณฑ์อัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด กรณีคำนวณแล้วโรงเรียนคุณภาพมีอัตรากำลังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้บริหารอัตรากำลังข้าราชการครูฯ สายงานการสอนและสายงานบริหารสถานศึกษาของโรงเรียนเครือข่าย และบริหารอัตรากำลังโรงเรียนคุณภาพที่เกินเกณฑ์โดยให้ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน สายงานการสอน และสายงานบริหารสถานศึกษาในโรงเรียนเครือข่าย ไปกำหนดในโรงเรียนคุณภาพหรือโรงเรียนอื่นที่มีอัตรากาลังตำกว่าเกณฑ์
ทั้งนี้ ในกรณีที่ครูโรงเรียนเครือข่าย ประสงค์จะดำรงตำแหน่งในโรงเรียนคุณภาพ ซึ่งมีอัตรากำลังพอดีเกณฑ์หรือเกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้สามารถดำเนินการได้ โดยมีเงื่อนไขถ้าโรงเรียนคุณภาพมีอัตราว่างให้ตัดโอนไปกำหนดในโรงเรียนที่มีอัตรากาลังต่ำกว่าเกณฑ์ หรือ ให้ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน สายงานการสอนและสายงานบริหารสถานศึกษาในโรงเรียนคุณภาพที่เกินเกณฑ์ ไปกำหนดในโรงเรียนอื่นที่มีอัตรากำลังต่ำกว่าเกณฑ์ ให้ย้ายครู โรงเรียนเครือข่าย ไปแต่งตั้งในโรงเรียนคุณภาพ หรือโรงเรียนอื่นที่มีอัตรากำลังต่ำกว่าเกณฑ์ โดยกำหนดคุณสมบัติกรณีย้ายปกติ “ปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู โรงเรียนเครือข่าย โดยไม่นับระยะเวลา 24 เดือน”ให้ย้ายผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเครือข่าย หรือย้ายผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนหลักไปแต่งตั้งในโรงเรียนที่มีอัตรากำลังต่ำกว่าเกณฑ์ โดยกำหนดคุณสมบัติกรณีย้ายปกติ “ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา โรงเรียนเครือข่ายหรือโรงเรียนหลัก โดยไม่นับระยะเวลา 12 เดือน” และกำหนดขนาดสถานศึกษาที่จะนำมาพิจารณาย้าย โดยให้เทียบขนาดสถานศึกษาจากจำนวนนักเรียนโรงเรียนเครือข่ายรวมกับโรงเรียนหลัก
รมว.ศธ. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการปรับอัตรากำลังคน ตามนโยบายหลักของรัฐบาลในการทำโรงเรียนคุณภาพ เนื่องจากเราไม่สามารถทำโรงเรียนทั้ง 3 หมื่นกว่าโรงให้เป็นโรงเรียนคุณภาพได้ ดังนั้น โรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กต่ำกว่า 120 คน มีอยู่ประมาณ 1.5 หมื่นโรง ศธ.จึงทำให้มีโรงเรียนแม่ที่มีคุณภาพ แล้วให้โรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่โดยรอบมาใช้ทรัพยากรร่วมกันหรือควบรวมโรงเรียน และให้สามารถตัดโอนกำลังมารวมกันได้ โดยมี 3 ส่วน เช่น การนำเด็กมารวมกันและคิดอัตรากำลังโดยที่ไม่คำนึงถึงการเกินเกณฑ์หรือต่ำกว่าเกณฑ์ ก็สามารถรวมกันได้เลย ส่วนครูก็สามารถย้ายมาอยู่ด้วยกันหรือย้ายไปโรงเรียนอื่นได้ ส่วน ผอ.โรงเรียนที่มารวมกันแล้วก็สามารถย้ายไปโรงเรียนอื่นได้โดยใช้สิทธิ์ขนาดโรงเรียนใหม่ที่เกิดขึ้น
“ถือเป็นมาตรการจูงใจให้ครูมีความเชื่อมั่น เพราะโรงเรียนขนาดเล็กปกติหากมีการควบรวมจะใช้เวลา 2 ปีจึงจะขอย้ายไปที่อื่นได้ ส่วน ผอ.ที่เคยอยู่โรงเรียนเล็กก็สามารถย้ายไปเป็น ผอ.ในโรงเรียนที่มีเด็ก 200 คน ได้ หรืออยากจะอยู่โรงเรียนใหญ่ที่ไปควบรวมก็ได้ ซึ่งหลักเกณฑ์ใหม่นี้จะปลดล็อคให้หมด ส่วนหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้จะประกาศใช้ในวันพรุ่งนี้(25 มี.ค.)ได้เลย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เรื่องนี้มีความยั่งยืน ดิฉัน จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบทั้งเรื่องการใช้ทรัพยากรร่วมกัน การใช้กำลังคน และงบประมาณที่จะสนับสนุนด้วย” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี