วันที่ 26 มี.ค.65 รองศาสตราจารย์ โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีรับน้องโหด จนทำให้นายพัสยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการสอบสวนของคณะกรรมการปกครอง พบว่า มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 2 เข้าร่วม 67 คน โดยรุ่นพี่ปี 2 สั่งให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า
อีกทั้งยังสลับสับเปลี่ยนกันสั่งการให้ปี 1 หมอบ คลาน ใช้ศีรษะปักพื้น ชกต่อย และใช้เท้าถีบยันนักศึกษาปี 1 จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นความผิดตามระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษาและเป็นการฝ่าฝืนประกาศมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการงดจัดกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่และประชุมเชียร์ ประจำปีการศึกษา 2564 อาศัยอำนาจตามมาตรา 24 และมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2548 กอปรกับระเบียบว่าด้วยการควบคุมความประพฤติของนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พ.ศ. 2549 และประกาศมหาวิทยาลัย เรื่องงดกิจกรรมรับน้อง จึงออกคำสั่งมหาวิทยาลัยฯ เรื่องการลงโทษวินัยนักศึกษา ดังนี้
นักศึกษารุ่นพี่ ปวส.ปี 2 จำนวน 15 ราย ผู้ร่วมการฝ่าฝืน วางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยการใช้ไม้ฟาด ชกต่อย และใช้เท้าถีบยัน เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีความผิดตามระเบียบ มีโทษให้ออก ขณะเดียวกันยังสั่งให้ลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 อีก 10 ราย ฐานมีส่วนร่วมในการวางแผน สั่งการ ควบคุมการดำเนินกิจกรรมให้รุ่นน้องปี 1 ถอดเสื้อผ้า หมอบ คลาน และใช้ศีรษะปักพื้น เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ มีโทษผลการสอบของภาคการศึกษานั้นเป็น “โฆษะ” โดยให้บันทึกผลการศึกษาเป็น “W”
พร้อมทั้งลงโทษนักศึกษารุ่นพี่ปี 2 ที่เหลืออีก 5 ราย ฐานความผิดเป็นผู้ที่ทราบว่าจะมีการจัดกิจกรรม ตั้งแต่การวางแผน การนัดหมาย การเดินทาง ตลอดจนดำเนินกิจกรรม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งที่ทราบกิจกรรมดังกล่าวขัดต่อประกาศมหาวิทยาลัยฯ แต่กลับไม่ได้ห้ามปรามหรือแจ้งอาจารย์ หรือผู้เกี่ยวข้องทราบเพื่อเข้าระงับเหตุ เป็นการร่วมกันสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ
นอกจากนี้ ยังสั่งลงโทษนักศึกษา ปี 1 จำนวน 37 ราย ฐานความผิดมีส่วนร่วมในการสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมไม่พึงประสงค์ เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องอันเป็นการขัดต่อประกาศของมหาวิทยาลัย ให้ลงโทษตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน พร้อมแจ้งผู้ปกครองให้ทราบ ซึ่งนักศึกษาที่มีบทลงโทษ สามารถอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วันโดยคำสั่งลงโทษมีผลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.65
"บทลงโทษจากทางมหาวิทยาลัยฯ คนละส่วนกับโทษทางอาญา โดยบทลงโทษให้ออกนักศึกษารุ่นพี่ 15 คนทุกคนจะต้องมาเขียนใบลาออก และสามารถนำผลการเรียนของปี 1 ไปใช้ประโยชน์สมัครเข้าเรียนต่อได้ ถือเป็นโทษขั้นสูงใกล้เคียงกับไล่ออก แต่นักศึกษากลุ่มนี้ยังมีทางเดินทางการศึกษาในอนาคต แต่หากต้องมองไปถึงโทษทางคดีอาญาที่ตำรวจแจ้งข้อหารุ่นพี่กลุ่มนี้ 7 คน ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งทั้ง 7 คนรับสารภาพ มีการถูกเนื้อต้องตัวน้องเปรม จนถึงแก่ความตาย โทษในคดีอาญาอาจรุนแรงถึงขั้นขนาดตัดสินอนาคตของเด็กกลุ่มนี้" รองศาสตราจารย์ โฆษิต กล่าว
พร้อมกล่าวต่อว่า บทลงโทษที่คณะกรรมการปกครองพิจารณาแล้วนั้น จะเป็นมาตรฐานของมหาวิทยาลัยและเป็นกรณีศึกษาสำหรับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยฯได้รับความบอบช้ำจากเหตุการณ์นี้ ยอมรับสภาพกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะวางแนวทางแก้ไขให้ดีที่สุด เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในอนาคต ส่วนการช่วยเหลือครอบครัวน้องเปรม มีกลุ่มศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยฯ มอบเงินเยียวยา 4 แสนบาท และมหาวิทยาลัยได้ตั้งกองทุนเบื้องต้น 4 แสนบาท ช่วยเหลือน้องสาวของน้องเปรม ให้ได้รับทุนเรียนจนจบปริญญาตรี และช่วยเหลือแฟนสาวของน้องเปรม ให้เรียนจบปริญญาตรีเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี