สธ.ดาหน้ายันมียาฟาวิพิราเวียร์สตอกในคลัง 25 ล้านเม็ด ขณะที่องค์การเภสัชกรรมกระจายทั้งยาฟาวิพิราเวียร์-โมลนูพิราเวียร์ สู่หน่วยบริการแม่ข่ายอย่างต่อเนื่อง ส่วนแพกซ์โลวิดถึงไทยก่อนสงกรานต์แน่นอน ด้าน“อนุทิน” ยันไม่ปิดบังข้อมูล ไล่ “หมอชนบท”ให้ทำหน้าที่รักษาให้ดี
วันที่ 29 มี.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มแพทย์ชนบท ระบุยาฟาวิพิราเวียร์ ขาดแคลน ต้องมีการรายงานเรื่องนี้ให้ครม.รับทราบหรือไม่ว่า จะมีรายงานผ่านมาทางศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ที่มีการประชุมอยู่ทุกวัน โดยยาฟาวิฯมีทั้งผลิตในประเทศและนำเข้า และยังมีโมลนูพิราเวียร์ และแพคโลวิคเข้ามาเสริม
"ส่วนการรักษาโควิด-19 เวลานี้เป็นช่วงที่ก้าวผ่านจากเชื้อเดลตาและเชื้อที่รุนแรงมาแล้ว มาเป็นเชื้อที่ไม่มีความรุนแรง ซึ่งทางคณะแพทย์และกรรมการด้านวิชาการที่ดูแลเรื่องการรักษา ก็จะออกแบบรูปแบบของการจ่ายยาว่าจะเป็นอย่างไร หากยังใช้ฟาวิฯวันละกว่า 2 ล้านเม็ด ก็อาจจะไม่ถูกต้อง แพทย์จึงต้องมีการปรับการบริหารจัดการยา ย้ำว่าตรงนี้เป็นเรื่องทางการแพทย์ ถ้ายาขาดแพทย์ต้องรู้ก่อน และบอกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลทำการจัดซื้อจัดหา แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังบริหารจัดการได้อยู่"นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ภายในกลุ่มของหมอก็อาจยังไม่เข้าใจกัน นายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ใช่เกิดครั้งแรก แต่คนที่ทำงาน สั่งยา และอยู่ใกล้ชิดข้อมูลคือสำนักงานปลัดสาธารณสุข กรมควบคุมโรค องค์การเภสัชกรรม ส่วนกลุ่มอื่นที่ตั้งข้อสงสัย ก็ไม่ใช่หน้าที่ของปลัดประทรวงฯต้องไปชี้แจงชมรมแพทย์ชนบท เพราะถ้าแยกการทำงาน แต่ละคนก็คือลูกน้องของปลัดกระทรวง จะถามมาก็ได้ แต่ปลัดกระทรวงจะชี้แจงหรือไม่เป็นเรื่องของปลัด และที่จริงก็เป็นคนละหน้าที่กัน แพทย์มีหน้าที่รักษาคนไข้ให้ดี อย่าให้มีการเจ็บป่วยหนักและเสียชีวิต ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร ขออย่าทำความหวั่นไหวหรือหวาดวิตกให้เกิดกับประชาชน เพราะสถานการณ์อยู่ในการควบคุมได้ในระดับหนึ่ง และเราถือว่าเข้มกว่าประเทศอื่น เข้มกว่าประเทศที่เขาไม่กลัว เพราะต้องการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อประชาชน
เมื่อถามว่าจากกรณีดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนเกิดความสับสน นายอนุทิน กล่าวว่า ให้เชื่อข้อมูลของกระทรวงสธ. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด และเป็นจริง เพราะปลัดกระทรวงเป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการสาธารณสุข,ประธานโควิดแห่งชาติด้านสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมทุก 7 โมงเช้า ทราบข้อมูลทุกวัน ถ้าไม่เชื่อหัวหน้าแพทย์ของประเทศไทย แล้วไปกังวลในสิ่งที่ไม่ควรกังวล ย้ำว่าถ้ามีปัญหาจริงก็จะบอกว่าตอนนี้มีปัญหาแล้ว เหมือนกับที่เคยบอกให้ใส่หน้ากากอนสมัย ต้องล็อกดาวน์ หรือสถานการณ์ไม่ดี ยืนยันไม่มีปิดบังประชาชนอยู่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นสถาบันไม่ใช่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรี ของปลัด หรือของแพทย์คนไหน เราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอยู่แล้ว
ด้าน น.พ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขยังมียาฟาวิพิราเวียร์สำรองในคลัง 25 ล้านเม็ด โดยองค์การเภสัชกรรมจะนำเข้ามาเติมในสตอกตลอดเวลาทุกสัปดาห์อย่างน้อย 10-15 ล้านเม็ดต่อสัปดาห์ ซึ่งจะเพียงพอ เพราะขณะนี้ใช้ประมาณ 2 ล้านเม็ดต่อวัน ขณะที่ 1 สัปดาห์ใช้ 14-15 ล้านเม็ด และเดือนมีนาคมถึงปัจจุบันจ่ายยาไปแล้ว 72 ล้านเม็ด
นอกจากนี้ ยังมีระบบการจ่ายยาแบบ vmi มีการคีย์ข้อมูลคนไข้ที่ได้รับยากี่เม็ดเข้าไป เพื่อเช็คสตอกได้ว่าจะเหลือยาเท่าใด ให้ส่วนกลางเติมยาในสตอกให้มีใช้ประมาณ 10 วัน ยอมรับทุกเขตในทุกโรงพยาบาลรู้ว่าตัวยาเหลือในสตอกเท่าใด ไม่ให้เป็นศูนย์แน่นอน ภาพรวมในจังหวัดไม่ขาด แต่การมี “เจอ แจก จบ” ทำให้ยาถูกกระจายไปอยู่ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือโรงพยาบาลย่อย จึงอาจตึงตัว ขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบริหารจัดการยาโยกจากโรงพยาบาลหนึ่งไปใช้อีกโรงพยาบาลหนึ่งได้
รองปลัดสาธารณสุข ย้ำทุกคนไม่จำเป็นต้องใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาเป็นสารเคมียังมีความเสี่ยงต่อตับและไต ส่วนการฉีดวัคซีนเหมือนกับการสร้างภูมิคุ้มกันหรือมีโรงงานผลิตยาล่วงหน้าอยู่ในร่างกายแล้ว ทำให้ไม่มีอาการหรืออาการน้อย ขณะที่บางคนอาจผลิตภูมิคุ้มกันได้ไม่เพียงพอ จึงต้องให้ยาเข้าไปช่วย
ขณะที่ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า อภ.ผลิตทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่องตามที่กระทรวงสาธารณสุขแจ้งแผนความต้องการให้องค์การเภสัชกรรมจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ 110 ล้านเม็ด เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 นั้น อภ.ได้จัดส่งแล้ว 80 ล้านเม็ด และกำลังทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่องจนครบ 110 ล้านเม็ดภายในเดือนเมษายน 2565 และช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งแผนความต้องการยาฟาวิพิราเวียร์, โมลนูพิราเวียร์ เพิ่มอีก 75 ล้านเม็ด คาดว่าสามารถส่งได้กลางเดือนเมษายน 2565 จำนวน 30 ล้านเม็ด และปลายเดือนเมษายน 2565 อีก20ล้านเม็ด และทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาแพกซ์โลวิดที่กรมการแพทย์และบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามในสัญญาการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด- 19 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงสูงอาการรุนแรง สามารถลดความเสี่ยงการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิตของผู้ใหญ่กลุ่มเสี่ยงลงได้ถึงร้อยละ 88
สำหรับยาแพกซ์โลวิด 50,000 คอร์สการรักษา ยืนยันจะมาถึงไทยก่อนสงกรานต์แน่นอน ตอนนี้เตรียมจัดแผนการกระจายยาที่จะมาเพียงครั้งเดียว และจะกระจายไปในเขตสุขภาพหรือหน่วยบริการใดนั้น ต้องมีคณะกรรมการมาหารือกัน
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี