อัยการคืนสำนวนตำรวจ

สอบสวนใหม่คดี‘แตงโม’

ปม‘กระติก’รับให้การเท็จ

เจ้าตัวโล่งใจที่ได้สารภาพ

“กระติก”โล่งใจหลังจากรับสารภาพให้การเท็จคดี“แตงโม”อ้าง 4 คนบนเรือไม่ได้ตำหนิ ยันความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ส่วนอัยการคืนสำนวน ส่งฟ้อง‘กระติก’ชี้เหตุถ้าพบข้อหาหนักจะส่งฟ้องซ้ำไม่ได้ ด้านพนักงานสอบสวน รับคืนสำนวน ก่อนคุมตัว’กระติก’ไปขออำนาจศาลผัดฟ้องฝากขังทันที

เมื่อวันที่ 5เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา)หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ดาราสาวชื่อดัง วัย 37 ปี พลัดตกเรือสปีดโบ๊ทจมแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิต พบศพในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ใกล้กับท่าเรือพิบูลสงคราม 1 จ.นนทบุรี ภายหลังลงเรือไปกับนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวและนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน สาวประเภทสองซึ่งอ้างว่าแตงโม เดินไปปัสสาวะท้ายเรือแล้วพลัดตก ท่ามกลางข้อสงสัยมากมาย ว่าหลังจาก น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วยนายสิระ เจนจาคะ ที่ปรึกษาทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามหมายเรียก และรับสารภาพว่าให้การเท็จในคดีแตงโม ก่อนที่จะมีการส่งตัวให้อัยการในวันเดียวกันนี้

ที่สำนักงานอัยการ จ.นนทบุรี น.ส.อิจศรินทร์พร้อมด้วยนายสิระ และนายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานอัยการ จ.นนทบุรี โดยนายสิระ กล่าวว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อยื่นประกันตัว น.ส.อิจศรินทร์ พร้อมกันนั้นได้ฝากถึง 4 คนบนเรือ ว่าควรพิจารณาให้รอบคอบเรื่องคำให้การ หากต้องการคำปรึกษาขอให้ติดต่อมาที่ตนได้ เพื่อให้ความจริงกระจ่าง

ด้าน น.ส.อิจศรินทร์กล่าวว่า เมื่อได้รับสารภาพแล้วรู้สึกโล่งใจ ต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลอะไรอีกแล้ว จะทำงานตามปกติ ส่วนที่ได้รับสารภาพในเรื่องใดยังไม่ขอเปิดเผย เพราะได้ให้การกับพนักงานสอบสวนและคำให้การอยู่ในสำนวนแล้ว สำหรับกรณีที่ตนรับสารภาพ ก็ได้พูดคุยกับกลุ่มเพื่อนทั้ง 4 คนแล้ว มีการสอบถามกันตามปกติ ทุกคนไม่ตำหนิที่ตนรับสารภาพเรื่องนี้ เพราะทุกคนรู้ความจริงอยู่แล้ว

น.ส.อิจศรินทร์กล่าวต่อว่า เหตุที่เพิ่งมารับสารภาพนั้นเพราะมีอะไรที่นึกได้ก็แจ้งกับพนักงานสอบสวนเรื่อยมาอยู่แล้ว ซึ่งจะนึกได้ช้าไปหรือไม่นั้นอยากให้ทุกคนมอง ลองเป็นตนดูแล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ทุกคนจะเข้าใจเอง ยืนยันเรื่องปัสสาวะท้ายเรือไม่เคยพูดเลย รวมถึงอีก 3 คนบนเรือก็ไม่เคยพูดเรื่องแตงโมปัสสาวะท้ายเรือ นอกจากนายวิศาพัช หรือแซนเพียงคนเดียว สำหรับความสัมพันธ์กับคนบนเรือนั้นยังเหมือนเดิม แต่จะไปกินข้าวหรือสังสรรค์กันอีกหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องในอนาคต

ต่อข้อถามว่าหลังจากนี้จะทำงานในวงการบันเทิงหรือไม่น.ส.อิจศรินทร์กล่าวว่า ไม่เคยทำงานในวงการบันเทิง ตนอยู่เบื้องหลังเหมือนนักข่าวทุกคน จากนี้ก็คงจะใช้ชีวิตตามปกติ

ขณะที่นายวิวัฒน์ ทนายความของ น.ส.อิจศรินทร์ ระบุว่า ขั้นตอนการพาผู้ต้องหามาส่งฟ้องอัยการตามคำรับสารภาพ เป็นไปตามกระบวนการ โดยหลังจากส่งพนักงานอัยการแล้วก็จะส่งฟ้องศาล โดย น.ส.อิจศรินทร์จะเปลี่ยนสถานะเป็นจำเลย และศาลจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในวันเดียวกันนี้ โดยข้อหานี้มีอัตราโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี นำสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็นสั่งฟ้อง น.ส.อิจศรินทร์ ผู้ต้องหาให้การเท็จในคดีแตงโม มายังสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี

อย่างไรก็ดี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกฯ และพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี ได้รับคดีบันทึกคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหาจาก สภ.เมืองนนทบุรี เป็นคดีระหว่าง พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รอง ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ผู้กล่าวหา กับ น.ส.อิจศรินทร์ ผู้ต้องหา ในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 19.00 น.ที่ สภ.เมืองนนทบุรี ซึ่งในชั้นสอบสวน น.ส.อิจศรินทร์ ให้การรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพส่งให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรีพิจารณา

ทั้งนี้ เมื่อได้รับบันทึกฟ้องวาจาพร้อมตัวผู้ต้องหาแล้ว พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรี ประกอบด้วย น.ส.สาวิตรี สัมฤทธิ์สุขโชค อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงนนทบุรี นายชัยวัฒน์ โล่วณิชเกียรติกุล อัยการอาวุโส นายวีรพล โมระกรานต์ อัยการอาวุโส พร้อมคณะอัยการ ได้ประชุมพิจารณาคดีแล้วมีความเห็นว่า แม้คดีนี้พนักงานสอบสวนมีอำนาจนำผู้ต้องหามายังพนักงานอัยการเพื่อฟ้องศาลโดยมิต้องสอบสวนและให้ฟ้องด้วยวาจา ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง 2499 มาตรา20 แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่สังคม สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนให้ความสนใจ เพราะเป็นการกล่าวหาผู้ต้องหาเพราะการให้การของผู้ต้องหากับพนักงานสอบสวน สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของน.ส.ภัทรธิดา แม้ผู้ต้องหาจะให้การรับสารภาพ แต่พนักงานอัยการจะไม่ยื่นฟ้องตามบันทึกคำให้การรับสารภาพของผู้ต้องหา โดยให้คืนตัวผู้ต้องหาพร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพให้พนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนจนเสร็จสิ้นกระบวนการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเสียก่อน และเมื่อทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงนนทบุรีจึงมีคำสั่งคืนตัว น.ส.อิจศรินทร์ พร้อมบันทึกคำให้การรับสารภาพให้กับพนักงานสอบสวน เมื่อพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและได้ส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดจะได้แถลงให้ทราบต่อไป

ด้านนายประยุทธ และนายอิทธิพล แถลงภายหลังทนายนำตัว น.ส.อิจศรินทร์ส่งให้อัยการฟ้องในข้อหาให้การเท็จ ว่าอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน การส่งฟ้อง น.ส.อิจศรินทร์ ในข้อหาให้การเท็จ อัยการไม่เห็นด้วยเนื่องจากหากภายหลังพบความผิด หรือข้อหาหนัก จะฟ้องซ้ำไม่ได้ จึงเห็นควรส่งสำนวนและ น.ส.อิจศรินทร์กลับให้พนักงานสอบสวนไปสอบให้สิ้นกระแสความ

จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี คุมตัว น.ส.อิจศรินทร์ไปยื่นคำร้องต่อศาลแขวงนนทบุรี เพื่อขอผัดฟ้องเป็นครั้งแรกในข้อหาแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 172โดยผู้ต้องหาไม่ค้าน ศาลจึงอนุญาตให้ผัดฟ้องผูต้องหามีกำหนด 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 5-10 เมษายน 2565

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การคุมตัว น.ส.อิจศรินทร์ มายังศาลแขวงนนทบุรี เป็นเพียงการผัดฟ้อง เนื่องจากผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนไปแล้ว ผู้ต้องหาจึงไม่ได้อยู่ในการควบคุมตัวของศาล ไม่ต้องยื่นประกันตัวต่อศาลใหม่ สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนสามารถผัดฟ้องผู้ต้องหาได้ไม่เกิน 5 ครั้งๆ ละ 6วัน หรือภายใน 30 วัน โดยหากยังไม่สามารถฟ้องผู้ต้องหาได้ จะต้องขออนุญาตอัยการสูงสุด ยื่นฟ้องผู้ต้องหาต่อไป

ทั้งนี้ ศาลแขวงนนทบุรีมีเขตอำนาจตลอดท้องที่ จ.นนทบุรีในคดีอาญาซึ่งกฎหมายกำหนดอัตราโทษอย่างสูงไว้ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีแพ่งที่เป็นคดีมีทุนทรัพย์ไม่เกิน 300,000 บาท คดีอาญาและคดีแพ่งนอกเหนือจากนี้ในเขต จ.นนทบุรีอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรี