เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตร.สภ.บ้านดุงไล่จับหลานเทวดาทำร้ายตาและยายได้แล้ว หลังไปหลบในกระท่อมนาวิ่งหนีไม่คิดชีวิต นำตัวไปบำบัดรักษา สารภาพทำร้ายตาจนฟังร่วงจริงและใช้มีดจี้บังคับยายให้ผูกคอตายหวังเงินฌาปนกิจศพไปซื้อยาบ้าเสพ ยายสุดดีใจกราบเจ้าหน้าที่ฯ อย่าเอาหลานกลับมาอีกไม่งั้นถูกฆ่าตายรอเผาได้เลย ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดฯ ให้กำลังใจตาและยายพร้อมหาทางช่วยเหลือและเยียวยาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายปกาศิต ภูพันนา หรือ "โอ๊ต" อายุ 23 ปี หลานเทวดาเสพยาบ้าจนหลอนทำร้ายนายมีชัย ภูพันนา และนางสงสาร ดอกบัว ซึ่งเป็นตาและยายจนตาฟันร่วงแถมหลานเทวดาคนนี้ใช้มีดจี้บังคับยายที่ขาซ้ายด้วนให้ผูกคอตายหวังได้เงินฌาปนกิจศพของยายไปซื้อยาบ้ามาเสพ เหตุเกิดที่บริเวณกระท่อมนาท้ายหมู่บ้านบ้านกล้วย หมู่ 3 ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จนตาและยายต้องหนีไปซ่อนตามห้องน้ำ ตู้เก็บจานชาม เพื่อหนีหลานเทวดาขอเงินรายนี้ และเป็นเรื่องราวที่หดหู่ใจอย่างยิ่ง

ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย.65) นายสามารถ หมั่นนอก นายอำเภอบ้านดุง ได้สั่งการให้นายจักรพันธ์ เชื้อพุทธ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจ สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี บุกเข้าจับกุมนายปกาศิต ภูพันนา หรือ "โอ๊ต" หลานเทวดาทำร้ายตาและยายได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านกล้วย ต.บ้านชัย แต่พอนายโอ๊ตเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหนีลงกลางทุ่งนาอย่างไม่คิดชีวิต แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวไว้ได้ 

จากการตรวจค้นยังพบเขียงและกัญชาจำนวนหนึ่งซึ่งนายโอ๊ต เพิ่งเสพใหม่ๆ โดยสารภาพว่าได้ทำร้ายต่อยตาจนฟันร่วงจริง ส่วนยายก็ใช้มีดจี้บังคับให้ผูกคอตายเพราะอยากได้เงินฌาปนกิจศพของยายไปซื้อยาบ้ามาเสพ

นายโอ๊ต บอกอีกว่า ได้ขอเงินตาและยายทุกวันเพื่อเอาไปซื้อยาเสพติด เมื่อขอไม่ได้ก็ทำร้าย ที่ทำร้ายตาและยายเพราะเวลาขอเงินแล้วไม่มีให้ ส่วนเรื่องใช้มีดจี้ให้ยายผูกคอตาย เพื่ออยากได้เงินฌาปนกิจศพ ยอมรับว่าได้ทำจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปให้หมอประเมินอาการก่อนจะส่งตัวไปบำบัดรักษาต่อไป

นายวีระพล รักษ์เสมอวงษ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งจากลูกเพจว่าให้ไปช่วยคุณยายถูกหลานบังคับให้ผูกคอตายหวังเอาเงินฌาปนกิจฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ได้นำคุณยายมาพักไว้ที่รีสอร์ทในตัว อ.บ้านดุง เพื่อหนีหลานเทวดารายนี้โดยคุณยายยังมีอาการหวาดผวา กลัวเจ้าหน้าที่จะปล่อยหลานออกมาอีก

นางสงสาร ดอกบัว เปิดเผยว่า ดีใจและโล่งอกที่เจ้าหน้าที่จับหลานไปบำบัดแต่ ตอนนี้ยังกลัวหลานอยู่หากเขาอยู่บ้านกับตนคงต้องตายแน่ๆ อยากจะกราบวิงวอนเจ้าหน้าที่จับไปนานๆ ขอให้อย่าได้กลับมาอีก ไม่งั้นตนถูกฆ่าตายแน่รอวันเผาได้ ส่วนที่ขาซ้ายด้วนก็เกิดจากหลานชายทำร้ายจนแผลติดเชื้อต้องตัดทิ้ง หากย้อนเวลาไปที่ถูกหลานลากตามพื้นดินและคลานหนีหลานหลายครั้ง คิดมาก็ยังกลัวอยู่เลย ไม่กล้ากลับไปบ้านอีก 

ยายสงสารบอกอีกว่า ทำไมชีวิตตนเองอาภัพแบบนี้เคยมีคนทักว่าให้ไปเปลี่ยนชื่อ "สงสาร" ไปเป็นชื่ออื่น เพราะเป็นชื่อที่ดูแล้วไม่เป็นมงคลจะมีแต่เรื่องทุกข์ร้อนใจให้สงสาร ตนก็คิดอยู่เหมือนกันชีวิตที่เป็นเช่นนี้หรือจะเป็นเพราะชื่อ สำหรับชื่อนี้ได้มาจากพ่อแม่ตั้งให้เพราะตนเป็นลูกบุญธรรม พ่อและแม่เลยตั้งให้ว่า "สงสาร" จนอายุป่านนี้ไม่เคยมีความสุขเลยทั้งชีวิตมีเรื่องเศร้าใจ ทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา อยู่อย่างยากจนข้นแค้นที่หนักสุดคือมีหลานชายทำร้ายร่างกายจะมาให้ผูกคอตายทั้งๆ ที่ตนเองยังไม่อยากตาย

ต่อมาเวลา 14.00 น.ดร.ชูชาติ ศิริปัญจนะ รอง ผอ.สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรรมจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาเยี่ยมคุณยายสงสาร สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้กำลังใจและจะได้ประสานให้ความช่วยเหลือครอบครัวเพื่อเยียวยาต่อไป 

จากนั้นนายวีระพล แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดทได้พาคุณยายสงสารขึ้นรถตู้ไปส่งที่กระท่อมนาที่บ้านกล้วย โดยคุณยายสงสารเดินไม่ได้เนื่องจากขาซ้ายด้วนต้องใช้มือพยุงตัวเองไปขึ้นรถเป็นภาพที่น่าหดหู่อย่างมาก พอถึงกระท่อมนา นายมีชัยสามีได้นำรถเข็นมารับแล้วพาไปที่กระท่อมนา โดยยายสงสารชี้ให้ผู้สื่อข่าวดูบริเวณที่หลานชายใช้มีดจี้บังคับให้ตนเองผูกคอตาย แต่รอดมาได้อย่างหวุดหวิด 

ส่วนนายมีชัย บอกว่า หลานชายเป็นลูกของลูกสาวที่เสียชีวิตไปแล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เสพยาบ้าเยอะจนหลอนแต่ละวันจะขอเงินจนหาให้ไม่ทัน ไม่ได้เงินก็ทำร้ายร่างกาย พร้อมชี้ให้ดูฟันที่ถูกหลานชายต่อยจนฟันหลุด สุดท้ายได้วิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่เอาไปบำบัดอย่าได้ให้หลานชายกลับมาอีกเลย - 003