ผบ.ตร.สั่งสอบด่วน
ปมขาย‘บัตรตำรวจ’ให้ต่างด้าว
แลกหนีเข้าเมืองโดยไม่ถูกจับกุม
ผบ.ตร.สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นการขายบัตรตำรวจราคา 350 บาท ให้ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี จี้ 6 โรงพักชายแดน จ.ตาก เร่งตรวจสอบ ลั่นพบกระทำผิดจริงเอาผิดทั้งทางวินัย-อาญา อย่างเด็ดขาด ขณะที่ต่างด้าวยังทะลักรายวันกองกำลังบูรพาสกัดจับแรงงานชาวกัมพูชา 15 ราย ลักลอบเข้าไทย สารภาพมาหางานทำ
เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ได้มีการนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับการขายบัตรตำรวจราคา 350 บาท ให้กับบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองเพื่อลี้ภัยจากปัญหาความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน แลกกับการไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีหรือถูกนำตัวผลักดันส่งกลับ ในพื้นที่ จ.ตาก นั้นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงการดำเนินการในมิติด้านความมั่นคง ด้านสาธารณสุข อีกทั้งหากตรวจพบมีเจ้าหน้าที่ไปเรียกรับผลประโยชน์ในทางมิชอบก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่พรมแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัด ประสานหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานสาธารณสุข และที่เกี่ยวข้องในการป้องกันการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน อีกทั้งให้เร่งรัดทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกิดขึ้น หากตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดหรือเรียกรับผลประโยชน์ในทางมิชอบ ให้ดำเนินการทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด และให้ผู้บังคับบัญชาลงไปกำกับดูแลการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิดหากพบข้อบกพร่องก็จะพิจารณาโทษผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดอีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน
ส่วนประเด็นที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอมีการขายบัตรตำรวจในราคา 350 บาท เพื่อแลกกับการไม่จับกุม หรือนำตัวบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางนั้น ขณะนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยให้สถานีตำรวจ 6 สภ. ได้แก่ สภ.แม่สอด สภ.แม่ระมาด สภ.อุ้งฝาง สภ.พบพระ สภ.ท่าสองยาง สภ.แม่เมย ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบติดกับแนวพรมแดนประเทศเพื่อนบ้านทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รายงานผลภายในวันที่ 11 เม.ย. หากผลการตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดหรือเรียกรับผลประโยชน์ในทางมิชอบ จะดำเนินการทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดต่อไป
สำหรับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัยจากการสู้รบและความไม่สงบของประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่จังหวัดตาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบชั่วคราวจำนวน 3 แห่ง คือ บ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง บ้านอุ้มเปี้ยม อ.พบพระ และบ้านนุโพ อ.อุ้มฝาง โดยทั้ง 3 ศูนย์อยู่ในการกำกับดูแลของ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย รวมถึงมีการจัดพื้นที่ปลอดภัยผู้หนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา จำนวน 5 แห่ง ใน อ.พบพระ และ อ.อุ้มผาง โดยทั้ง 5 แห่งอยู่ในการกำกับดูแลของฝ่ายทหารและฝ่ายปกครอง เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านสิทธิมนุษยชนและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
วันเดียวกัน พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้ ชค.ทพ.12 ฉก.ร.111(ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่111) นำกำลังพลออกลาดตะเวณเฝ้าระวังป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณชายแดนด้าน อ.โคกสูง และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว อย่างเข้มงวด
ต่อมา เวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่ร้อย ทพ.1204ชค.ทพ.12 ฉก.ร.111 ได้ตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวน 6 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 2 คนลักลอบเดินเท้าข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย บริเวณท้ายหมู่บ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ตรวจสอบไม่มีหนังสือเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงร่วมกันตรวจคัดกรองป้องกันโควิดฯไม่พบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายผิดปกติจึงนำมาซักถาม จากการซักถามชาวกัมพูชาทั้ง 6 คนรับสารภาพว่าลักลอบเข้าไทยเพื่อต้องการเดินทางไปทำงานก่อสร้างในพื้นที่เขตมีนบุรี กทม. เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดำเนินคดี
ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ชค.ทพ.12 ฉก.ร.111 เผยว่าสามารถสกัดจับชาวกัมพูชาได้อีกจำนวน 9 คน เป็นชาย 5 คน หญิง 3 คน เด็กหญิง 1 คน ขณะเดินเท้าฝ่าความมืดลักลอบข้ามตะเข็บชายแดนช่องทางธรรมชาติจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย บริเวณท้ายหมู่บ้านเนินสมบูรณ์ ม.12 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาตรวจสอบพบว่าไม่มีหนังสือเดินทางและเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย จึงร่วมกันตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อจังหวัดสระแก้ว
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาทั้ง 9 คน รับสารภาพว่าโควิด-19 ระบาดในกัมพูชาทำให้พวกตนไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้จึงลักลอบเข้าไทยเพื่อจะไปทำงานก่อสร้างและรับจ้างที่ กทม.เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ดำนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี