ฝุ่นพิษลามหลายพื้นที่
คลุมทั่ว‘เหนือ-อีสาน’
กรมควบคุมโรคแนะนำ
สวมหน้ากาก-อยู่กับบ้าน
พบฝุ่นละอองขนาดเล็ก กระจายในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ-อีสานกรมควบคุมโรคแนะนำสวมหน้ากากงดออกจากบ้าน “วราวุธ” ยืนยัน รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ชี้หลัง 14 เมษายน สถานการณ์ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 13 เมษายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประชาสัมพันธ์ว่าช่วง 2-3 วันนี้ อากาศจะปิด ไม่ถ่ายเท แต่จริงๆ ในเรื่องของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมากกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 หากเทียบปีอื่นๆ พบว่าปีนี้สถานการณ์ดี แต่จะมีช่วงนี้ที่อากาศไม่ถ่ายเท ร่วมกับการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้ การสวมหน้ากากอนามัยของประชาชนจะช่วยป้องกันฝุ่นในระบบทางเดินหายใจได้ส่วนหนึ่ง
ดังนั้น ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลค่าฝุ่นละอองที่จะก่อปัญหาต่อสุขภาพจากแอปพลิเคชั่น Air4Thai และการรายงานวิเคราะห์ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นระยะๆ โดยให้หลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงๆ เป็นสีม่วง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรออกนอกบ้าน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าฝุ่นจะอยู่ในอีก 2-3 วันนี้ ดังนั้น เป็นช่วงสั้นๆ ผลกระทบก็จะไม่มาก แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยยมวิทยา ได้พยากรณ์สภาวะอากาศและผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 ระหว่างวันที่ 12-18 เมษายน 2565 ว่า กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆน้อยบางส่วน อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียส ต่ำสุด 28 องศาฯ ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ สลับกับทิศเหนือ ด้วยความเร็วลมเฉลี่ย 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเขียว ที่เป็นเกณฑ์น้อย
ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่านและแพร่ มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ยร้อยละ 10 อุณหภูมิสูงสุด 40 องศาฯ ต่ำสุด 20 องศาฯ ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลือง ที่เป็นเกณฑ์ปานกลาง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ บึงกาฬ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่ มหาสารคาม สกลนคร และชัยภูมิ มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ย ร้อยละ 10 อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาฯ ต่ำสุด 25 องศาฯ ขณะที่ทิศทางลมพัดไปทางตะวันตก ด้วยความเร็วลม 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลืองเข้ม ที่เป็นเกณฑ์ค่อนข้างมาก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้แก่ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ย ร้อยละ 10 อุณหภูมิสูงสุด 36 องศาฯ ต่ำสุด 25 องศาฯ ขณะที่ทิศทางลมพัดไปทางตะวันตก ด้วยความเร็วลม 8-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลืองเข้ม ที่เป็นเกณฑ์ค่อนข้างมาก
ทางด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งมาจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่ง นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ในฐานะคณะกรรมการภายใต้รัฐมนตรีประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ได้แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียน ให้ประเทศในอนุภูมิภาคแม่โขงยกระดับการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ ตนได้แจ้งปัญหาดังกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่ผ่านมา พร้อมขอความร่วมมือกระทรวงการต่างประเทศในการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนอีกทางหนึ่ง โดยหวังว่าการยกระดับความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้โดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์แก้ไข ปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) คาดการณ์ว่าสถานการณ์ PM 2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ หลังวันที่ 14 เม.ย.เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 19 เม.ย.