โจรใต้ลอบกัด วางบึ้มใส่ถุงทิ้งไว้ริมถนนหนุ่มเคราะห์ร้ายหยิบดู บึ้มสนั่น เพื่อนที่ออกหาปลา โร่แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนหน่วยเก็บกู้ฯ โดนบึ้มซ้ำเจ็บ 3 ตำรวจเร่งล่าตัว คาดฝีมือแนวร่วมฯ ก่อเหตุสร้างสถานการณ์

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 15 เมษายน ร.ต.อ.อนิวัฒน์ ขอบเพ็ชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดมีชาวบ้านเสียชีวิตบริเวณข้างบ่อน้ำ หมู่ 8 ต.แป้น อ.สายบุรี จึงรายงานพ.ต.อ.เฉลิมชัย เพ็ชรกา ผกก.สภ.สายบุรี ก่อนนำกำลังประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) เข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตบนถนนคอนกรีต ทราบชื่อคือ นายนาวี ประมนต์ อายุ 34ปี ชาว จ.ยะลา สภาพถูกแรงระเบิดเข้าลำตัวเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ใกล้กันพบจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ และพบใบปลิวมีรูปเสือดำเป็นสัญลักษณ์และมีชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆโดยในระหว่างเข้าตรวจสอบ ยังพบวัตถุต้องสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าปฏิบัติการในการตรวจสอบต่อไปได้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกก่อเหตุซ้ำ ทำให้ต้องรอจนถึงช่วงเช้า จากนั้นจึงมีการตรวจสอบและกั้นพื้นที่โดยรอบเพื่อความปลอดภัย

ต่อมาเวลา 07.00 น.พล.ต.ต.ปิยวัฒ์ เฉลิมศรี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นรินทร์ บูสพมัญผบก.ภ.จว.ปัตตานี พล.ต.คมกฤชรัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พร้อมกำลัง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเหตุซึ่งจังหวะที่ชุดอีโอดี กำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้น เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ได้รับบาดเจ็บทันที 3 นาย ก่อนจะถูกลำเลียงส่งไปยัง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี โดยที่ 2 นาย มีอาการสาหัส ทราบชื่อว่าด.ต.ทรงศักดิ์ เจ๊ะสา และ ด.ต.เกษม บัวเทศ ถูกแรงระเบิดเข้าลำตัว ส่วนอีกราย ร.ต.อ.พนม ขวัญอ่อน ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ขาขวา

จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 08.30น.ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ก็ได้พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางไว้อีก 1 ลูก ที่ริมถนนคอนกรีตอยู่ในเชือกกั้นโปลิสไลน์ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบออกห่างจากบริเวณดังกล่าวในระยะที่ปลอดภัย ก่อนจะทำการยิงทำลาย

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายนาวี ผู้เสียชีวิต กับเพื่อนคือ นายสุรศักดิ์ ดีบุญธรรม อายุ 29 ปี ขับจักรยานยนต์คนละคัน มาจากหมู่บ้านใกล้บริเวณที่เกิดเหตุเพื่อหาปลา แต่เมื่อขับมาถึงจุดดังกล่าว นายสุรศักดิ์ ได้เดินลงบ่อปลาไปก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตกำลังเดินตามไป แต่เห็นถุงดำวางไว้ริมถนน ด้วยความสงสัยจึงไปหยิบขึ้นมาดู จึงเกิดระเบิดขึ้นทันที จนร่างผู้เสียชีวิตกระเด็นไปไกล 3 เมตร ส่วนนายสุรศักดิ์ เมื่อหันไปเห็น ก็พบว่าผู้เสียชีวิตนอนแน่นิ่งและเสียชีวิตแล้ว จึงรีบขึ้นจักรยานยนต์ขับไปแจ้งเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบซึ่งพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ โดยนำระเบิดแสวงเครื่องมาใส่ไว้ในถุง หวังจะสังหารเจ้าหน้าที่ที่ออกลาดตระเวนเส้นทาง และวางระเบิดอีกลูกไว้ห่างจากจุดแรก 3 เมตร เพื่อหวังลวงให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก่อนจะระเบิดซ้ำเพื่อสังหาร ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งรวบรวมหลักฐานออกติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการขโมยถังบรรจุแก๊สขนาด 25 กิโลกรัม 2 ถัง หายไปในพื้นที่ ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อีกทั้งได้ปรากฏข่าวความเคลื่อนไหวของนายอับดุลหะเล็ง ดอเล๊าะและนายรอสฝัน มะดง มือประกอบระเบิด ซึ่งมีการนำอาวุธและวัตถุระเบิดเข้ามาเตรียมการก่อเหตุในพื้นที่ อ.รือเสาะ โดยทางการข่าวได้มีการแจ้งเตือนว่าน่าจะมีเหตุรุนแรงขึ้นในพื้นที่ อ.รือเสาะ

ทั้งนี้ จากข้อมูลการก่อเหตุในห้วงเวลาดังกล่าว คาดว่าคนร้ายน่าจะมีการลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง หรือวางแบบเร่งด่วน หลังจากมีการประกอบวัตถุระเบิดขึ้นมา มีเป้าหมายต่อกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน , รปภ.เส้นทาง , รปภ.บุคคลในการทำกิจกรรมในเขตเทศบาล หรือยานพาหนะเชิงสัญลักษณ์ที่ใช้เส้นทางเข้าออก และฐานปฏิบัติที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่ำในพื้นที่ อ.รือเสาะ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเน้นเส้นทาง 4060 , 4016 , 4107 และเส้นทางเสี่ยง-เฝ้าระวัง 4066

มีรายงานว่าจะมีการก่อกวนด้วยการขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ต่อฐานปฏิบัติการหลายจุดในเขตเทศบาลและพื้นที่รอบนอก ชุมชนชาวไทยพุทธ และซุ่มยิง/ประกบยิงเจ้าหน้าที่ซึ่งมีการเตรียมการรักษาความปลอดภัยต่ำและเป้าหมายอ่อนแอ โดยก่อเหตุในช่วงนี้จนถึงภายหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังการก่อเหตุและการลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่สังหาร ก่อนจะก่อเหตุซ้ำ

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะพัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ จ.ปัตตานี จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ว่าหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว ทางพนักงานสอบสวน ฝ่ายสืบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าตรวจสอบและเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว สำหรับผู้เสียชีวิตได้มีการส่งศพไปชันสูตรเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน นอกจากนี้ได้สอบปากคำพยาน และส่งวัตถุพยานไปตรวจพิสูจน์

ขณะเดียวกัน ฝ่ายสืบสวนได้ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและเพื่อพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุและออกสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ รวมทั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ร่วมปฏิบัติการเพื่อป้องกันเหตุ เร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ มุ่งเน้นความปลอดภัยของตัวเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังในการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งคอยเป็นหูเป็นตาในการจดจำบุคคลและสังเกตวัตถุต้องสงสัยที่ถูกวางไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงขอความร่วมมือให้ช่วยแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุ และขอประณามผู้ก่อเหตุที่สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการตอกย้ำความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งหากพบเบาะแสใดๆ สามารถแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง