‘หมอยง’แนะเปิดเรียน‘บ้าน-รร.’ดูแลเด็กทุกชั้นอย่างไร ชี้เราเสียเวลามา 2 ปีมากพอแล้ว
24 เมษายน 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา หัวข้อ “โควิด 19 การเปิดเรียน” มีเนื้อหาดังนี้...
“โควิด 19 การเปิดเรียน
ยง ภู่วรวรรณ 23 เมษายน 2565
ใกล้เปิดเทอมแล้ว เด็กต้องไปโรงเรียน หยุดมา 2 ปีแล้ว เรียนทางไกล สิงคโปร์ ปีที่แล้วไม่หยุดเรียน
ผู้ปกครองอดห่วงไม่ได้ การระบาดโรคทางเดินหายใจ จะเป็นช่วงเปิดเทอมฤดูฝน มิถุนายน ถึงกันยายน ทุกปี ถ้าเปิดเรียนปกติ โรคทางเดินหายใจ ไข้หวัดใหญ่ ไข้โควิด จะพบเพิ่มขึ้น
เด็กเป็นผู้ขยายกระจายเชื้อได้ดี เราต้องช่วยกัน มีความพร้อมทั้งตัวนักเรียน ทางบ้าน และโรงเรียน
เด็กนักเรียน
โรคโควิด 19 ในเด็ก จะมีความรุนแรง และที่พบเสียชีวิตได้ ถึงแม้เป็นส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับผู้สูงอายุ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนใหญ่พบในเด็กเล็กน้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะ 2 ขวบปีแรก กลุ่มนี้ไม่มีวัคซีน ในบางประเทศเช่นจีน และอีกหลายประเทศ ให้วัคซีนเชื้อตายตั้งแต่อายุ 3 ขวบขึ้นไป ประเทศไทย อย ยังไม่อนุมัติให้ในเด็กต่ำกว่า 6 ปี ถ้าวัคซีนลดความรุนแรงของโรคได้ น่าจะต้องมีการพิจารณา
เด็กอนุบาล
เป็นเรื่องยากมากในการดูแล ทางด้านสุขอนามัย กำหนดระยะห่าง และหน้ากากอนามัย สำหรับเด็กเล็ก ในบางโอกาสก็ไม่เหมาะ จึงต้องช่วยกันโดยเฉพาะเด็กอนุบาล ที่จะเปิดเทอม
เด็กประถม
ควรรับวัคซีนให้มากที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรค เคร่งครัดในระเบียบวินัย เด็กป่วยต้องไม่ไปโรงเรียน มีการตรวจกรองสม่ำเสมอ เพื่อแยกผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ ด้วยวิธีที่เหมาะสม การใช้ ATK ทั้งประเทศคงเป็นการยาก
เด็กมัธยม
บางโรงเรียน นักเรียน ต้องมีการจัดการเป็นรูปธรรม ให้เปิดโรงเรียนได้ โดยเฉพาะโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่ และมีนักเรียนต่อห้องจำนวนมาก
ทางบ้าน
เด็กมีโอกาสนำเชื้อจากบ้านไปสู่โรงเรียน หรือจากโรงเรียนกลับมาอยู่บ้าน คนในบ้านโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ควรได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม เพื่อลดความรุนแรงของโรค เพราะมีโอกาสที่จะติดต่อกันในครอบครัว
ด้านโรงเรียน
ต้องมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เป็นที่ยอมรับของทุกคน และปฏิบัติได้ ตรวจกรองเด็กป่วย ทุกวัน เด็กป่วยต้องไม่ไปโรงเรียน เพื่อลดการสัมผัสกับนักเรียนอื่น การกักตัวนักเรียนเสี่ยงสูง ในการให้หยุดเรียน มีมาตรการชัดเจน เพื่อลดการระบาดในโรงเรียน เคร่งครัดสุขอนามัย กำหนดระยะห่าง ลดการสัมผัสโรค ใส่หน้ากากอนามัย
สถานที่เรียน
ควรโปร่ง อากาศถ่ายเทดี ในชนบทไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าห้องแอร์ ต้องมีการระบายอากาศ เปิดหน้าต่างเป็นครั้งคราว หรือเปิดไว้ เล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท ดูแลเรื่องความสะอาด มีสถานที่ล้างมืออย่างเพียงพอ
ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อการศึกษาไทยได้เดินไปข้างหน้า
เราเสียเวลามา 2 ปี มากพอแล้ว”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี