‘อัจฉริยะ’พบอัยการ  ขอเลื่อนสั่งฟ้อง‘คดีแตงโม’  ชี้คดี‘แซน’ตัวแปรพลิกคดี

‘อัจฉริยะ’พบอัยการ ขอเลื่อนสั่งฟ้อง‘คดีแตงโม’ ชี้คดี‘แซน’ตัวแปรพลิกคดี

วันพฤหัสบดี ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

‘อัจฉริยะ’พบอัยการ

ขอเลื่อนสั่งฟ้อง‘คดีแตงโม’

ชี้คดี‘แซน’ตัวแปรพลิกคดี

นัดเปิดหลักฐานเด็ด17พ.ค.

“อัจฉริยะ”เข้าพบ“อัยการนนทบุรี” ขอเลื่อนสั่งฟ้องคดี“แตงโม” ชี้คดี“แซน”จะเป็นตัวแปรพลิกสำนวน เปรย 17 พฤษภาคมนี้เปิดหลักฐานทั้งหมด ด้าน“หมอพรทิพย์’เผยทำไมคาใจ ยันแผลวิเคราะห์จุดตกเรือได้

เมื่อวันที่11พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา)หรือแตงโม พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวชื่อดัง วัย 37 ปี หลังจากพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะ แถลงสรุปสำนวนคดีนี้ส่งให้อัยการ โดยดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 6 คน ได้แก่ นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม มีข้อหาหลักคือกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ว่านายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าพบอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามการตรวจสอบสำนวนคดีแตงโม


นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เดินทางมาปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี ในคดีที่ตนแจ้งความดำเนินคดีนายวิศาพัช หรือแซน เนื่องจากคดีของตนจะเป็นตัวแปรทำให้สามารถพลิกคดีแตงโมได้ หากพิสูจน์ได้ว่าแซน ให้การเท็จ ทำให้ผลของคดีหลักมีการเปลี่ยนแปลง จึงอยากปรึกษาอัยการว่าจะรอคดีตนได้หรือไม่เพราะยังมีเวลาอยู่ แต่ก็ต้องดูว่าท่านอัยการจะมีความเห็นว่าอย่างไร

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ยังติดใจในประเด็นการตรวจแอลกอฮอล์และเลือดของแซน เพื่อหาสารเสพติด ทั้งๆที่สามารถบังคับได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 131/1 แต่กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเจาะจงว่าบาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ ไม่โฟกัสเรื่องที่เปิดขวดไวน์ และเรื่องบาดแผลที่เพิ่มขึ้นด้วย

ส่วนอะไรที่เชื่อว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่จะสามารถพลิกคดีได้ นายอัจฉริยะ ระบุว่า หากแตงโมไม่ได้จับขาแซน และไม่ได้ตกที่ท้ายเรือจริง ตรงนี้คือการให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานดังนั้นโจทย์ที่ตำรวจตั้งไว้ว่าแตงโมตกท้ายเรือก็ไม่เป็นความจริง คดีนี้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ สำหรับสาเหตุที่ไม่นำหลักฐานมอบให้ตำรวจภูธรภาค 1 เพราะตนไม่เชื่อใจ เราจึงมุ่งเน้นรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการจังหวัดนนทบุรี โดยเราเองมีผู้เชี่ยวชาญหลายคนมาเป็นพยานในคดีหลัก ซึ่งแจ้งความไว้ที่กองบังคับการปราบปราม

ประธานชมรมฯ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นไม่ได้ประสานอัยการจังหวัดนนทบุรี เอาไว้ เพราะแวะมาปรึกษา ก่อนที่ตนจะต้องไปขึ้นศาลต่างจังหวัด ส่วนสิ่งที่ออกมาร้องเรียนจะส่งผลกระทบกับหน่วยงานต่างๆ หลายส่วนหรือไม่นั้น ก็ไม่คิดว่าจะไปกระทบใคร เพราะต้องการค้นหาความจริง จะทำทุกวิถีทางตามกรอบและกำลังที่มี ตนไม่ได้มีอำนาจอะไร ได้แต่รวบรวมพยานหลักฐานแล้วมอบให้พนักงานสอบสวน ก่อนจะมีความเห็น แล้วต้องไปว่ากันต่อในชั้นอัยการ และยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะเข้าสู่สำนวนคดี

นายอัจฉริยะ กล่าวยืนยันว่า มีพยานสำคัญ เช่น นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีพีเอสและภาพเงาต่างๆ ซึ่งมั่นใจว่าแตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือ ส่วนประเด็นที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม โพสต์ข้อความว่าหากออกมาเคลื่อนไหวจะมีหมายศาลจำนวนมาก เรื่องนี้เชื่อว่าทางตำรวจ หรือ ผบ.ตร.ไม่ทำตนแน่นอน เพราะตนทำงานเพื่อแผ่นดิน ไม่มีอะไรแอบแฝง

“เรื่องนี้เป็นเรื่องแนวความคิดของผมกับตำรวจที่ไม่ตรงกัน และพร้อมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ออกมา และปฏิบัติตามกฎหมาย ยืนยันว่าไม่กังวลที่ได้นำหลักฐานมาเปิด ซึ่งเป็นหลักฐานที่ตำรวจไม่มี โดยสามารถพิสูจน์กับอัยการได้” นายอัจฉริยะ กล่าวและว่า ความเห็นที่ได้ปรึกษาในครั้งนี้จะทันก่อนคำสั่งอัยการ เพราะสำนวนมีกรอบระยะเวลา โดยวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ จะนำหลักฐานที่มีทั้งหมดไปมอบให้กับชุดสืบสวนคลี่คลายคดีนี้ที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งก่อนวันนั้นจะแถลงเปิดหลักฐานให้ประชาชนทราบ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในส่วนของหลักฐานจะเป็นหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยินดีให้ความร่วมมือ ทั้งทรายตัวอย่างที่เก็บมา รวมถึงช่วงสัปดาห์หน้าจะจำลองโดยใช้นักประดาน้ำที่มีกล้องถ่ายภาพลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อถ่ายภาพด้านล่างว่ามีทรายอยู่ตรงจุดที่พบศพหรือไม่ และพยานที่พบเห็นศพในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นพยานที่ตำรวจยังไม่เคยเอาเข้าสำนวนคดี

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กมีใจความว่ามีคนถามมามากว่าติดใจ คาใจอะไรอีก สิ่งที่เกิดขึ้นผิดไหมสารพัดคำถามที่จำเจไม่สร้างสรรค์ ทุกครั้งที่ต้องตอบคำถามหมอจะเอ่ยนำเสมอว่าจะตอบในหลักการ แต่สุดท้ายก็ตัดตอน แต่งเติมเพื่อกระตุ้นการหล่อเลี้ยงข่าว กระตุ้นความเกลียดให้เพิ่มพูน หมอทำงานตามหลักธรรมคือทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คดีนี้ช่วงแรกติดตามเชิงระบบจนถูกดึงให้มาตรวจศพครั้งที่ 2 ทำให้ได้เห็นประเด็นสำคัญคือบาดแผลที่สามารถนำไปวิเคราะห์ถึงจุดตกเรือแบบวิทยาศาสตร์ ธงและอคติเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่มีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ให้ครบถ้วนสมบูรณ์

หลายคนถามว่าทำไมสนใจประเด็นจุดตก การค้นหาความจริงต้องไม่ลำเอียง ธรรมะจัดสรรให้หมอได้พบข้อมูลทางวิชาการคือแผลก้างปลาที่เป็นแนวสม่ำเสมอที่ด้านหลังขา แสดงให้เห็นว่าร่างน่าจะถูกกระแสน้ำพัดสู่ใบเรือตรงๆ คนที่ทำงานกับเรือที่ได้มีโอกาสพบ วิศวกรที่ได้คุย สนับสนุนความคิดและบอกจุดตกตรงกันหมด จุดตกที่วิเคราะห์แบบวิทยาศาสตร์น่าเชื่อถือกว่าคำพูดคน หมอยังมั่นคงในหลักการที่จะเดินหน้าสร้างระบบนิติวิทยาศาสตร์ที่อำนวยความยุติธรรมได้จริง เมื่อแสงส่องมาที่ตัวเรานานกว่า 30 ปี จึงไม่ต้องวิ่งหาแสงแต่จะพยายามส่องแสงไปยังจุดดำมืดเพื่อให้เห็นปัญหาที่ซ่อนไว้ ถ้าลิขิตกรรมให้เกิดความเปลี่ยนแปลง คนตัวเล็กก็สามารถเปลี่ยนโลกได้ หวังว่าคนไทยจะมีระบบนิติวิทยาศาสตร์ที่ดีขึ้นแน่นอน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top