‘สามารถ’เดินหน้าลุย
พรบ.ปราบการฉ้อโกง
ฟันแชร์ลูกโซ่-เครือข่าย
มีผลในรัฐบาลชุดหน้า
“สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” อดีตผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม ย้ำเดินหน้าลุยต่อเข็นร่างพ.ร.บ.ปราบการฉ้อโกงประชาชนเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในรัฐบาลหน้า เผยเคยรวบรวม 5 แสนรายชื่อเสนอสภาฯ เผยปม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ฉบับแก้ไขแม้ร่นเวลาจ่ายเงินคืนผู้เสียหายเร็วกว่าในอดีต แต่ยังรอนานถึง 5 ปี
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ได้แสดงความเห็นต่อสภาวะที่เงินดิจิตอลได้ร่วงระนาว บางตัวขาดทุน 100% หรือเท่ากับไม่มีมูลค่า ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยเตือนอยู่หลายครั้ง ว่ามันอาจจะเกิดเหตุการณ์เหมือนแชร์แม่ชม้อย แชร์ชาร์เตอร์ แชร์แม่นกแก้ว ซึ่งตอนคนที่ลงทุนก็หวังว่าจะได้ผลกำไร ก็หลงเชื่อคำโฆษณาต่างๆ นานา หรือแม้แต่ล่าสุดแชร์ยูฟันนั้น ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้มีคำพิพากษา ตัดสินแล้วว่ากระทำผิดกฎหมาย เป็นการหลอกลวงประชาชน และยูโรฟันก็อ้างงานสกุลเงินยูโทเค็นเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยแนะนำประชาชนว่าให้ดูภาพยนตร์เรื่องล่าราชาคริปโต พร้อมทั้งมีการออกมาเตือนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ขณะที่ตนก็เคยบอกไปแล้วว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริง และมีโอกาสที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนจะถูกหลอก ตนจึงอยากให้ท่านนายกรัฐมนตรีมีมาตรการป้องกัน แต่ว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดที่มารับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาตรวจสอบการลงทุนการให้ความรู้ป้องกันการฉ้อโกง
ทั้งนี้ตนเองก็ดีใจกับผู้เสียหายในคดีคอร์สสัมมนา ที่ได้รับเงินคืนจากป.ป.ง.ได้มีการโอนเงินคืนให้กับผู้เสียหายแล้ว โดยเรื่องนี้เราได้ใช้เวลาต่อสู้เพื่อช่วยผู้เสียหายมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี2560 จนถึงปัจจุบัน 2565 ซึ่งนานเป็นเวลา 5 ปี อย่างไรก็ตามถือว่าเร็วกว่าเมื่อก่อน ต้องรอนานถึง 30 ปี แต่ทั้งนี้ก็ยังถือว่านานเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องที่ กู้หนี้ ยืมสินมาลงทุน
โดยก่อนหน้านี้ ที่ผมทำงานภาคประชาชน ก่อนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผมเคยมีการรวบรวมรายชื่อ ประชาชนกว่า 5 แสนรายชื่อ เพื่อยื่นเสนอขอให้แก้ไขกฎหมาย เมื่อครั้งตั้งแต่มีการรัฐประหารใหม่ๆ จนกระทั่งตนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ และได้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรมนั้น ในตอนที่เกิดแชร์แม่มณี ก็ได้มีการตกผลึกเสนอกฎหมายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดแชร์ลูกโซ่เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร แต่เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นเป็นร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเงินต้องให้นายกรัฐมนตรีรับรอง ซึ่งผมเองในขณะนั้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้มีการลงพื้นที่ทำประชาพิจารณ์ ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งประชาชนก็เห็นด้วยว่าจะต้องมีกฎหมายใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหลอกลวง และคนที่ถูกหลอกลวง รวมทั้งต้องได้รับทรัพย์สินของตนจากการที่ถูกฉ้อโกงไปคืน ไม่ใช่พอมีการอายัดทรัพย์สินคดีที่ถูกฉ้อโกงแล้วต้องรอนาน 20 -30 ปี ทั้งๆที่ประชาชนถูกฉ้อโกงเงินตัวเองไป
ทั้งนี้แม้จะมีการแก้ไขกฎหมายการฟอกเงินแล้วก็ตาม แต่ ณ ปัจจุบันก็ยังคงต้องรอนานถึง 5 ปี อย่างไรก็ดี ผมรู้สึกก็ดีใจกับคนจำนวนหลายหมื่นคนที่ผมได้ลงไปช่วยและได้รับเงินคืน ซึ่งในตอนที่ผมเป็นภาคประชาสังคม ก็ได้มีการเสนอกฎหมาย ฉบับเดียวกันนี้เข้าสู่สภาฯ โดยสามารถไปตรวจสอบดูได้จากเอกสารที่สภาฯว่าผมเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายนี้ ผมยืนยันว่าไม่เคยลืมพ่อแม่พี่น้องประชาชน และผมมั่นใจว่ามีคนที่พร้อมจะสนับสนุนร่างกฏหมายดังกล่าวนี้ให้ออกมามีผลบังคับใช้ เพราะปัจจุบันถึงเวลา
ดังจะเห็นได้ว่าปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังคงหลอกลวงพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นรายวัน และยังคงมีแชร์ลูกโซ่ รวมถึงหลอกลงทุนเงินดิจิตอล ก็ยังคงมีจำนวนมาก เพราะฉะนั้นผมจึงมั่นใจว่าถ้ารัฐบาลหน้าเราได้เป็นรัฐบาล ผมจะผลักดันร่างกฎหมายนี้กับท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยมีกฏหมายที่จะปกป้องพ่อแม่พี่น้องประชาชน เพื่อไม่ให้มีใครมาหลอกลวงเอาเปรียบได้
ในสมัยก่อนเรามีกฎหมาย ใครที่ฉ้อโกง หรือเป็นหนี้แล้วไม่คืนมีสิทธิ์ที่จะถูกจับกุม นำทรัพย์สินเขามาชดใช้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีการใช้มาตั้งแต่สมัยโรมัน แม้แต่สมัยอยุธยาก็เคยใช้ แต่ในปัจจุบัน กฎหมายเราแย่ลง จึงทำให้มีการฉ้อโกงกันมากขึ้น ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ประชาชนทุกครั้งต้องได้รับการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับเรื่องนี้ผมคิดว่าจะผลักดันต่อไป และผมพร้อมที่จะยืนเคียงข้างพ่อแม่พี่น้องประชาชนต่อไป เพราะ ที่ใดมีการรวมตัวกัน ที่นั้นจะมีกฎหมาย ที่ใดมีกฎหมายที่นั้นจะมีความยุติธรรม
“จะเห็นได้ว่าเรื่องเงินดิจิตอลที่วันนี้ไร้มูลค่า บางตัวขาดทุน 100% ก็อยากให้ท่านคิดให้ดีเพราะว่าบางคนที่มีความ เชี่ยวชาญเรื่องการเงินก็ยังไม่ลงทุน ดังนั้นจึงวอนว่าอย่าเชื่อคนที่มาชักชวนให้ลงทุนเพราะสุดท้ายแล้วคนที่มาชักชวนเขาก็จะเอาเงินไป ซึ่งการลงทุนที่ถูกต้องนั้นต้องลงทุนบนข้อมูลจริง บนความรู้ที่ถูกต้อง ถ้าท่านถูกหลอกแล้วก็ขอให้ท่านไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้”นายสามารถ กล่าวในตอนท้าย ทั้งย้ำว่าตนเองพร้อมที่จะยืนเคียงข้างกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน และขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจสนับสนุนการทำงานในเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี