ทายาทผู้ผลิตยาหอมชื่อดังอยุธยา วอนรัฐสนับสนุนผู้ประกอบการยาสมุนไพร-การยื่นขอทะเบียนยา ก่อนมรดกภูมิปัญญาจะสูญหายไป
นายประวิทย์ สุวรรณสัญญา ทายาทสุวรรณโอสถ (โค้วเตี่ยหมง) ผู้ผลิตยาหอมเครื่องบินลูกโลก สูตรต้นตำรับ ยาหอมของชาวผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ยาหอมเป็นยาโบราณ มีบันทึกสืบต่อกันมาว่า เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในยุคเริ่มต้นยาหอมถือว่าเป็นของสูง เป็นของหายากที่ใช้กันในหมู่เจ้านายที่มีทรัพย์และมีอำนาจวาสนา เพราะเครื่องยาหลายตัวต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งยังต้องใช้บริวารจำนวนมากมาบด มาร่อน มาปรุง ให้ได้ยาหอมคุณภาพดี จนรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงปรารภให้กระจายยาดี ๆ ไปตามหัวเมืองทั่วประเทศ เพื่อให้ราษฎรที่อยู่ห่างไกลที่หายาแก้โรคภัยได้ยากภายใต้ชื่อ “ยาโอสถสภา” (ยาสามัญประจำบ้าน) และจัดตั้งตำรับยาตำราหลวงขึ้น ซึ่งมียาหอมเป็นหนึ่งในนั้นปัจจุบัน มียาหอมมากกว่า 500 ตำรับ ซึ่งแต่ละตำรับประกอบไปด้วยสมุนไพร (พืชวัตถุ) มากมายหลายสิบชนิด อาทิ ขิง ดีปลี สะค้าน ช้าพลู เจตมูลเพลิงแดง แห้วหมู เทียน กระวาน กานพลู จันทร์ เปราะ เกสรบัวหลวง ฯลฯ
นายประวิทย์ โดยธุรกิจของ สุวรรณโอสถ นั้น มีจุดกำเนิดเมื่อเกือบ 80 ปีที่แล้ว โดยการผลิตยาหอม ตราเครื่องบินลูกโลก ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น และรสยาที่หวานชุ่มคอ มักนิยมชงดื่มกันเมื่อต้องเดินทาง และเจอแดดร้อน หาซื้อได้ตามร้านยาทั่วไปตั้งแต่ภาคกลางขึ้นไปจนถึงภาคเหนือตอนบน ถือว่าเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่ชาวกรุงเก่ามาอย่างยาวนาน สำหรับตนเป็นทายาทรุ่นที่ 3 มีความมุ่งหวังเป็นอย่างมากที่อยากให้ภาครัฐ หันมาสนับสนุนผู้ประกอบการยาสมุนไพรไทยมากขึ้น เพราะเห็นถึงเม็ดเงินจำนวนมากที่สามารถจะผลักดันเศรษฐกิจไทยได้ โดยใช้สมุนไพรไทยเป็นแรงขับเคลื่อน รวมถึงการพัฒนาให้มีประโยชน์ในการใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสามารถสร้างรายได้ ให้กับเกษตรกรที่หันมาปลูกสมุนไพรไทยกันมากขึ้น
“โดยส่วนตัวผม ที่ได้ประกอบการยาสมุนไพรไทยมา มองเห็นถึงประโยชน์อันมากมายที่ภาครัฐควรสนับสนุนสมุนไพรไทยให้ได้รับการยอมรับสู่ตลาดสากลเพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ดียิ่งขึ้นเพราะเศรษฐกิจจะดีได้ทุกคนในประเทศต้องเข้าถึงเครื่องมือในการสร้างรายได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญที่ผ่านมาที่ทำให้ผู้ประกอบการสมุนไพรโดยเฉพาะรายย่อยไม่สามารถเติบโตได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการขึ้นทะเบียน เป็นไปอย่างล่าช้า และไม่เอื้อต่อการพัฒนาและการแข่งขันกับต่างประเทศ ทั้งที่ประเทศไทยมีสมุนไพรมากมายที่ได้รับการวิจัยและพัฒนา แต่มาขึ้นหิ้งเพราะไปต่อยากทั้งเป็นยา หรืออาหารเสริม ผมห่วงว่าในอนาคตการจะต่อยอดรุ่นสู่รุ่น เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญา จะสูญหายไป หากรัฐบาลไม่ยื่นมือมาช่วย ” นายประวิทย์ กล่าว
สำหรับนายประวิทย์ ปัจจุบัน เป็นทีมเศรษฐกิจพรรคกล้า รับผิดชอบ ซอฟท์พาวเวอร์สมุนไพรไทย เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในตระกูลที่ผลิตยาหอมและยาแผนโบราณหลายชนิดมาเกือบ 80 ปี คลุกคลีและเห็นความยากลำบากของการเข้าสู่กระบวนการการขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ และเมื่อต้องการปรับปรุงให้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับคนรุ่นใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงประกาศขอเป็นตัวแทนที่จะส่งเสียงไปยังรัฐบาลเพื่อให้อำนวยความสะดวกในการขึ้นทะเบียนให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อที่จะรักษาภูมิปัญญาโบราณ ไม่ให้สูญหายไปจากสารบบยาของไทย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี