อดีตการ์ดรุ่นใหญ่"สมบัติ ทองย้อย"จำเลยคดีดูหมิ่นเบื้องสูง วืดประกันครั้งที่ 3 ศาลอุทธรณ์ระบุไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม เพราะเคยสั่งไม่ให้ประกันมาก่อนหน้านี้ เหตุผลในคำร้องขอประกันไม่เพียงพอ
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 3 แสนบาท และคำร้องประกอบการพิจารณาเพื่อขอปล่อยชั่วคราวครั้งที่ 3 นาย สมบัติ ทองย้อย อดีตการ์ดเสื้อแดง จำเลย คดีดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีโพสต์ข้อความ ดูหมิ่นสถาบัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 6 ปี
ต่อมา ศาลอาญากรุงเทพใต้เห็นควรให้ส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา
ทั้งนี้ ในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระของสมบัติครั้งนี้ ให้ศาลกำหนดเงื่อนไขอื่นๆ เพื่อเป็นหลักประกันอันน่าเชื่อถือว่า จำเลยจะไม่หลบหนี ไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุอันตรายประการอื่น
ที่ศาลอุทธรณ์เคยมีคำสั่งว่า คดีนี้มีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยอาจหลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ในประเด็นนี้จำเลยยืนยันว่า ตั้งแต่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ จำเลยได้ให้ความร่วมมือเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก มาพบพนักงานอัยการ ตามกําหนดนัด ตลอดจนการมาเข้าร่วมการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นในทุกนัด เพื่อพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์และความประสงค์จะสู้คดี โดยจำเลยไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่ปรากฏว่าจําเลยได้เคยไปก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับคดีนี้ซ้ําอีกแต่อย่างใด และตลอดการพิจารณาคดี จำเลยปฎิบัติตามเงื่อนไขปล่อยชั่วคราวที่ศาลเคยกำหนดไว้ทุกประการ
นอกจากนี้ จําเลยยังเป็นเสาหลักในการดูแลครอบครัว มีภาระงาน ภาระหนี้สิน ต้องรับผิดชอบในการทํางานหาเลี้ยงมารดา บุตร และภรรยา ซึ่งมารดาของจําเลยแก่ชราอายุกว่า 74 ปีแล้ว ต้องมีผู้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งบุตรของจําเลยกําลังอยู่ระหว่างศึกษาจึงต้องส่งเสียค่าเทอมการศึกษาของบุตรด้วย หากจําเลยไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวก็จะส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างมาก ทั้งรายได้ของครอบครัวที่ต้องสูญเสียไป และกระทบต่อสิทธิทางการศึกษาของบุตร
โดยหากจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จําเลยจะไม่ทํากิจกรรมที่จะกระทําความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยินยอมติดอุปกรณ์ EM รวมถึงการ กําหนดเงื่อนไขอื่นๆ ที่ศาลเห็นสมควร โดยจําเลยยินดีจะปฏิบัติตามคําสั่งของศาลทุกประการ
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์โดย “พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ศาลอุทธรณ์เคยไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์มาแล้ว 2 ครั้ง และเหตุตามคำร้องไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์คดี ให้ยกคำร้อง ซึ่งทำให้นายสมบัติต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำต่อไป