วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘ปศุสัตว์’ยกการ์ด  สั่งคุมเข้มป้องกันโรค‘ลัมปี สกิน’  เร่งลุยเชิงรุกหวั่นระบาดซ้ำรอย

‘ปศุสัตว์’ยกการ์ด สั่งคุมเข้มป้องกันโรค‘ลัมปี สกิน’ เร่งลุยเชิงรุกหวั่นระบาดซ้ำรอย

วันอังคาร ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :
  •  

อธิบดีกรมปศุสัตว์ สั่งเพิ่มกำลังควบคุมป้องกันโรค“ลัมปี สกิน” ในโคกระบืออย่างเข้มงวดต่อเนื่อง พร้อมเร่งทำงานเชิงรุกตามหลัก “รู้เร็ว โรคสงบได้เร็ว”

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2565 นายสัตวแพทย์ สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่าเนื่องด้วยเข้าสู่หน้าฝน สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงส่งผลต่อระดับภูมิคุ้มกันโรคในสัตว์


และจากอิทธิพลของพายุลมมรสุมเป็นปัจจัยที่ทำให้สัตว์แมลงพาหะมีการกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆได้มากขึ้น ทำให้สัตว์ที่ไม่สามารถปรับตัวได้และมีระดับภูมิคุ้มกันต่ำเกิดอาการป่วยและในกรณีที่รุนแรง ไม่สามารถทำการรักษาได้ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ดังเช่นโรคลัมปี สกิน(Lumpy skin)ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทยพบครั้งแรกในปี2564 ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 เกิดจากเชื้อไวรัสพบเฉพาะในโคกระบือเท่านั้น ไม่ติดต่อสู่คน ติดต่อได้จากสิ่งคัดหลั่ง และมีการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน มีพาหะนำโรคติดต่อระหว่างสัตว์และสัตว์ได้แก่ เห็บ ยุง แมลงวัน

โดยกรมปศุสัตว์ได้มีมาตรการในการควบคุม ป้องกันโรคลัมปี สกินในโคกระบือมาอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา เฝ้าระวังควบคุมและป้องกันโรคลัมปีสกิน ให้อยู่ในวงพื้นที่จำกัดโดยเร็ว ลดผลกระทบและความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุดและสามารถดำเนินการควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่องตามหลัก“รู้เร็ว โรคสงบได้เร็ว”นั้น

นายสัตวแพทย์ สรวิศ กล่าวต่อว่า กรมปศุสัตว์โดยสำนักควบคุม ป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ ได้บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการระบาดของโรคตามมาตรการควบคุม ป้องกันโรคลัมปี สกินในโคกระบือ ดังนี้

1) การเฝ้าระวังการเกิดโรคอย่างใกล้ชิด เน้นการรู้โรคให้เร็ว เพื่อให้การควบคุมโรคให้สงบอย่างรวดเร็ว ลงพื้นที่และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีระบบสารสนเทศเพื่อการเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ (E-Smart surveillance)เพื่อการรายงานการเกิดโรคในพื้นที่ โดยให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมีการรายงานการระบาดของโรคทุกวัน 2) การควบคุมการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวดตามแนวทางที่กรมปศุสัตว์กำหนด ตามแหล่งรวมสัตว์ ตลาดนัดค้าสัตว์ และตามชายแดน

3) การควบคุมแมลงพาหะนำโรค โดยให้เกษตรกรมีการป้องกัน และควบคุมแมลงพาหะนำโรค ใช้สารกำจัดแมลงทั้งบนตัวสัตว์และบริเวณพื้นที่เลี้ยงสัตว์ เพื่อลดจำนวนแมลงพาหะในการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่ฟาร์ม รวมถึงวิธีการอื่นๆ เช่น การกางมุ้ง ใช้ไฟไล่แมลง กับดักแมลง เป็นต้น ทั้งในพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคและในพื้นที่เสี่ยง 4) การรักษาสัตว์ป่วยโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่ยังไม่มียารักษาที่จำเพาะ จึงต้องจำเป็นที่จะต้องรักษาตามอาการโดยหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ของกรมปศุสัตว์

5) การฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้โคกระบือ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันการเกิดโรคได้ ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้มีการนำเข้าวัคซีนโรคลัมปี สกินจากต่างประเทศและนำไปฉีดให้กับโคกระบือของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตามแผนการจัดสรรวัคซีนของกรมปศุสัตว์แล้ว จำนวน 360,000โด๊ส ได้อำนวยความสะดวกในการนำเข้าวัคซีนจำนวน572,000 โด๊ส ให้สมาคมผู้เลี้ยงโครวม 13 สมาคม ได้รับบริจาคจากบริษัทผู้นำเข้าอีกจำนวน 100,000 โด๊ส

นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อควบคุมโรคลัมปี สกินในโค กระบือ เพิ่มเติม สำหรับจัดซื้อวัคซีนเพิ่มจำนวน 5,000,000โด๊ส เพื่อให้โค กระบือได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมทั้งประเทศ ให้มีภูมิคุ้มกันระดับฝูงที่สามารถลดการระบาดของโรคและทำให้โรคสงบโดยเร็ว

ปัจจุบันกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการกระจายวัคซีนให้กับพื้นที่และนำไปฉีดให้กับโคกระบือของเกษตรกรทั้งหมดแล้วและ6)การประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนภัยให้แก่เกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังโรคในพื้นที่ การให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคและสถานการณ์ผ่านช่องทางต่างๆเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงความรู้ แนวทางและร่วมมือในการควบคุม ป้องกันโรค เพื่อลดความสูญเสีย

อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่ากรมปศุสัตว์ได้เร่งให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคลัมปีสกินในโคกระบือ ประสานงานกับจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ., อบต.,เทศบาล)(ข้อมูลวันที่ 25 พฤษภาคม 2565)ประกอบด้วย การรักษาพยาบาลสัตว์ป่วย จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ 206,532ราย หยดหรือราดยาป้องกันแมลง จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ 37,967 ราย พ่นยากำจัดแมลง จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ 226,233ราย พ่นยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ 173,622ราย แจกยากำจัดแมลงแก่เกษตรกร จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ 133,735 ราย และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคลัมปี สกินและการป้องกันโรค จำนวนเกษตรกรที่ได้รับบริการ433,610 ราย

“จากผลการดำเนินงานอย่างเข้มงวดต่อเนื่องร่วมกับการดำเนินงานให้การช่วยเหลือเกษตรกรกับหน่วยงานในพื้นที่ ปัจจุบันพบว่าแนวโน้มการระบาดของโรคลัมปี สกิน ในประเทศมีแนวโน้มลดลงตามลำดับ สามารถควบคุมโรคได้ในวงพื้นที่จำกัด และเพื่อให้ภูมิคุ้มกันระดับฝูงที่ดีได้ กรมปศุสัตว์ จึงต้องดำเนินการจัดหาวัคซีน ให้เพียงพอและครอบคลุมประชากรสัตว์ เพื่อให้การควบคุม ป้องกันโรคเกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ต่อไป”อธิบดีกรมปสุสัตว์ กล่าว

และย้ำว่าขอความร่วมมือเกษตรกรปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคลัมปี สกิน ที่ทางกรมปศุสัตว์กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อตัวเกษตรกรและชุมชน ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือ www.dld.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225 -6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เกษตรกรช่วยชาติ ชี้\'ธนาคารที่ดิน\' มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ไม่ควรยุบเลิก เกษตรกรช่วยชาติ ชี้'ธนาคารที่ดิน' มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ไม่ควรยุบเลิก
  • ปล่อยขบวน ‘ALRO FORCE’ ส.ป.ก.พร้อมลุยเร่งรัดออกโฉนดเพื่อการเกษตร ยกระดับคุณภาพเกษตรกรไทย ปล่อยขบวน ‘ALRO FORCE’ ส.ป.ก.พร้อมลุยเร่งรัดออกโฉนดเพื่อการเกษตร ยกระดับคุณภาพเกษตรกรไทย
  • ครม.เคาะ 5.1 พันล้านบาท ช่วย‘ชาวไร่อ้อย’เก็บเกี่ยวลดฝุ่นPM 2.5 โดยไม่เผา ครม.เคาะ 5.1 พันล้านบาท ช่วย‘ชาวไร่อ้อย’เก็บเกี่ยวลดฝุ่นPM 2.5 โดยไม่เผา
  • ‘แจ่วบอง’ปลาหมอคางดำ ตราใบโพธิ์ เมนูอร่อยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนโพพระ ‘แจ่วบอง’ปลาหมอคางดำ ตราใบโพธิ์ เมนูอร่อยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนโพพระ
  • \'กรมการข้าว\'ประชุม คกก.ตรวจรับปัจจัยการผลิตฯ \'โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 67\' 'กรมการข้าว'ประชุม คกก.ตรวจรับปัจจัยการผลิตฯ 'โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 67'
  • \'กปร.-ม.มาเลเซีย\'ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม 'กปร.-ม.มาเลเซีย'ลงนาม MOU แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม
  •  

Breaking News

ฟาด‘ฮุน เซน’!ประเทศที่ไม่รับเขตอำนาจ ICJ เป็น‘โจร’จริงหรือ ฉะแค่วาทะปั่นกระแส

คนไทยจะได้ตาสว่าง! ปรารถนาให้'ฮุน เซน'เปิดโปงนักการเมืองไทย ยักยอกทรัพย์สินฝากไว้ที่เขมร

‘ประเสริฐ’แจงระงับงบ 5.1 หมื่นล้านแก้ภัยแล้ง ปัดเลื่อยเก้าอี้คั่ว‘มท.1’

สอบสวนกลาง ‘บุกจับบัญชีม้า’ หลอกลงทุนผ่านไลน์-เตือน!อย่าหลงเชื่อ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved