ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการตัดวงจร-ยึดทรัพย์ขบวนการหลอกระดมทุนคล้ายแชร์ลูกโซ่ ชวนลงทุนให้ผลตอบแทน 180% พบมีคนหลงเชื่อแล้ว 9 หมื่นคน เงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท
1 ก.ค.65 พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลปฏิบัติ “ตำรวจไซเบอร์เปิดยุทธการตัดวงจรความเสียหายขบวนการหลอกระดมทุน นอร์ทเทิร์น ลอว์เยอร์ (Northern Lawyer)” ชักชวนให้ร่วมลงทุนออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์สืบสวนทราบว่า ขบวนการนี้มีพฤติการณ์โฆษณาชักชวนให้ประชาชนในโลกออนไลน์มาสมัครสมาชิก อ้างว่าจะนำเงินไปลงทุน เช่น ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency), ซื้อขายเงินตราต่างประเทศ หรือ ฟอเร็กซ์ (Forex), ซื้อขายทองคำ, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์, ซื้อขายรถยนต์มือสอง และค้าอัญมณี โดยจะให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในอัตราสูงสุดถึงร้อยละ 180 ต่อปี มีการจัดสัมมนาชักชวนหาสมาชิกทุกสัปดาห์ พบว่าเปิดดำเนินการมาได้ 11 เดือนแล้ว
สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็นแพ็กเกจ คือ เริ่มต้นลงทุนที่ 4,000 บาท ครบ 10 เดือน รับผลตอบแทน 6,000 บาท ไล่เรียงไปตามจำนวนเงินลงทุน จนถึงแพ็กเกจสุดท้าย ลงทุนสูงสุดที่ 400,000 บาท ครบ 10 เดือน ได้รับผลตอบแทนถึง 600,000 บาท จึงมีสมาชิกสนใจเข้าร่วมลงทุนในแพ็กเกจต่างๆ กว่า 90,000 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 1,400 ล้านบาท แต่ไม่ได้นำเงินของสมาชิกไปลงทุนหรือทำธุรกิจตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เป็นการหลอกลวงลงทุนในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลจังหวัดเชียงใหม่อนุมัติหมายจับ
ก่อนหน้านี้ ตำรวจไซเบอร์ได้เปิดปฏิบัติการเพื่อตัดวงจรของเครือข่ายนี้ โดยเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ รวม 5 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน คือ น.ส.ดารารัตน์ อายุ 46 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท และ น.ส.เกวรินทร์ อายุ 56 ปี ทำหน้าที่เป็นวิทยากรชักชวนสมาชิกมาร่วมลงทุน จากการตรวจค้นได้ยึดทรัพย์สินหลายรายการ ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 7 แปลง รถยนต์หรู 2 คัน กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ และอายัดเงินในบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาได้กว่า 16 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 49 ล้านบาท ซึ่งตำรวจไซเบอร์จะขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน คือ นายรอสลี อายุ 48 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี
สำหรับพฤติกรรมของเครือข่ายดังกล่าว เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แน่นอน ซึ่งเป็นการหลอกลวงให้ลงทุน แล้วจะได้ค่าตอบแทนจากการฝากเงินถึง 180% ซึ่งเป็นอัตราที่มากเกินจริง เป็นไปไม่ได้ หากมีจริง ธนาคารทั่วโลกคงต้องล่มสลาย เพราะจะไม่มีใครไปฝากเงินกับธนาคาร จึงขอเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ที่เข้าร่วมลงทุนส่วนมากก็มีฐานะดี แต่อาจเกิดจากความโลภ โดยมีการเช่าโรงแรมหรูทุกสัปดาห์ เพื่อจัดสัมมนา อบรมพรีเซนต์ให้ข้อมูล ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบพบและดำเนินการจับกุมทันที
ทางด้าน พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ จึงภัทรนิษฐ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.4 กล่าวว่า เส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อสมาชิกหลงเชื่อโอนเงินมาลงทุนผ่านการโอนเข้าบัญชีธนาคาร หลังจากนั้นจะมีการนำเงินดังกล่าวตั้งโปรแกรมโอนอัตโนมัติให้สมาชิกคนเก่าบางส่วน ส่วนเงินที่เหลือจะแบ่งไปจัดสัมมนา จัดอบรม และโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของ น.ส.ดารารัตน์ และ น.ส.เกวรินทร์ ซึ่งพบว่านำไปซื้อทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีเงินอีกส่วนที่ถูกโอนเข้าบัญชีของนายรอสลี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมขบวนการนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี