คืบหน้ารถรับ-ส่ง นร.พลิกคว่ำ เจ็บเกือบ 30 ราย นร.หญิงหัวแตกแผลกว้าง เจ็บสาหัส 1 ชาวบ้านวอนแก้ไขชี้เป็นโค้งอันตราย 

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณีรถโดยสารหกล้อยี่ห้ออีซูซุ สีส้ม ทะเบียน 10-1272 นครพนม ซึ่งเป็นรถรับส่งนักเรียนในพื้นที่ ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม ไปส่งที่โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม ที่ตั้งอยู่บ้านนามน ต.บ้านผึ้ง เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบริเวณสามแยกโค้งบ้านผึ้ง ซึ่งเป็นเส้นทางตัดระหว่างทางหลวงชนบทหมายเลข นพ.2010 (หนองดินแดง-บ้านผึ้ง)กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (นครพนม-สกลนคร) โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 07.15 น. วันที่ 5 กรกฎาคม   ส่วนคนขับชื่อนายลำไย โสมี อายุ 60 ปี ได้รับบาดเจ็บแขนขวาหัก ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ภายในรถมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมจำนวน 30 คน ได้รับเจ็บเล็กน้อย 29 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คนเป็นนักเรียนหญิงมีบาดแผลกว้างและลึกบริเวณศีรษะแต่กะโหลกไม่ได้รับการกระทบกระเทือน นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กน 9872 นครพนม มีนางมะลิวัลย์ ศรีชื่น อายุ 40 ปี ครูพี่เลี้ยงศูนย์เด็กเล็กพื้นที่ ต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม มาจอดรอเลี้ยวเข้าถนนทางหลวงชนบท นพ.2010 ถูกชนกระแทกพังเสียหาย ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องที่นี่ : ระทึก! รถรับ-ส่งนักเรียนแหกโค้งพลิกคว่ำ เร่งช่วยเหลือเด็กกว่า50ชีวิต

ล่าสุด ร.ต.อ.มงคล ยศวิลาศ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม  ได้มีการสอบสวนปากคำพยาน ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาคนขับรถรับส่งนักเรียน คือ นายลำไย โสมี อายุ 60 ปี ฐานความผิดขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหาย ส่วนการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ อาจเป็นระบบเบรกขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ อีกทั้งรถยังมีสภาพเก่าอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 -15 ปี ซึ่งตำรวจจะได้สอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง

ทางด้าน นางกุลธิณี  บัวเผื่อน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขานครพนม และ คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนอำเภอเมืองนครพนม พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อสุขภาพจิตและยาเสพติด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม  ร่วมกับ นางสาวพัชรา วัฒนกุล อายุ 54 ปี  ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด นางอุทัยวรรณ อาจจำนง พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.บ้านผึ้ง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จากแขวงทางหลวงนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบ หาสาเหตุวางมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เนื่องจากเป็นโค้งอันตรายที่มีอุบัติเหตุบาดเจ็บเสียชีวิตบ่อยครั้ง

นางสาวพัชรา วัฒนกุล อายุ 54 ปี  ผู้จัดการบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เปิดเผยเกี่ยวกับการชดเชยเยียวยาว่า ตรวจสอบแล้วรถยนต์โดยสารดังกล่าวมี พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งคุ้มครองเยียวยาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บในเบื้องต้น เป็นค่ารักษาพยาบาล รายละไม่เกิน 30,000 บาท หากเสียชีวิตไม่เกิน 5 แสนบาท ซึ่งจะได้รับการดูแลเยียวยาทุกราย ส่วนที่เหลือจะต้องดูผลทางคดีว่าใครผิดใครถูก

ส่วน นางประไพ โมเฮี้ย อายุ 48 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านพักอยู่ละแวกนั้น และเผ็นผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ปกติรถยนต์โดยสารนักเรียนคันดังกล่าววิ่งผ่านหน้าร้านทุกวัน และจะต้องมาจอดรับลูกสาวตนที่ยืนรออยู่ริมถนนเสมอ แต่วันนี้ขณะลูกสาวรอรถ เห็นว่ารถมาด้วยความเร็วและไม่จอดรับ ตนมองเห็นคนขับพยายามประคองพวงมาลัย ด้วยการบังคับรถให้เลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าไปเส้นทางถนน 4 เลน แต่ไม่สามารถควบคุมรถได้ เชื่อว่ารถมีปัญหาทำให้รถพุ่งข้ามไปถนนอีกฝั่ง และเสียหลักพลิกคว่ำอยู่ข้างทาง มีเสียงเด็กร้องดังลั่นด้วยความตกใจ ตนพร้อมลูกสาวจึงวิ่งไปช่วยเหลือนำตัวออกจากตัวรถพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ ครั้งนี้ถือว่ายังโชคดีไม่มีคนตาย แต่สามแยกนี้เรียกว่าอันตรายมาก เป็นทางโค้งที่รถใช้ความเร็ว อีกทั้งสามแยกอยู่กลางทางโค้ง จึงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางป้องกันแก้ไข ตนมีบ้านอยู่ตรงนี้ผวาทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ. -008