รวบลูกชายร้านไก่ย่างชื่อดังหน้าสถานีรถไฟลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ควงปืนบีบีกันบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ใช้เวลาแค่ 40 วินาที ได้เงิน 1,500 บาท หลังก่อเหตุเดินกลับบ้านบอกแฟนสาวแทบช็อก เงินที่ได้เอาไปซื้ออาหารแมว ขนม และฝากเข้าบัญชียังเหลือ 700 บาท เจ้าตัวเผยไม่มีปัญหาเรื่องการเงินแต่ชอบเล่นเกมแนวต่อสู้ คาดเลียนแบบเกมเพื่อทดสอบความกล้า
17 ก.ค.65 เวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ (เซเว่น) ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพฯ ในเขตเทศบาลตำบลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ได้เงินไปจำนวน 1,500 บาท จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ และพนักงานสอบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบวงจรปิดสามารถบันทึกรูปพรรณคนร้ายและพฤติการณ์ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน โดยในภาพวงจรปิดจะเห็นว่ามีคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีครีมมีฮู้ดใช้คลุมศรีษะ สวมหน้ากากสีเหลืองปิดบังใบหน้า สวมถุงมือสีดำ กางเกงวอมสีฟ้า รองเท้าผ้าใบสีดำ ในมือถือปืน 1 กระบอก ใช้สำหรับจี้บังคับให้พนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ 2 คน เปิดลิ้นชักเพื่อหยิบเอาเงิน โดยใช้เวลาเพียง 40 วินาที แล้วคนร้ายก็วิ่งออกร้านและหลบหนีไป
หลังได้รับรายงาน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.ลำปลายมาศ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วริษฐ์ ดำพลงาม รองผู้กำกับการ สืบสวน สภ.ลำปลายมาศ นำกำลังชุดสืบออกลงพื้นที่แกะรอยตามภาพกล้องวงจรปิด ว่า คนร้ายหลบหนีไปทางไหนเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟลำปลายมาศ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุก็พบชายที่สวมเสื้อผ้าเหมือนกับคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อ เดินเข้าและออกร้านขายไก่ย่างชื่อดังช่วงเวลาไล่เลี่ยกับช่วงที่เกิดเหตุ
จากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจนปิด เข้าทำการตรวจสอบภายในร้านดังกล่าวว่ามีใครที่มีรูปพรรณตรงกันหรือไม่ ก็พบนายเจษฎากรณ์ หรือเจ (นามสกุลสมมุติ) อายุ 21 ปี ลูกชายเจ้าของร้านกำลังยืนย่างไก่ช่วยพ่ออยู่ จึงได้นำภาพหลักฐานให้ดูนายเจ ยอมรับว่า เป็นบุคคลในภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ลำปลายมาศ
จากการสอบปากคำ นายเจ ยอมรับว่า ได้ก่อเหตุใช้ปืนบีบีกันจี้ชิงเงินร้านสะดวกซื้อจริง ได้เงินไปจำนวน 1,500 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท รวม 15 ใบ ซึ่งเงินที่ได้ก็นำไปฝากธนาคารเข้าบัญชีตัวเอง 400 บาท ซื้ออาหารแมว 200 บาท ซื้อขนมและอาหาร 100 บาท เหลือ 700 บาท วางไว้บนตู้ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ก่อเหตุเสร็จก็เดินกลับบ้านไปบอกแฟนสาวแล้วก็ทำตัวเป็นปกติ ส่วนเหตุจูงใจนายเจ อ้างว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุ เพราะไม่ได้มีปัญหาทางการเงิน แต่ยอมรับว่าชอบเล่นเกมแนวยิงต่อสู้ ส่วนปืนก็อ้างว่าเก็บได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะแม้จะเป็นปืนบีบีกันแต่ข้างในบรรจุกระสุนจริง 1 นัด ก็จะสืบสวนหาที่มาอีกครั้ง ส่วนเหตุจูงใจนั้นก็ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดเพราะครอบครัวผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีฐานะไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน แต่ก็สันนิษฐานว่าอาจะมีพฤติกรรมเลียนแบบเกม แล้วก่อเหตุเพื่อทดสอบความกล้าของตัวเองหรือไม่
เหตุการณ์ครั้งนี้วงจรปิดถือเป็นหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ เพราะสามารถบันทึกภาพได้ตั้งแต่ตอนที่ นายเจ เดินออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังร้านสะดวกซื้อ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร จากนั้นเวลา 01.26 น. ก็ลงมือก่อเหตุ โดยใช้เวลาเพียง 40 วินาที ก็วิ่งออกจากร้าน จากนั้นเวลา 01.34 น. ก็พบภาพเดินกลับเขาบ้าน เพื่อไปเอารถจักรยานยนต์ที่บ้าน แล้วขับไปวัดสง่าท่าชลที เพื่อเอาปืนที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงเสื้อผ้า รองเท้า และถุงมือที่สวมใส่ในวันก่อเหตุไปทิ้งสระน้ำหลังวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวนายเจ ไปชี้จุดที่ทิ้งเสื้อผ้า และปืน โดยให้หน่วยกู้ภัยฯ ช่วยงมค้นหาก็พบทั้งเสื้อผ้า และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุจริง
จากนั้นก็ได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพักอีกครั้ง ซึ่งระหว่างที่สอบปากคำพ่อของนายเจ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายไก่ย่างชื่อดัง ก็เดินทางมาหาลูกชายทันทีที่เห็นลูกชายก็โผเข้ากอดลูกชายแล้วร้องไห้ด้วยความเสียใจ และไม่ขอให้สัมภาษณ์หรือข้อมูลใดๆ
ต่อมานางสาวจ๋า (นามสมมติ) อายุ 17 ปี แฟนสาวของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมา แฟนมาพูดกับตนเองว่าเดี๋ยวจะลองไปปล้นร้านสะดวกซื้อที่อยู่ตรงข้ามธนาคาร ก็คิดว่าแฟนแค่พูดเล่นเท่านั้น แต่ตนก็พูดกับแฟนไปว่าอย่าไปหาทำแบบนั้นเดี๋ยวก็ถูกจับติดคุกหรอก กระทั่งเมื่อประมาณตี 1 กว่าคืนที่ผ่านมา แฟนก็ออกจากบ้านซึ่งไม่รู้ว่าออกไปไหน กระทั่งกลับเข้ามาบ้านอีกรอบก็มาบอกกับตนเองว่าเพิ่งไปปล้นร้านสะดวกซื้อหน้าธนาคารมา ได้เงินมา 1,500 บาท ตนก็ตกใจมากแต่ไม่รู้จะทำยังไง ยอมรับว่าเสียใจมาก.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี