26 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ต.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สารวัตรสอบสวน สภ.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนผูกคอตาย ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน บ้านผ่านศึก 1 หมู่ 3 ต.บ้านตาด จึงออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมไม้ยกพื้น มุงด้วยสังกะสี กั้นด้วยผ้าใบอยู่กลางทุ่งนา พบศพนายศักดิ์ชัย แก้วโสภา อายุ 35 ปี ใช้เชือกไนล่อนสีแดงผูกคอกับขื่อหลังคา สภาพศพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินตัวเดียว ตรวจสอบสภาพศพและรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้และถูกทำร้ายถูกทำร้าย
นางหนูพิน บัวลา อายุ 66 ปี ป้าผู้ตาย ให้การว่า มีชาวบ้านมาบอกว่าหลานผูกคอตาย ตนจึงออกมาดู โดยตนเลี้ยงผู้ตายมาตั้งแต่เด็กและสนิทกับตนมาก ผู้ตายมาเช่าที่ทำนา 4 ไร่ และปลูกกระท่อมนาอยู่ที่นี่ และคบหาเป็นแฟนกับนางติ๊ก (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ที่มีบ้านอยู่ติดกันได้ 2 ปี เมื่อ 2 เดือนก่อน นางติ๊ก ได้ปันใจไปมีแฟนใหม่ ทำให้ผู้ตายคิดมาก เพราะผู้ตายรักนางติ๊ก (นามสมมุติ) คนเดียว และเคยพยายามผูกคอตายมาแล้ว แต่ช่วยไว้ทัน ตนคิดจะมาสอบถามและพูดให้กำลังใจหลาน แต่เห็นผู้ตายทำนาขยันขันแข็ง จึงคิดว่าคงไม่เกิดเหตุร้าย แต่ก็มาผูกคอตายจนได้ สาเหตุก็คงคิดมาเรื่องนางติ๊ก (นามสมมุติ) เสียดายหลานมาก เพราะเป็นคนทำมาหากิน
นางรำไพ แก้วโสภา อายุ 57 ปี แม่ผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นคนขยัน ไม่ค่อยพูด ไม่สุงสิงกับใคร แต่มาอยู่กินกับนางติ๊ก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ม่าย 2 ปี แต่เมื่อ 2 เดือนก่อนนางติ๊ก (นามสมมุติ) ได้ไปมีสามีใหม่อยู่อีกหมู่บ้าน ทำให้ผู้ตายเสียใจและคิดมาก และยังคิดว่าตนกับแม่ของนางติ๊ก (นามสมมุติ) วางแผนให้นางติ๊ก (นามสมมุติ) ไปมีสามีใหม่ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยพยายามผูกคอตาย แต่ชาวบ้านเห็นมาช่วยไว้ทัน
ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ผู้ตายมาขอเงินตน 50 บาท เอาไปเติมน้ำมันรถจยย. ซื้อบะหมี่กึงสำเร็จรูป และบุหรี่ ตนเห็นผู้ตายยังปกติดี ไม่มีท่าทีว่าจะคิดสั้น พอตื่นเช้า ตนได้ออกไปทำงานรับจ้าง ส่วนผู้ตายออกมากระท่อมนา กระทั่งมีชาวบ้านมาบอกว่าลูกชายผูกคอตาย ทางด้านตำรวจสันนิษฐานหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคาดว่าผู้ตายน้อยใจที่เมียที่เป็นแม่หม้ายและเป็นรุ่นพี่หนีไปอยู่กับผู้ชายใหม่ จึงคิดมากและผูกคอตายประชด ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป